จุดเริ่มต้นของชาวไซย่าจากการ์ตูน Dragon Ball ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นที่รู้จักของชาวโลก
มีความเป็นมาอย่างไรไปเสพพร้อมกันครับ
ในบทความนี้เราจะเดินทางย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นของหนึ่งในเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของการ์ตูน ผลงานของอาจารย์โทริยาม่า อากิระ ผู้สร้างสรรค์จักรวาล Dragon Ball กันครับ
ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวการผจญภัยและการต่อสู้ แต่ยังสะท้อนถึงทัศนคติและวิสัยทัศน์ที่ลึกซึ้งของเขา แม้ว่าในตอนเริ่มแต่งเรื่องนี้อาจารย์โทริยาม่าจะไม่ได้วางรูปแบบจุดเริ่มต้นจักรวาล Dragon Ball ไว้แบบนี้และได้มาเติมแต่งในภายหลัง แต่ก็ยังนำเสนอโลกที่เต็มไปด้วยความฝัน ความหวัง ความกล้าหาญ และเร้าใจ ผ่านการพัฒนาตัวละครในสถานการณ์ที่ท้าทาย การสร้างสรรค์นี้ทำให้เราเห็นถึงการเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ของชาวไซย่าและการเติบโตของพวกเขาจนกลายเป็นตำนานที่เรารู้จักในปัจจุบัน ที่นี้เรามารู้จักเผ่าพันธุ์ที่มีชื่อว่า ชาวไซย่า(Saiyan) ว่าพวกเขามีที่มาและต้นกำเนิดเป็นอย่างไร
- ต้นกำเนิดชาวไซย่า
- สงครามระหว่างชาวไซย่าและชาวทัฟเฟิล
- ผลประโยชน์และความกังวลใจของฟรีเซอร์
- การทำลายล้างดาวเบจิต้า
ต้นกำเนิดชาวไซย่า
ชาวไซย่าเป็นเผ่าพันธุ์นักสู้ที่ใช้ชีวิตอย่างโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมมาตั้งแต่สมัยโบราณ พวกเขาอาศัยอยู่บนดาวซาดาลา (Sadala) ซึ่งเป็นดาวบ้านเกิดดั้งเดิมของชาวไซย่า แต่ไม่นานดาวดวงนี้ก็ถูกทำลายลงด้วยความขัดแย้งภายในและความขัดแย้งที่เกิดจากชาวไซย่าที่อาศัยอยู่ที่นั่น โดยชาวไซย่าจะโจมตีดาวเคราะห์ต่างๆ มากมายเพื่อสร้างความมั่งคั่งและเก็บไปเป็นสินค้า มีการคาดเดาว่าชาวไซย่าเดิมทีเป็นลิงยักษ์ที่ได้รับสติปัญญาและกลายร่างเป็นมนุษย์ได้
ซูเปอร์ไซย่ารุ่นแรกๆ ปรากฏตัวเมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อน ก่อนเรื่องราวของฟรีเซอร์ Frieza บนดาวนาเม็ก ชาวไซย่าคนนี้เป็นบุคคลที่มีหัวใจอันสูงส่งและพยายามหยุดยั้งเพื่อนชาวไซย่าที่ชั่วร้ายร่วมกับสหายของเขา อย่างไรก็ตามชาวไซย่าที่ดีและชาวไซย่าผู้ชั่วร้ายก็ขัดแย้งกันเป็นเวลานานจนเป็นสงครามกลางเมือง โดยชาวไซย่าที่ดีก็สามารถเอาชนะได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ในที่สุดชาวไซย่าที่ชั่วร้ายก็กำจัดชาวไซย่าที่ดีได้ และด้วยเหตุนี้ ชาวไซย่าในยุคปัจจุบันทั้งหมดจึงสืบเชื้อสายมาจากชาวไซย่าที่ชั่วร้ายดังที่เราเห็นได้จากบุคลิกของ เบจิต้า นัปปะ และราดิช
