[รีวิว] Razer Basilisk V3 Pro + Mouse Dock Pro
คอมโบเมาส์ไร้สายพร้อมแท่นชาร์จทรงประสิทธิภาพรุ่นล่าสุดจาก Razer
เปิดตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Razer Basilisk V3 Pro เมาส์สำหรับเกมเมอร์สุดพรีเมี่ยมประจำปี 2022 ที่มาพร้อมกับการอัปเกรดที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแสดงผลของไฟ RGB ที่ปรับแต่งได้ถึง 13 โซน ปุ่มกดปรับแต่งได้ 10+1 รวมไปถึงรองรับการชาร์จไร้สายกับของเล่นใหม่ที่ถูกปล่อยออกมาพร้อมกันอย่าง Razer Mouse Dock Pro ช่วยยกระดับให้เมาส์รุ่นนี้น่าสนใจอย่างมาก ว่าแต่จะมีลูกเล่นอะไรที่ซ่อนเอาไว้อีกบ้าง เราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย
Design
ด้วยความที่ทาง Razer วางเจ้า Razer Basilisk V3 Pro ไว้ในกลุ่มเมาส์สำหรับการเล่นเกมที่มีราคาค่อนข้างที่จะสูงทำให้ในแง่ของการออกแบบ ครั้งแรกที่เราได้สัมผัสต้องยอมรับว่ามีความพรีเมี่ยมภายในตัวอย่างมาก อีกทั้งในเรื่องของความถนัดในการจับที่ค่อนข้างที่จะโดดเด่นที่สุดในรุ่น สร้างมาตรฐานให้กับเมาส์ในรุ่นต่อ ๆ ไปที่จะตามออกมาในอนาคต
ความสะดวกและความถนัดในการจับมีให้เห็นรอบด้านอย่างเช่นด้านซ้ายมือที่มาพร้อมกับส่วนรองรับฝ่ามือเราได้ดี จับลงไปแล้วตำแหน่งการวางมือของผู้ใช้งานจะเข้ากับทุก ๆ ตำแหน่งของปุ่มกด อย่างไรก็ตามสิ่งที่อาจจะแลกมาหรือเป็นความตั้งใจของทาง Razer นั่นคือน้ำหนักของตัวเมาส์ที่ค่อนข้างจะมีให้เรารู้สึกได้ แต่หากถามว่ามันหนักขนาดที่ใช้งานลำบากหรือไม่ก็ต้องตอบว่าไม่ใช่
ส่วนรองรับบริเวณด้านซ้ายมือหากวางตำแหน่งของมือเราจะตรงกับนิ้วโป้งใช้งานเป็นยางที่มีการใส่ลวดลายลงไปเพิ่มความถนัดในการจับให้ไม่ลื่น ส่วนด้านขวามือที่นิ้วนางและก้อยของเราจะสัมผัสมีส่วนของยางแบบเดียวกัน
นอกจากการออกแบบมาให้จับถนัดแล้ว ยังมีการวางตำแหน่งปุ่มให้ผู้ใช้งานกดได้สะดวกด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่นปุ่มด้านซ้ายของตัวเมาส์ที่ใส่มาด้วยกัน 3 ปุ่ม ที่สามารถกดได้ด้วยนิ้วโป้งโดยที่ไม่ต้องขยับนัก ขณะที่ด้านขวาของตัวเมาส์ไม่มีการใส่ปุ่มใด ๆ มาเนื่องจากนิ้วนางและก้อยมักเป็นส่วนที่เรากดได้ไม่ถนัดอยู่แล้ว
ปุ่มที่ถูกเพิ่มเข้ามาด้านบนสำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้งานเมาส์ของทาง Razer มาก่อนคือปุ่มสำหรับปรับโหมดการทำงานของ scroll wheel โหมดการทำงานจะแบ่งเป็น tactile และ free-spin ซึ่งสามารถเพิ่มเข้าไปได้อีกโหมดคือ smart-reel แต่ต้องปรับตัวเลือกเพิ่มใน Razer Synapse
