ที่ผ่านมาก็มีเกมชื่อดังอยู่มากมายหลายเรื่องที่ถูกหยิบจับไปทำเป็นหนัง ไม่ว่าจะเป็น Resident Evil, The Witcher, Monster Hunter, Tomb Raider, Doom และอื่น ๆ อีกมากมายที่เอ่ยชื่อแทบไม่หมด ซึ่งแน่นอนว่ามันก็มีทั้งเรื่องที่ไปรุ่งและเรื่องที่ถูกวิจารณ์ในแง่ลบไปพอสมควร ทำให้ผู้ชมอย่างเราที่เป็นแฟนเกมนั้นรู้สึกต้องได้ลุ้นทุกครั้งเวลาที่มีข่าวหนังเรื่องใหม่ที่สร้างจากเกมโผล่มาให้เห็น และสิ่งที่มักจะทำให้แฟน ๆ ผิดหวังก็มักจะเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่พบเห็นได้อยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็นหนังเรื่องไหนก็ตาม เราไปชมกันครับว่ามีอะไรบ้าง
1. เนื้อเรื่องหรือไทม์ไลน์ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเกมเลย
ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังที่สร้างขึ้นจากเกม มันก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกันสักหน่อยไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม จะด้วยสตอรี่ ไทม์ไลน์หรือตัวละคร หรือจักรวาลเดียวกันอะไรก็ว่ากันไป แต่ส่วนมากถ้าหนังเรื่องนั้นบอกชัดเจนว่าเป็นไทม์ไลน์สอดคล้องกับในเกม ส่วนใหญ่ผู้เล่นเกมมาก่อนอย่างเรามักจะเจอจุดบอดหรือความไม่เมคเซนต์อะไรบางอย่างต่อให้เราไม่ต้องจับผิดมันก็ตาม บางครั้งหนังก็มีสตอรี่ของมันเองที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับตัวละครหลักในเกม แต่ตรรกะในเรื่อง แมคคานิค กฎ หรือสถานการณ์ภาพรวมในหนังอาจทำให้แฟนเกมรู้สึกว่า “นี่มันอะไรกันเนี่ย” หรือ “มันใช่หรอ” อยู่ลึก ๆ จนบางครั้งก็แอบรู้สึกว่าแค่เอาชื่อเกมกับจุดขาย 2-3 อย่างมาขายแต่เนื้อหาข้างในไม่เกี่ยวอะไรกันเลย
2. นักแสดงที่ไม่เข้ากับบทของตัวละคร
เรื่องของตัวละครในเกมนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งสาระสำคัญที่แฟนเกมส่วนใหญ่ต้องการจะเห็น เช่น ใครจะมาเป็นพระเอกของเกมนี้ หน้าตาจะได้ไหม แต่งตัวเหมือนไหม แสดงได้สมบทบาทหรือเปล่า ซึ่งแน่นอนว่ารายชื่อของนักแสดงที่ประกาศออกมาแล้วแฟนเกมรู้สึกเซ็งก็เพราะว่านักแสดงเหล่านั้นมีคาร์แร็กเตอร์ที่ไม่ตรงกับตัวละคนในเกม ในส่วนของความสามารถการแสดงเราคงไม่ว่ากัน แต่เรื่องของรูปร่างและเชื้อชาติอาจมีผลกับความรู้สึกของแฟนเกมแน่ ๆ เช่น การที่ตัวละครในเกมเป็นคนตัวใหญ่กล้ามโตแต่นักแสดงกลับเป็นคนหุ่นลีนก็อาจจะไม่เข้า หรือในเกมนั้นลักษณะหน้าตาตัวละครออกไปในทางคนเอเชียแต่นักแสดงเป็นฝรั่งก็อาจจะไม่เข้าเช่นกัน
3. หนังที่ใช้คนแสดงมีข้อจำกัด ไม่เหมือนในเกมที่ทำอะไรก็ได้
