รีวิวPCPS4XBOX

[รีวิว] Far Cry 6 ผู้กล้า-ประชาชน-กองโจร โค่นเผด็จการ

เป็นเวลาหลายต่อหลายปีที่ Far Cry ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะเกม FPS รูปแบบโอเพนเวิร์ลพร้อมลายเซ็นของการแอคชั่นสุดโต่ง การต่อสู้กับศัตรูที่มีความคิดฝังหัวแปลกประหลาดให้ความรู้สึกแสนเซอร์เรียลแบบดิบๆ เช่นเดียวกับ Far Cry 6 การกลับมาครั้งนี้ยังคงเดินตามมาตรฐานเดียวกับเกมภาคเก่าๆ พร้อมคลุกเคล้าอารมณ์ดุเดือดของผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหงไปด้วยโทนที่ชวนปลุกเร้าการปฏิวัติ ซึ่งวันนี้เอง  ThisIsGameBase ก็จะพาเพื่อนๆ หลับตาแล้วจินตนาการภาพว่าเท้าของคุณกำลังวิ่งหนีห่ากระสุนก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพบกับแดดสีอำพันและบรรยากาศป่าดิบ โอ้โหนี่มันสูตรสำเร็จชัดๆ แต่ว่าตัวเกมจะเพลย์เซฟกันจนเกินไปหรือว่าพัฒนาจากรากฐานเดิมได้นั้น ขอเชิญมาติดตามกันครับ

【อาณาจักรที่ถูกแช่แข็งด้วยมือเผด็จการ】

ภายในเกมนี้ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Dani Rojas หนึ่งในชาวเมือง Yara ที่ตั้งใจหาววิธีหลบหนีก่อนจะไปจับพลัดจับผลูพบกับ Clara Gracia หัวหน้ากองกำลัง Libertad ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อปลดแอกจากเผด็จการ Anton Castillo ประธานาธิบดีคนใหม่ที่ได้รับหน้าที่จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดพร้อมพยายามให้สัญญาว่าจะนำทางนครแห่งนี้ไปถึงจุดสูงสุดไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม แต่โดยมากแล้วเป็นวิธีที่ตนเองเห็นสมควร ซึ่งแน่นอนว่าเต็มไปด้วยความรุนแรงทั้งการทำร้ายประชาชนคนใดที่ต่อต้านแบบไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง บรรยากาศภายในเกมนอกเหนือจากพื้นที่เขตร้อนเช่นป่าต่างๆ ที่เราจะได้เห็นกัน จะเป็นสถาปัตยกรรมเมืองคล้ายกับว่าอยู่ในปี 1960 – 1970 แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีเช่นผู้คนที่ใช้สมาร์ทโฟนหรืออะไรก็ตาม

ความเป็นอยู่ของผู้คนใน Yara หลายคนอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวเพราะทุกเมื่อชั่วยามกระสุนอาจจะเจาะกบาลกันเมื่อไหร่ก็ได้ ทหาร ตำรวจ ล้วนรับใช้ภายใต้การนำทางของ Anton เห็นแบบนี้แล้ว Dani เองก็ไม่พอใจสักเท่าไหร่ จนเมื่อเขาได้พบชีวิตใหม่กับกองโจร Libertad จึงได้ตัดสินใจเลิกวิ่งหนีและดึงศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในมาเป็นกองโจรที่จะรวบรวมกลุ่มผู้ต่อต้านหลากหลายกลุ่ม (ใช่! เราไม่ได้มีแค่เพียงกลุ่มเดียวที่จะตบตีกับ Anton) ที่บางคนเองก็ดูจะเหม็นหน้า Libertad กันไม่น้อย ความสนุกในแง่เนื้อเรื่องหลังจากนี้คงต้องไปติดตามกัน 