หลังจากสงครามกลางเมืองผ่านไป ดาวเคราะห์ซาดาลา (Sadala) ก็ถูกทำลายลง ชาวไซย่ากลุ่มเล็กๆจึงได้อพยพออกไป จนกระทั่งได้เจอดาวที่ชื่อว่าแพลนท์ (Planet Plant)โดยดาวพลันต้าเป็นดาวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่ตั้งของชาวพื้นเมืองที่ชื่อพลันเที่ยน หรือทัฟเฟิล (Tuffles) ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและอาศัยอยู่ในสังคมที่สงบสุข พวกเขามีลักษณะคล้ายคลึงกับชาวโลกประเภทมนุษย์ถึงแม้ว่าโดยเฉลี่ยแล้วจะตัวเล็กกว่าก็ตาม มีการกล่าวว่าพวกเขายังเป็นผู้คิดค้นสร้างสเกาเตอร์ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ในเวอร์ชั่นที่มีตาคู่ เดิมที ชาวทัฟเฟิลสร้าง สเกาเตอร์ขึ้นมาเพื่อช่วยในการป้องกันศัตรูและสัตว์ร้าย แต่หลังจากสงครามระหว่างชาวไซย่าและทัฟเฟิล วิศวกรที่มีทักษะสูงในกองทัพของฟรีเซอร์ มองเห็นความสามารถของสเกาเตอร์และปรับเปลี่ยนเป็นตัวเลขโชว์พลังการต่อสู้และความสามารถด้านการสื่อสาร ด้วยเหตุนี้ ทหาร กองกำลังฟรีเซอร์จึงเริ่มใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการรบ
สงครามระหว่างชาวไซย่าและชาวทัฟเฟิล
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสองเผ่าพันธุ์สามารถอธิบายได้ว่าชาวทัฟเฟิล (Tuffles) ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่อุดมสมบูรณ์ของดาวเคราะห์แพลนท์ (Plant) ในเมืองใหญ่ ในขณะที่ชนเผ่าไซย่า อาศัยอยู่ในดินแดนรกร้าง และทั้งสองเผ่าพันธุ์นั้นแทบจะไม่เคยเกี่ยวข้องกันเลย ชาวไซย่า ซึ่งมาถึงใหม่ๆบนยานอวกาศที่กำลังจะพัง โดยชาวทัฟเฟิล Tuffles อนุญาตให้พวกเขาตั้งถิ่นฐานที่นั่นได้ พร้อมด้วยภาพของชาวไซย่า จับมือกับทัฟเฟิล Tuffles
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ชาวไซย่า เพิ่มจำนวนทวีคูณอย่างรวดเร็ว และชาวไซย่า ที่มีความฉลาดเท่ากับชาวทัฟเฟิล (Tuffles) ซึ่งต่อมารู้จักกันในชื่อราชาเบจิต้า (King Vegeta)ทำการประกาศสงครามและได้นำชาวไซย่า เข้าโจมตี Tuffles เพื่อยึดครองดาวเคราะห์ แต่ชาวไซย่าที่มีจำนวนน้อยกว่าชาวทัฟเฟิลอย่างมาก ชาวทัฟเฟิลจึงสามารถเอาชนะศัตรูได้ด้วยความสามารถทางเทคโนโลยีของพวกเขา แต่น่าเสียดายที่สงครามสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกๆ 100 ปี นั่นก็คือ พระจันทร์เต็มดวง ชาวไซย่าทั้งเผ่าได้แปลงร่างเป็นลิงยักษ์อันดุร้าย และภายในเวลาเพียงคืนเดียว ชาวทัฟเฟิลก็ถูกกวาดล้างไป
ชาวไซย่าได้นำเทคโนโลยีที่พวกเขาสนใจ (โดยเฉพาะพวกสเกาเตอร์ ) มาใช้เพื่อก่อตั้งสังคมของตนเองท่ามกลางซากปรักหักพังของอารยธรรมทัฟเฟิล โดยแต่งตั้งให้ราชาเบจิต้าเป็นราชาและตั้งชื่อดาวเคราะห์ตามชื่อเขาเป็นดาวเคราะห์เบจิต้า โดยสงครามนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกัน ว่าชาวทัฟเฟิล (Tuffles) ยินดีต้อนรับชาวไซย่า (Saiyan) และปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเท่าเทียมกัน แต่อย่างไรก็ตามในภายหลัง ตามที่เบจิต้ากล่าวไว้ ชาวไซย่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี เหมือนทาสหรือพลเมืองชั้นสองโดยพวกชาวทัฟเฟิล (Tuffles) และถูกบังคับให้ไปใช้ชีวิตในดินแดนรกร้างอันโหดร้ายของดาวเคราะห์แพลนท์ (Plant)
ผลประโยชน์และความกังวลใจของฟรีเซอร์