ด้านล่างของตัวเมาส์สิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาคือส่วนของการรองรับชาร์จแบบไร้สาย อย่างไรก็ตามอุปกรณ์เสริมดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องซื้อเพิ่มเติมหรือหากใครที่อยากได้ความเป็นที่สุดสามารถซื้อ Razer Mouse Dock Pro มาเพื่อพร้อมใช้งานได้ทันที วิธีการเพียงหมุนวงกลมขึ้นไปและแทนที่ด้วย Razer Wireless Charging Puck เข้าไปแทนเป็นอันเสร็จสิ้นพร้อมสำหรับการนำไปวางชาร์จร่วมกับแท่นชาร์จแบบ Qi
ส่วนปุ่มสำหรับการเปลี่ยนโปรไฟล์อยู่ที่ด้านล่างเช่นเดียวกัน โดยสามารถที่จะเปลี่ยนโปรไฟล์ได้ 5 โปรไฟล์ด้วยกัน แน่นอนว่าการปรับแต่งส่วนอื่น ๆ อย่างเช่นค่า DPI, Polling Rate ทำได้ผ่านซอฟต์แวร์ Razer Synapse
ขณะที่ไฟ RGB อยู่บริเวณด้านใต้ของตัวเมาส์จากซ้ายไล่ไปขวา ไฟบริเวณ scroll wheel และโลโก้ Razer ที่ความคมชัดงานละเอียดพอสมควร แต่ละส่วนสามารถปรับสีที่แตกต่างกันได้ 13 โซนแต่จะเป็นการปรับแต่งผ่าน Razer Synapse แต่ต้องติดตั้งส่วนเสริม Chroma Studio มาเพื่อใช้งานเสียก่อน
มาดูที่ Razer Mouse Dock Pro กันบ้างแท่นชาร์จไร้สายตัวนี้ ณ ปัจจุบันที่เปิดตัวออกมาใช้งานร่วมได้กับ Razer Basilisk V3 Pro เท่านั้น มันจึงเป็นของเสริมที่หากใครตัดสินใจจะเลือกซื้อเมาส์รุ่นดังกล่าวหากมีงบประมาณอีกหน่อยก็ควรที่จะซื้อมาคู่กันไม่น้อย
ลักษณะภายนอกไม่มีอะไรมากเป็นแท่นชาร์จแบบ slope ด้านหลังเป็นช่องสำหรับเสียบสายเพื่อให้พลังงานแก่แท่นชาร์จ
ด้านล่างเป็นไฟ RGB โดยรอบ สามารถที่จะปรับแต่งไฟแสดงผลได้ต่างกัน 8 โซนผ่าน Chroma Studio ใน Razer Synapse
สิ่งที่ได้มาภายในกล่องนอกจากตัวแท่นชาร์จและสาย ยังมี Razer Wireless Charging Puck สำหรับการนำไปติดตั้งเข้ากับเมาส์เพื่อเปลี่ยนให้เป็นเมาส์สำหรับการชาร์จไร้สายได้โดยตรง
Performance
เรื่องของประสิทธิภาพสำหรับ Razer Basilisk V3 Pro สามารถที่จะปัดตกไปเลยก็ว่าได้เนื่องจากมันเป็นเมาส์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแสดงความล้ำสมัยของทาง Razer ออกมาทั้งหมด เริ่มกันที่ Razer Optical Mouse Switches Gen-3 ซึ่งจะช่วยทำให้การตอบสนองระหว่างการกดแทบจะไม่มีดีเลย์ให้เห็น ค่า click latency อยู่ที่ 1ms น้อยสุดเท่าที่เมาส์จะทำได้ พร้อมความทนทานของปุ่มที่กดได้ถึง 90 ล้านครั้งเพิ่มขึ้นจาก Gen-2 20 ล้านครั้ง
ตามมาด้วย Razer Focus Pro 30K Sensor ซึ่งเป็นเซนเซอร์ที่ถูกพัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะหมดกังวลเรื่องของพื้นผิวที่ใช้งานเนื่องจาก มีตัววัดภายในที่คอยปรับสภาพการทำงานให้เหมาะกับแต่ละพื้นผิวได้โดยตรง ในขณะเดียวกันมีการปรับปรุงเวลาที่เราลากเมาส์ไปมาให้มีความต่อเนื่องมากกว่าเดิมส่งผลให้ไม่มีอาการสะดุดเวลาที่ลากเมาส์หรือสะบัดเมาส์แบบทันทีเวลาเล่นเกม FPS