กลับมาที่พื้นที่ในเกมอีกครั้ง ผู้เล่นสามารถเดินทางในเขตหลักๆ ได้อย่างอิสระหลังจากจบเนื้อเรื่องช่วงแรก ซึ่งบางพื้นที่ก็จะเป็นแนวเกษตร บางพื้นที่ก็มีชุมชนเมืองสไตล์ชนบท ทุกที่ล้วนมีลายเซ็นเป็นของตัวเองให้เราค้นหา โดยจะมีการล็อคดาวน์ที่แตกต่างกันบ้างก็แน่นหนา บ้างก็ไม่แน่นหนา (ยิ่งแน่นหนายิ่งท้าทาย) เราจะเห็นภาพของชาวบ้านที่ถูกตำรวจทำร้าย หรือการใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยแบบไร้จุดหมายชวนให้รู้สึกอยากช่วยเหลือพวกเขา แต่ในสถานที่บางแห่งเช่นอุทยานหรือน้ำตกต่างๆ ก็จะมีคนที่ยังชิลๆ ไปเที่ยวกันหรือถ่ายรูปเล่นด้วยเพราะ Anton เองก็ยังต้องการที่จะรักษาภาพลักษณ์ของ Yara ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ควบคู่ไปกับการค้นคว้ายารักษามะเร็ง

【เกมเพลย์】

ตัวเกมมาพร้อมกับการเล่นในแบบ First-person เช่นเดิม ผู้เล่นจะได้ใช้อาวุธปืนหลากหลายชนิดแต่ที่สำคัญที่สุดคือการตระเตรียมอาวุธให้พร้อมเข้ากับสถานการณ์ที่สุดเพื่อเอาชนะในสงครามครั้งนี้ ผู้เล่นจะมีโอกาสได้ปรับแต่งรูปแบบอาวุธเองเช่นกระสุนเจาะเกราะ กระสุนพิษ ไปจนถึงกระสุนไฟ และรูปลักษณ์ปืนมันก็ดูดิบๆ เหมือนประดิษฐ์ขึ้นมาเองจากชิ้นส่วนจริงๆ ซึ่งศัตรูทั้งหมดจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ชวนให้เราคิดกลวิธีว่ากระสุนแบบไหนน่าจะเหมาะกว่า โดยสามารถแบกอาวุธไปได้ทีละถึง 3 กระบอกใหญ่ พ่วงด้วยอาวุธพกไว้ใช้ยามฉุกเฉินอีก 1 สลับเปลี่ยนไปมาได้ตลอดด้วยเมนูวงกลมเหมือนเดิม แต่เวลาอยู่ในเมืองใหญ่หรือเขตชุมชนก็อย่าลืมซ่อนเอาไว้ก่อนนะ ตำรวจเห็นขึ้นมาบอกเลยว่ามีซวย! (อย่างไรเสีย หากเราฆ่าคนไปเยอะๆ ต่อให้ซ่อนปืนไว้ก็โดนสงสัย)

Dani ของเรายังสามารถปรับแต่งเครื่องแต่งกายได้อิสระในส่วนของ Gear ซึ่งจะมีตั้งแต่หน้ากาก, เสื้อ, กางเกง, รองเท้า และเครื่องประดับ อุปกรณ์ทั้งหมดทั้งปวงเหล่านี้จะพ่วงมากับ Perk เจ๋งๆ เช่นลดอาการติดไฟ ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือเพิ่มค่าพลังป้องกันระหว่างที่เราวิ่งอยู่ ความน่าชื่นชมก็คือการดีไซน์ของมันสอดคล้องกับทักษะเสริมที่จะได้รับ จึงไม่ต้องมาห่วงว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับว่าถ้าแต่งตัวตามสกิลที่ต้องการแล้วชุดจะดูแหวกแนวเกินไปเหมือนที่คนแซวในเกมอื่นๆ อย่างไรเสียบางชุดอาจจะไม่ได้มีวางขายหรือให้ปลดล็อคทั่วไป อย่างน้อยเราก็สามารถหาข้อมูลได้จากเมนูได้เลย ถือว่าสะดวกและเป็นมิตรกับผู้เล่นไม่น้อยเลย