เมื่อเวลาผ่านไปชาวไซย่าก็ถูกชาวอาร์โคเซียนและกษัตริย์โคลด์(พ่อของฟรีเซอร์)ค้นพบ ชาวไซย่าได้ทำการเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์โคลด์ ผู้ปกครองจักรวาลที่มีอำนาจมาก จนกระทั่งกษัตริย์โคลด์เกษียณอายุและส่งมอบอำนาจให้กับฟรีเซอร์ ลูกชายของเขา ฟรีเซอร์พบว่าชาวไซย่าแข็งแกร่งและชื่นชอบการต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงเริ่มจ้างให้ชาวไซย่าทำลายล้างเผ่าพันธุ์ทั้งหมดและยึดครองดาวเคราะห์ของพวกเขา เพื่อทำให้ความฝันของฟรีเซอร์ที่จะปกครองทั้งจักรวาลเป็นจริง ดาวเบจิต้าจึงถูกเปลี่ยนเป็นฐานทัพทหารในไม่ช้า ซึ่งลูกน้องของฟรีเซอร์จำนวนมากประจำการอยู่ที่นั่นเคียงข้างกับชาวไซย่า ชาวไซย่าหนุ่มที่มีพลังการต่อสู้ต่ำถูกส่งไปยังดาวเคราะห์อื่นเพื่อกำจัดผู้อยู่อาศัย ทำให้ดาวเคราะห์นี้เหมาะแก่การขาย
ชาวไซย่าที่มีพลังเพิ่มอย่างรวดเร็วและจำนวนมาก ทำให้ฟรีเซอร์เริ่มมีกังวลว่าในที่สุดพวกเขาจะลุกขึ้นมาโค่นล้มเขา ในขณะที่ฟรีเซอร์ไม่ได้กลัวชาวไซย่าแค่คนเดียว แต่พลังของพวกเขาที่จำนวนมากมายนั้นชัดเจน พวกเขาหยิ่งผยองเกินกว่าจะรับได้ และเขาก็ยังมีความกลัวต่อ”ซูเปอร์ไซย่าในตำนาน” ซึ่งฟรีเซอร์เชื่อว่าไม่ใช่แค่นิทาน ลูกน้องของฟรีเซอร์ซาร์บอนและโดโดเรียแนะนำว่าควรให้เขากำจัดชาวไซย่าให้หมดก่อนที่พลังของชาวไซย่าจะควบคุมไม่ได้
การทำลายล้างดาวเบจิต้า
ชาวไซย่าไม่กี่คนรวมถึงราชาเบจิต้าซึ่งทราบถึงแผนการของฟรีเซอร์และเริ่มวางแผนต่อต้านเขา นักรบชาวไซย่าอย่างบาร์ด็อค(พ่อของซุน โกคู Son Goku) รอดชีวิตจากการซุ่มโจมตีของกองกำลังฟรีเซอร์ และสาบานว่าจะแก้แค้นฟรีเซอร์ที่ทรยศ พวกเขาร่วมโจมตีฟรีเซอร์ แต่พลังของฟรีเซอร์แข็งแกร่งมากและกองกำลังจำนวนมากเอาชนะพวกเขาได้อย่างง่ายดาย และเพื่อกำจัดภัยคุกคามจากชาวไซย่าตลอดไปฟรีเซอร์จึทำลายล้างดาวเคราะห์พร้อมกับชาวไซย่าเกือบทั้งหมด ผู้รอดชีวิตมีเพียงราดิซ นัปปะ เจ้าชายเบจิต้า รวมถึงคาคาร็อต หรือในชื่อซุน โกคู พระเอกของเรื่องดราก้อนบอลก็รอดชีวิตเช่นกัน
และก่อนที่ดาวเบจิต้าจะถูกทำลาย ซุน โกคู ซึ่งยังเป็นทารกถูกส่งมายังโลกเพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติ เขาถูกเลี้ยงดูโดยซุน โกฮัง (Grandpa Gohan) และเติบโตมาเป็นนักรบผู้กล้าหาญ เรื่องราวของซุน โกคูและการผจญภัยของเขาในโลกและจักรวาล Dragon Ball เริ่มต้นขึ้นจากจุดนี้
สุดท้ายนี้เรื่องราวของจักรวาลใน Dragon Ball ที่นำเราไปสู่ความเข้าใจในพื้นฐานของพลังและความกล้าหาญที่ซ่อนอยู่ในตัวละครที่เรารักอย่างชาวไซย่า ทุกอย่างเริ่มต้นจากการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดและการครองอำนาจบนดาวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความท้าทาย ซึ่งผลักดันให้เกิดการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่และการเติบโตของวีรบุรุษที่เราเชื่อมั่น เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่ให้เราเห็นถึงจุดเริ่มต้น แต่ยังทำให้เรามองเห็นถึงความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงจักรวาลได้อย่างแท้จริง ตามความมุ่งหวังของผู้เขียนอย่างอาจารย์ โทริยาม่า อากิระ
ข่าวสารอื่น ๆ เกี่ยวกับการ์ตูน : GamerCulture