Watch Dogs: Legion – Bloodline เชื่อมจักรวาล Watch Dog ด้วยตัวละครหน้าเดิมที่คุณคิดถึง
Watch Dogs: Legion – Bloodline จะพาผู้เล่นออกผจญภัยไปกับ Aiden จาก Watch Dogs 1 และ Wrench จาก Watch Dogs 2 ที่จะต้องร่วมมือกัน (แบบไม่เต็มใจนัก) ในการทำภารกิจใหญ่ใน London เพื่อล้มองค์กรยักษ์ใหญ่ลงให้ได้ ซึ่งบอกได้เลยว่าภารกิจนี้ ไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อย และแน่นอนว่าผู้เขียนก็ได้นำประสบการณ์การเล่นเกมนี้มาให้ทุกท่านได้ติดตามกันครับ
การเข้าเล่น DLC นี้ก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ผู้เล่นซื้อ DLC Blood Line และติดตั้งให้เรียบร้อย ผู้เล่นจะสามารถเข้าเล่นได้ทันทีผ่านเมนูหน้าจอหลัก
อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 และเป็นการรีวิวในวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2564 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีแพทช์ออกมาแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้
เนื้อเรื่องใหม่ ย้อนหวนอดีตเชื่อมโยงเรื่องราว
ภายในเกม Watch Dogs: Legion – Bloodline ผู้เล่นจะได้เจอกับตัวละครจากเกม Aiden จาก Watch Dogs 1 และ Wrench จาก Watch Dogs 2 ซึ่งเนื้อหาภายใน DLC นี้จะเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องหลักของ Watch Dogs: Legion ซึ่งเราจะได้เจอกับ Aiden ที่ได้รับภารกิจลอบเข้าไปในห้องวิจัยเทคโนโลยีของ Broca Tech เพื่อขโมยเทคโนโลยีลึกลับซึ่งมีมูลค่ามหาศาล แต่เขาต้องพบกับ Wrench ที่หลบหนีไปพร้อมกับอุปกรณ์ชิ้นนี้ จนทำให้ Aiden ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก และเพื่อเอาชนะองค์กรยักษ์ใหญ่ Aiden , Wrench และ Jackson ต้องร่วมมือกันเพื่อล้มศัตรูให้ได้
จากที่ผู้เขียนได้เล่น DLC ยอมรับว่าประทับใจในการเชื่อมโยงเรื่องราวของเกมทั้ง 3 ภาคเข้าด้วยกันอย่างเนียน ๆ ซึ่งหากผู้เล่นคนไหนที่เคยเล่นเกมมาในทุกภาคก็คงจะประทับใจไม่น้อย และคงหายคิดถึงตัวละครหน้าเดิมอย่างแน่นอนครับ
เกมเพลย์แบบเดิม เพิ่มเติมคือสอนทวนให้
สำหรับเกมเพลย์ใน Watch Dogs: Legion – Bloodline ต้องบอกก่อนว่ายังคงยืนพื้นเหมือนกับ Watch Dogs: Legion ทุกประการไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ การแฮ็ก รวมไปถึงระบบต่าง ๆ ภายในเกมที่ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย ทำให้ผู้เล่นที่เคยเล่นเกมภาคหลักอยู่แล้วสามารถเล่นเกมนี้ต่อได้อย่างสบายใจ
ในทางกลับกันหากผู้เล่นคนใดที่ไม่ได้เล่นเกม Watch Dogs: Legion มาระยะหนึ่งแล้ว และกลัวว่าจะลืมวิธีการบังคับภายใน DLC นี้ก็ไม่ต้องกังวลใจไปครับ เพราะตัวเกมได้แทรกการสอนทวนการเล่นเกมนี้มาให้เราได้ทำตามกันด้วย ฉะนั้นหากใครที่ไม่เคยเล่นเกมภาคหลักมาก่อน หรือไม่ได้เล่นมานานแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลใจไปครับ รับรองเล่นได้อย่างสบายใจเช่นกัน
จุดที่น่าเสียดายที่สุดคือ ระบบชูโรงของภาคหลักซึ่งก็คือการ “หาเพื่อนเข้าทีม” ถูกตัดออกไปจาก DLC นี้ทำให้เราจะได้ดำเนินเนื้อเรื่องด้วยตัวละครที่จำกัด ซึ่งถือว่าน่าเสียดายไม่น้อยเลยครับ
จอย Dualsense ที่แอบสร้างความลำบากเล็กน้อย
ผู้เขียนได้เล่นเกมนี้บน PS5 ซึ่งทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าจุดเด่นที่สุดของเกมบน PS5 คือการใช้ระบบจอยใหม่อย่าง Adaptive Trigger บนจอย Dualsense ซึ่งเกมนี้ได้ใช้ระบบของจอยดังกล่าวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกกับการใช้ระบบจอยภายในเกมนี้คือ “แอบลำบากเล็กน้อย”
สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือปุ่มยิง (R2) ที่โดยปกติแล้วเราจะสามารถกดยิงได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องออกแรง แต่ถ้าหากผู้เล่นเล่นบน PS5 การกดยิงของผู้เล่นจะต้องออกแรงเล็กน้อย ราวกับเรากำลังเหนี่ยวไกปืนจริง ๆ แต่นอกเหนือจากความสมจริง (ที่แอบลำบาก) แล้ว Adaptive Trigger ก็ไม่ได้มีประโยชน์ใด ๆ นอกเหนือจากนี้อีกเลย ซึ่งจุดนี้ทำให้ผู้เขียนคิดว่า “ไม่ต้องใส่มาก็ได้” หรือ “น่าจะใส่มาให้ดีกว่านี้อีกหน่อย”
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ UBISOFT Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยครับ หากใครต้องการซื้อเกมนี้ไปเล่นสามารถสั่งซื้อได้ที่นี่เลย [คลิก]
บทสรุป
เนื้อเรื่องที่น่าติดตามในระดับที่น่าพึงพอใจ แต่ไม่มีระบบหลักอย่างการ “หาคนเข้าทีม” ทำให้เกมเพลย์ของ DLC นี้น่าสนใจน้อยลงไป - 8
8
คะแนน
Watch Dogs: Legion – Bloodline เป็น DLC ที่เรียกได้ว่าอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาที่น่าติดตาม และเชื่อมโยงจักรวาลของ Watch Dog เข้าด้วยกันทั้ง 3 ภาค นอกจากนี้เนื้อหาใน DLC ไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับเนื้อหาหลัก ฉะนั้นผู้เล่นไม่ต้องกังวลใจว่าจะงงหากยังเล่นเนื้อเรื่องหลักไม่จบ แต่ในส่วนของเกมเพลย์นั้นยังถือว่าเดิมๆ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ที่ทำให้ DLC นี้โดดเด่นมากขึ้นไปกว่าเดิมเท่าไหร่นัก