นอกเหนือจากนั้นแล้ว อีกสิ่งที่เพิ่มเข้ามาในเกมภาคนี้คือระบบมุมกล้องแบบ TPS ที่จะฉายออกมาให้เห็นตัวละครเราเมื่อเดินทางไปในบางจุดยกตัวอย่างเช่นแคมป์ของกลุ่มผู้ต่อต้าน หลายคนอาจกังวลว่าจะใช้งานยากหรือเปล่า ขอบอกว่าไม่ยาก แต่จริงๆ แล้วก็รู้สึกไม่จำเป็นเท่าไหร่เลย เพราะว่าจากที่เรากำลังดื่มด่ำกับโลกอยู่กล้องก็แพนออกมาให้อารมณ์ตัดไปเสียอย่างนั้น (เฮ้อ) เข้าใจว่าเป็นการนำเสนอตัวละครของเราให้มีชีวิตชีวามากขึ้นควบคู่กับคัทซีนที่ตอนนี้เองก็ไม่ได้ถ่ายทอดผ่านสายตาแล้วแต่เป็นฉากเหมือนภาพยนตร์กันไปเลย

【แอคชั่นที่จัดใหญ่กว่า】

เรื่องของแอคชั่นก็อยู่ในสเกลที่บิ๊กกว่าเดิมเริ่มต้นที่ Supremo อาวุธทำลายล้างที่เราจะสะพายไปไหนต่อไหนได้ โดยทำหน้าที่คล้ายกับสกิลอัลติเมท ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีความแตกต่างกันเช่นจรวดนำวิถี, วงจรรัศมีฮีล หรือระเบิด EMP ไว้ไฮแจ๊คระบบกล้องวงจรปิดหรือเสียงกริ่งรอบข้าง แต่ดูๆ แล้วสิ่งที่น่าจะมันส์สะใจแฟน Far Cry ที่สุดคงเป็นจรวดเพราะว่ามันโคตรจะทำลายล้างแบบระเบิดระเบ้อกันเลยจนบางทีเรารู้สึกว่ามัน OP ไป อย่างไรก็คงต้องดูว่าเหมาะสมกับตอนไหน หากใครอยากเล่นเป็นบทสายซัพพอร์ตก็อาจจะใช้ Supremo ในแบบกล่องพยาบาลเพื่อฮีลเพื่อนกันก็ได้… ใช่ครับเกมนี้รองรับ Co-op เต็มรูปแบบตลอดทั้งแคมเปญกันเลย (หลังจากจบภารกิจแรก) แถมยังมีบางภารกิจที่จะปรากฏขึ้นมาเมื่อเล่นกับเพื่อนด้วยนะครับ

ที่ขาดไม่ได้ก็คือ Amigo ระบบใหม่ที่ให้เรานำสัตว์เลี้ยงคู่หูไปร่วมผจญภัยกันด้วย หลายคนน่าจะมีโอกาสเห็นเจ้าหมาไส้กรอกติดล้อกันไปแล้ว ซึ่งในเกมจริงก็มีหลายตัวให้เลือกสรรเลยตั้งแต่ Guapo จระเข้ฟันสีทอง (ภาษาเม็กซิกันแปลว่าสุดหล่อ) ที่เราสามารถชี้นิ้วสั่งไปฆ่าศัตรูจากระยะไกลได้ หรือจะเป็น Chicharron ไก่โคตรดุเป็นต้น ทุกตัวมีคุณสมบัติเฉพาะตัวเช่นความดุดัน หรือเจ้าหมาไส้กรอกเองที่อาจจะไม่เน้นสู้แต่ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจศัตรูระหว่างเรา Stealth ไปทางอื่นได้ อีกทั้งระหว่างทางเราอาจเจอพรรคพวกกองโจรที่มาแนะนำบอกใบ้จุดสำคัญต่างๆ ให้ด้วยเหมือนกัน แล้วก็เกือบลืมไป! พอพูดถึงการเล่นแบบลอบเร้น ผู้เล่นสามารถหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาส่องแทนกล้องถ่ายรูปเพื่อปักหมุดกล้องวงจรปิดและดูสกิลของทหารได้ด้วย น่าจะช่วยในการวางแผนได้มากพอสมควร

