เกม

Namco เคยรุ่งเรืองขนาดไหนในอดีต ? ก่อนที่จะถูกหลอมรวมกับ Bandai ตอนที่ 2

ตำนานผู้พัฒนาเกมเบอร์ต้นของโลกที่ยังเป็นไอคอนสำคัญให้กับวงการเกมจนถึงทุกวันนี้...

รู้หรือไม่ว่า ก่อนที่ Bandai Namco จะมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในทุกวันนี้ ทาง Namco เองในสมัยอดีตที่ยังเป็นบริษัทของตัวเองอยู่ก็มีความนิยมและตลาดที่ใหญ่ไม่แพ้กับตอนนี้เลย พวกเขาอยู่ในอุตสาหกรรมเกมมาได้นานกว่า 50 ปี ก่อนที่จะถูก Bandai เทคโอเวอร์ไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 นี้ 

แล้วก่อนที่ทาง Bandai และ Namco จะเจอกันได้ พวกเขาต้องพบเจอกับปัญหาอะไรมาบ้าง ? บทความนี้ มีคำตอบให้แล้ว…

• วิกฤตการเงินที่ทำให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างใหม่…

ประเทศญี่ปุ่นเกิดเหตุการณ์วิกฤตทางเศรษฐกิจขึ้นอย่างหนักหน่วงในปี 1998 ซึ่งส่งผลให้ Namco มีผลประกอบการในปีนั้นลดลงถึง 26.3% เพราะลูกค้าของทางบริษัทนั้นมียอดใช้บริการลดลง ทำให้แผนก Namco Cybertainment ที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ในโซนอเมริกาจำเป็นต้องยื่นแบบฟอร์มป้องกันการล้มละลายตามกฎหมาย Chapter 11 ในปีเดียวกัน ในขณะที่ปี 1999 ทาง Namco มีผลประกอบการลดลงไปถึง 55% จากยอดขายเกมคอนโซลที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง พวกเขาต้องปรับตัวด้วยการเข้าถึง “วงการเกมมือถือ” ด้วยการก่อตั้ง Namco Station ขึ้นมา มีการนำเกม Pac-Man และ Galaxian มาพอร์ทให้กับมือถือที่รองรับระบบ i-Mode ของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ Namco ยังมีการไปเทคโอเวอร์ Monolith Soft บริษัทผู้สร้างเกม Xenosaga ให้มาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทตัวเองอีกด้วย

แต่สถานการณ์ต่าง ๆ ของ Namco กลับไม่ดีขึ้น ในเดือนมีนาคม 2001 มีการรายงานว่าพวกเขาสูญเสียรายได้ไปมากกว่า 2.1 พันล้านเยน ส่งผลให้พวกเขาต้องปิดตัวสวนสนุก Wonder Eggs ในวันที่ 31 ธันวาคม 2000 ไปด้วย ทั้่งที่ในปีนั้นปีเดียวยังมีนักท่องเที่ยวเข้าไปมากกว่า 6 ล้านคนก็ตาม พอเข้าสู่ปี 2001 พวกเขาสูญเสียรายได้เพิ่มขึ้นอีกเป็น 6.5 พันล้านเยน หรือคิดเป็น 95% ของรายได้ทั้งหมด พนักงานมากกว่า 250 คนต้องถูกปลดออกจากงาน บริษัทมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่แบบเร่งด่วนและมีการประกาศว่าพวกเขาจะเริ่มพัฒนาเกมให้กับคอนโซลใหม่ ๆ ในยุคนั้นอย่าง GameCube ของ Nintendo รวมถึง Xbox ของ Microsoft ด้วย เพื่อให้ปัญหาการขาดทุนของบริษัทนั้นเบาบางลงไปบ้าง

แผนกอาร์เคดของ Namco นั้นก็มีการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญเช่นกัน แต่พวกเขาก็ได้สร้างผลงานชิ้นสำคัญอย่าง Taiko no Tatsujin เกมตีกลองที่กลายเป็นกระแสโด่งดังในยุคมิลเลนเนียลและกลายเป็นเกมที่กลับมากู้หน้าให้กับ Namco ได้อีกครั้ง แต่ผลงานโดยรวมของแผนกอาร์เคดทั่วโลกก็ยังไม่ดีพอที่จะทำให้พวกเขากลับมาสร้างกำไรได้เท่าที่ควรนัก…นากะมุระก็พยายามเข้าหาบริษัทผู้พัฒนาเกมหลายรายเพื่อที่จะหลอมรวมกับพวกเขาและหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ก็ต้องถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความไม่มั่นคงของทางบริษัทตัวเอง ทำให้บริษัทอื่นไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อจากนี้

เพื่อเรียกศรัทธาของบริษัทกลับมา ในช่วงครบรอบ 50 ปีของ Namco พวกเขาได้ปล่อยคอลเลคชันเกมพิเศษ NamCollection มาลงให้กับคอนโซล PlayStation 2 รวมทั้งยังเคยเปิด Riraku no Mori ซึ่งเป็นสถานบริการนวด เพราะพวกเขาเชื่อว่าการผ่อนคลายจะช่วยให้เข้าถึงความบันเทิงได้ง่าย (ซึ่งในความจริงก็อาจไม่เกี่ยวข้องกันเลย) และสุดท้าย พวกเขาก็ได้เปิดตัวโปรเจกต์ The Idolm@ster ขึ้นมา ตัวเกมเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างแล้วก็จริง แต่ก็ไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรกับเรื่องสถานะการเงินของบริษัทได้มากเท่าไรนัก