แน่นอนว่าหนังที่ใช้คนแสดงย่อมมีข้อจำกัดบางอย่างที่ไม่สามารถทำได้เหมือนในเกม ไม่ว่าจะเป็นฉากบู๊ที่สุดโต่งหลุดโลก การมีพลังวิเศษเหมือนในเกม หรือต่อให้เป็นเอฟเฟค CG ในหนังก็อาจจะรู้สึกไม่สมูธเหมือนอยู่ในเกม ทำให้แฟนเกมหลายคนอาจรู้สึกว่าภาพในเกมนั้นสวยกว่าหนังเป็นไหน ๆ ยิ่งในยุคที่กราฟิกเกมถูกพัฒนาอยู่ตลอดเวลาและสวยงามสมจริงขึ้นทุกวันแล้วด้วย ในใจของแฟนเกมย่อมเทคะแนนไปทางฝั่งของเกมมากกว่าและคาดหวังกับหนังไว้สูงเช่นกัน พอเราได้ดูหนังแต่หนังไม่สามารถทำออกมาได้เหมือนกับเกม หรือไม่เหมือนอย่างที่คาดหวังก็อาจจะทำให้แฟนเกมส่วนใหญ่รู้สึกเซ็งกันไปนั่นเองครับ
4. ผู้กำกับหรือคนเขียนบทแทบไม่เคยเล่นเกมด้วยซ้ำ
มีหนังที่สร้างจากเกมจำนวนไม่น้อยเลยที่ผู้กำกับหรือคนเขียนบทแทบจะไม่เคยเล่นเกมด้วยซ้ำ อาจจะแค่ทำการบ้านมาว่าเกมนี้มีจุดเด่นที่อะไร แล้วดึงเอาจุดเด่นสัก 2-3 อย่างมาคิดเป็นเนื้อเรื่องใหม่แล้วใช้ชื่อเกมเป็นจุดขายให้คนมาดู แต่ตามความเป็นจริงแล้วเราก็รู้ว่าแค่นั้นมันไม่พอ แฟนเกมจะรู้ว่าการมีแค่หมอกกับปิรามิดเฮดไม่ใช่ Silent Hill หรือการมีแค่ซอมบี้กับ Raccoon City ก็ยังไม่ใช่ Resident Evil แม้มันจะเป็นจุดขายภายในเกมแต่เอาออกมาแค่นี้ก็อาจไม่ทำให้แฟนเกมรู้สึกอินได้ มันเป็นเพียงสิ่งที่จับต้องได้ง่ายเท่านั้น แต่อารมณ์ ความกดดัน การดำเนินเรื่อง อุปนิสัยตัวละคร การคาดการณ์ว่าถ้าเป็นเหตุการณ์นี้ตัวละครนี้จะทำอะไรบ้าง ถ้าไม่ใช่แฟนเกมหรือคนที่อินกับเกมมาก่อน จะทำออกมาให้ดีนั้นยากมากครับ
5. เอาใจ SJW มากเกินไปจนเสียเอกลักษณ์
ช่วงนี้ SJW หรือ Social Justice Warrior เริ่มมีบทบาทในการเรียกร้องสิ่งต่าง ๆ ในโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น ถึงขนาดว่าถ้าทำอะไรที่พวกเขาไม่พอใจ ก็อาจจะทำให้หนังหรือเกม ๆ นั้นขายไม่ออกและเจ๊งเลยก็เป็นได้ ดังนั้นหนังหลาย ๆ เรื่องเลยเริ่มที่จะคัดเลือกนักแสดงและเขียนบทเพื่อหลีกเลี่ยงการมีปัญหากับพวกเขา เราเลยอาจจะได้เห็นตัวละครในเรื่องที่มีความหลากหลายเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะด้วยเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว หรือเพศสภาพ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่ชายกับหญิง หรือฝรั่งกับคนเอเชียอีกต่อไปแล้ว แต่บางครั้งมันก็ค่อนข้างทำให้เสียเอกลักษณ์เด่นของเกมไปพอสมควรหากพระเอกในเกมที่เรารู้จักถูกเปลี่ยนเป็นคนผิวสี หรือนางเอกที่หน้าฝรั่งจ๋ากลายเป็นคนตะวันออกกลาง หรือหนังเรื่องนึงจะต้องมีฉากเลิฟซีนของทุกเพศ ทั้งหมดก็เพื่อความเท่าเทียมกัน แต่นั่นอาจไม่ใช่เกมที่เรารู้จัก
และนี่ก็คือ “5 สิ่งที่มักจะทำให้แฟน ๆ ผิดหวังเมื่อเกมถูกสร้างเป็นหนัง” ตรงกับสิ่งที่เพื่อน ๆ เคยเจอกันมาบ้างไหมครับ จริงอยู่ว่าหนังบางเรื่องที่ทำออกมาอาจจะมีรายได้มหาศาลเพราะมันแมสสำหรับคนทั่วไปที่ไม่เคยเล่นเกมมาก่อน แต่สำหรับแฟนเกมอย่างเราแล้ว เชื่อว่าลึก ๆ ก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ มีน้อยมากที่หนังจากเกมจะทำออกมาถูกใจคอเกมเมอร์ หวังว่าในอนาคตจะมีหนังจากเกมดี ๆ ให้เราดูอีกเยอะ ๆ นะครับ 🙂
ผู้เขียน : TF_MakinoJou