【เขาเรียกผมว่า… คนดี】

ความน่าสนใจในตัวของ Anton Castillo คือเขาเป็นคนที่วางบทมาเป็นตัวร้าย แต่ในอีกมุมหนึ่งเกมกลับโชว์ให้เห็นว่าสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วไม่รู้สึกว่ายี่หระเป็นเพราะว่าเขามีความเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกจริงๆ แล้วทีงี้พอไม่มีคนห้ามมันก็เลยไปกันใหญ่ (ลามไปจนถึงนักข่าวที่เรียกเขาว่าเผด็จการก็โดนจับเข้าค่ายกักกันไปใช้แรงงานทาส) เราจะพบว่า Anton ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำตามคำสัญญาจริงๆ เพื่อให้ Yara กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง เขาทำหน้าที่พ่อได้ดีในการ ‘ดูแล’ ลูก ทว่าในแง่ความเชื่อและการปลูกฝังแนวคิดต่างๆ ให้ลูกเราก็ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองในฐานะผู้เล่น ในฝั่งของ Diego ผู้เป็นลูกชายก็ซับซ้อนมีมิติไม่แพ้กัน ถึงเขาจะรัก Anton ขนาดไหนก็มีหลายครั้งที่ไม่ถูกใจในสิ่งที่พ่อทำ และมีความขบถตามประสาวัยรุ่น

มาถึงตอนนี้ผู้เล่นจะได้ตั้งคำถามว่าความเป็น ‘คนดี’ มีบรรทัดฐานอะไรมาตัดสิน มีมาตรฐานอะไรมาจำแนกว่าสิ่งนี้ดีสิ่งนี้ไม่ดี การไล่ปิดปากฝั่งตรงข้ามแม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่ชอบธรรม แต่ถ้า Anton มองว่าเป็นอุปสรรคต่อ ‘ชาติบ้านเมือง’ ของตนเอง เขาก็เลือกที่จะเชือดไก่ให้ลิงดูแบบไม่เสียดาย แล้วสิ่งไหนที่ถูกต้องกันล่ะ? พวกเราคิดว่าจุดนี้คือสิ่งที่เกมต้องการให้เราพินิจพิจารณาว่าจากการกระทำทั้งหมด ผู้เล่นควรยึดติดกับความรักบ้านเมืองของ Anton หรือแนวคิดแห่งความเป็นเสรีที่อารยชนยอมรับ ท้ายที่สุดแล้วขอยกความดีความชอบให้ Giancarlo Esposito ที่รับบทตัวร้ายสุดซับซ้อนจนทำให้เรารู้สึกหมั่นไส้

【กราฟิก】

เราน่าจะได้เห็นงานภาพของเกมกันไปเรียบร้อยแล้วว่าดูดีขนาดไหน สำหรับเวอร์ชั่นเน็กซ์เจ็นอเองก็รองรับการใช้งานที่ภาพความละเอียดสูง 4K ในเฟรมเรตระดับ 60FPS ซึ่งผู้เล่นจะต้องติดตั้งชุด HD Texture Pack แยกกันด้วยเพื่อประสบการณ์สูงสุด โดยอุปกรณ์รุ่นเก่าอย่าง PlayStation 4 Slim ได้มีการเปิดทดสอบเกมแล้วพบว่าไม่สามารถใช้งานแพคนี้ได้ (รวมไปถึง PlayStation 4 Pro) และมีเฟรมเรตระดับ 30FPS ค่อนข้างคงที่ไม่เจออาการงอแงหรือเฟรมตกให้ปวดใจ