• Bandai (The) Namco Saviour

Namco เริ่มหมดหนทางที่จะไปต่อด้วยตัวเอง พวกเขาใช้โอกาสสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ไปเจรจากับ Bandai ค่ายของเล่นและอนิเมะชื่อดังของญี่ปุ่นในช่วงต้นปี 2005 โดยมีการเสนอเรื่องการหลอมรวมบริษัทเข้าด้วยกัน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น Namco ก็มีโปรเจกต์สร้างเกม Mobile Suit Gundam ร่วมกับ Banpresto ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Bandai อยู่แล้ว ทำให้ทั้งสองค่ายเริ่มเล็งเห็นความสามารถของแต่ละฝ่ายที่จะสามารถสร้างผลงานดี ๆ ให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงได้

อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการหลอมรวม Namco กับ Bandai นั้นก็มีนากะมุระและทีมที่ปรึกษาพิเศษของเขา โดยพวกเขาคิดว่าสภาพแวดล้อมการทำงานของ Namco นั้นไม่เหมาะกับ Bandai ที่มุ่งเน้นการตลาดและโปรโมชันต่าง ๆ มากเกิน แต่ด้วยสภาพการเงินของบริษัทที่ย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง บวกกับโอกาสที่แทบจะไม่เหลือหนทางอื่นแล้ว นากะมุระก็ถูก อิชิมุระ ลูกเขยของเขาเอง “กดดัน” ให้ข้อเสนอในครั้งนี้เกิดขึ้นให้ได้ จนกระทั่งในวันที่ 2 พฤษภาคม 2005 ก็เริ่มมีการทำสัญญาระหว่างสองค่ายขึ้นมา พร้อมกับการจัดตั้ง Namco Bandai Holdings ขึ้นมา โดยทาง Namco และ Bandai จะต้องดำเนินงานภายใต้การดูแลของบริษัทที่ถูกจัดตั้งขึ้นใหม่นี้และนำโดย คิวชิโระ ทาคางิ (Kyushiro Takagi) รองประธานบริษัท Namco

Bandai เทคโอเวอร์ Namco ไปด้วยมูลค่าทั้งสิ้น 175.3 พันล้านเยนและเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2005 ส่วนมูลค่ารวมของทั้งสองบริษัทหลังจากรวมกันแล้วพวกเขาจะมีมูลค่ามากถึง 4.58 แสนล้านเยน ทำให้ Namco Bandai (ขื่อที่ใช้ในขณะนั้น) กลายเป็นค่ายเกมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่นในระยะเวลานั้น ส่วนการดำเนินงานของ Namco ก็ยังเป็นไปตามเดิม พวกเขาได้สร้างเกม Ridge Racer ภาคต่อออกมา หลังจากนั้นก็เริ่มมีโปรเจกต์เกม Mario Kart Arcade GP ร่วมกับ Nintendo และยังมีเกมพิเศษ Pac-Pix เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 25 ปีของแฟรนไชส์ Pac-Man ขึ้นมาอีกด้วย

แผนกย่อยต่าง ๆ ของ Namco ทั้งในโซนอเมริกาและญี่ปุ่นก็ต่างทยอมรวมตัวกับทาง Bandai มาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดชื่อหลักของบริษัทใหม่ที่ถูกหลอมรวมนี้ก็กลายเป็น Bandai Namco Entertainment (BNE) อย่างเป็นทางการในปี 2015 ชื่อของ Namco ในปัจจุบัน ชื่อของ Namco ก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้างในสินค้าหรือโปรแกรมบางอย่างตัวเกมที่ออกมาใหม่ ๆ ตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปัจจุบัน เพื่อให้ค่ายยังเป็นที่จดจำในกลุ่มเกมเมอร์อยู่เหมือนเดิม แต่ลิขสิทธิ์เกมต่าง ๆ หลังช่วงหลอมรวมก็จะถือเป็นของ Bandai Namco ทันที…

บทสรุปทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของ Namco ก่อนที่จะมีการหลอมรวมกับ Bandai ได้อย่างดี พวกเขาสร้างเกมในตำนานไว้มากมาย หลายเกมที่ปล่อยออกไปก็กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับวงการเกมอีกด้วย ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ Namco จะไม่ได้เป็นองค์กรที่มีบทบาทโดดเด่นอะไรเท่าอดีตกาล หรือก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวว่า มาซายะ นากะมุระ ผู้ก่อตั้งคนสำคัญของ Namco จะเสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2017 แต่ผลงานและชื่อเสียงของพวกเขาจะไม่หายไปไหนได้ง่าย ๆ ในขณะที่ผลงานร่วมกับของพวกเขาและ Bandai จะยังเป็นผลงานที่มีคุณภาพสำหรับชาวเกมเมอร์กันต่อไป

นี่คือเรื่องราวความเป็นมาของค่ายเกมชื่อดัง Namco ที่กลายมาเป็นตำนานมากกว่าครึ่งศตวรรษ ก่อนที่จะกลายเป็น Bandai Namco ในแบบที่เกมเมอร์ยุคปัจจุบันได้รู้จักกัน

ในบทความถัดไป เราจะมาเจาะลึกเกี่ยวกับเรื่องราวของ Bandai Namco รวมถึงเกมต่าง ๆ ที่น่าสนใจทั้งจากซีรีส์เกมดังตั้งแต่ยุคก่อนและหลังหลอมรวม รวมถึงความเป็นมาของบุคคลและเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ในค่าย แล้วจะเป็นเรื่องอะไรต่อไปนั้นก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาด !

…หรือใครอยากให้เรานำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับใคร หรืออะไรเกี่ยวกับวงการเกม ก็ลองมาบอกเล่าให้เราฟังกันได้ในทุกช่องทางของเรากันได้  

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save