【การแปลภาษาไทย】

หากเพื่อนๆ คนไหนช้ำใจกับ Ghost Recon: Breakpoint ในเวอร์ชั่นภาษาไทยมาครั้งนี้ขอบอกว่าไม่ต้องเซ็งอีกต่อไปครับ เพราะคราวนี้ Ubisoft ทำการบ้านมาดีมากๆ ด้วยบทบรรยายที่มีความเป็นธรรมชาติกว่าเดิม อารมณ์มาเต็มทั้งคำหยาบ คำอุทานตามสไตล์ของเรื่อง ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอคำพูดแปลกๆ ผิดบริบทอีกต่อไป ในส่วนของสรรพนามการเรียกตัวละครก็เช่นกัน พบว่ามีพัฒนาขึ้นมาชัดเจน โดยรวมจะใช้คำว่า แก บ่อยๆ เป็นตัวเลือกที่เป็นกลางด้วยธีมของมันอยู่แล้ว ที่่น่าชื่นชมอีกจุดคือเราสามารถเลือกได้ด้วยครับว่าจะให้แปลภาษาไทยแค่ส่วนของเมนู หรือไดอะล็อกเท่านั้น บางคนอาจจะชินกับการควบคุมคำสั่งด้วยภาษาอังกฤษมากกว่า มีมารองรับให้สบายๆ

【บทสรุปและข้อบกพร่อง】

Far Cry 6 รักษามาตรฐานการเป็นเกม FPS ระเบิดภูเขาเผากระท่อม (รอบนี้ระเบิดกันตูมตามกว่าเดิม) สุขเศร้าเคล้าซีนตลกเชิงเสียดสีได้แบบเดิมไม่มีเปลี่ยน แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วเกมเพลย์เองก็ไม่ได้หวือหวาไปจากภาคเก่าๆ เสียเท่าไหร่ ถือว่าสอบผ่านในการเป็นจุดเริ่มต้นของเกม Far Cry ในยุคใหม่เพราะนำสูตรสำเร็จทุกอย่างมาถ่ายทอดได้เต็มที่เหมือนเดิมทั้งเซ็ตติ้งฉากหลังเขตร้อน, อาวุธเพี้ยนๆ ซ่าส์ๆ ที่สำคัญที่สุดก็คือวายร้ายสติแตก และในอนาคตเองก็ยังมีคอนเทนต์เสริมทั้งฟรีอัปเดตและเนื้อหาเพิ่มเติมจาก Season Pass รอเสิร์ฟด้วย

สุดท้ายนี้พวกเราก็ขอขอบคุณ Ubisoft ประเทศไทย สำหรับการสนับสนุนตัวเกมเวอร์ชั่นรีวิว ณ ที่นี้ และขอบอกเลยว่า Far Cry 6 จะยังทำหน้าที่ตามที่แฟนๆ คาดหวังได้อย่างไม่บกพร่องแน่นอน ซึ่งพวกเราก็มั่นใจว่าหลายคนคงพรีออเดอร์กันเอาไว้แล้ว ส่วนใครที่สนใจสามารถสั่งซื้อกันได้เลยทั้งบน PlayStation 4, Xbox One และ PC รวมไปถึงเวอร์ชั่นเน็กซ์เจ็นบน PlayStation 5 และ Xbox Series X สุดท้ายนี้ ThisIsGameBase ขอตัวไปสาดกระสุนต่อก่อนแล้วกัน ไว้พบกันใหม่นะสหายกองโจร!

บทสรุป

ถึงแม้จะมีความอลังการเพิ่มขึ้นแต่ว่าเกมเพลย์เองก็ไม่ได้หวือหวาไปจากภาคเก่าๆมากนัก แต่ถือว่าสอบผ่านในการเป็นจุดเริ่มต้นของเกม Far Cry ในยุคใหม่เพราะนำสูตรสำเร็จทุกอย่างมาถ่ายทอดได้เต็มที่เหมือนเดิม - 9

9

คะแนน

ความดีงามคือฉากแอคชั่นที่ยิ่งใหญ่ กราฟฟิคสามารถแสดงผลที่ความละเอียดสูง 4K ในเฟรมเรตระดับ 60FPS และมีภาษาไทยในเกม

User Rating: Be the first one !

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save