Razer HyperSpeed Wireless เป็นตัวยืนยันว่าเมาส์ไร้สายสามารถที่จะยกระดับได้ไม่ต่างจากเมาส์แบบมีสายที่หลาย ๆ คนมีความเชื่อกันว่ามันต้องดีกว่า เนื่องจากเทคโนโลยีตัวนี้ของทาง Razer ได้ตัดทุกอย่างที่เป็นข้อเสียของเมาส์ไร้สายออกไปทั้งหมด และจากประสบการณ์ใช้งานเมาส์รุ่นอื่น ๆ ของทาง Razer ที่มาพร้อมเทคโนโลยีดังกล่าวมาก็ต้องยอมรับว่าพวกเขาทำมันออกมาเพื่อใช้งานในการแข่งขันได้จริง
จากการใช้งานเล่นเกมจำพวก FPS และ MOBA ตัวเมาส์ถือว่าทำออกมาได้สมกับมาตรฐานของ Razer การลากเมาส์และสะบัดทำได้ดีไม่มีอาการขาดหายหรือสะดุดในช่วงใดที่ต้องการทำแบบนั้น น้ำหนักของตัวเมาส์ที่แม้จะดูมาก 112 กรัม แต่เวลาเล่นเกมแล้วจะพบว่ามันช่วงสร้างสมดุลในการใช้ได้ค่อนข้างที่จะดีกว่าเมาส์ที่มีน้ำหนักเบา (เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคล)
การชาร์จ Razer Basilisk V3 Pro เราจำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่อเข้ากับสาย USB ที่ให้มาภายในกล่องซึ่งระยะเวลาในการชาร์จค่อนข้างที่จะเร็วพอสมควร ชาร์จครั้งเดียวอยู่ได้นานตามที่ทาง Razer เคลมเอาไว้บอกว่าสูงสุดถึง 90 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามหากใครที่ลงทุนกับ Razer Mouse Dock Pro จะสามารถช่วยให้เราไม่ต้องสายเต็มโต๊ะได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเราสามารถที่จะชาร์จตัวเมาส์ได้เพียงแค่วางเอาไว้บนแท่นโดยตรงได้ พร้อมไฟบอกสถานะจากแดง ส้ม เหลืองและเขียวจากใต้แท่นชาร์จ
Software
ซอฟต์แวร์หลัก ๆ ที่เราจะใช้งานเพื่อปรับแต่งฟีเจอร์ต่าง ๆ คือ Razer Synapse ภายในเราสามารถที่จะเลือกปรับแต่งในส่วนของการมาโครคำสั่งผ่านปุ่มได้ ตั้งค่าโปรไฟล์พร้อมสีที่แสดงผลให้แตกต่างกัน รวมไปถึงการใช้งานโหมด smart-reel ที่จะเป็นลูกผสมระหว่าง tactile และ free-spin โดยหลักการทำงานคือถ้าหากเราทำการหมุน scroll wheel แบบเร็ว ๆ จะทำให้เข้าไปอยู่ในโหมด free-spin แตกหากใช้งานปกติจะอยู่ในโหมด tactile
นอกจากนี้ยังมีส่วนเสริมเด็ด ๆ อย่าง Chroma Studio ที่ช่วยให้เราปรับแต่งไฟ RGB ให้แสดงผลได้แตกต่างกันมากถึง 13 โซน เพียงแค่กดลงไปบริเวณที่ต้องการและเลือกสีที่ชอบได้เลย ส่วน Razer Mouse Dock Pro ปรับได้สูงสุดที่ 8 โซน
ในส่วนของค่า DPI ปรับได้สูงสุดที่ 30000 DPI ต่ำสุดที่ 100 DPI ค่า Polling Rate สูงสุด 1000 Hz
Conclusion
บทสรุปของ Razer Basilisk V3 Pro และ Razer Mouse Dock Pro ต้องบอกว่าเป็นการผลักดันความเป็นที่สุดออกมาจากทาง Razer อย่างแท้จริง ด้วยความที่ตัวเมาส์มีการปรับปรุงประสิทธิภาพออกมาให้ดีขึ้นกว่าเดิม รองรับการปรับแต่งไฟ RGB ได้อิสระ ปุ่มกดแบบ 10+1 พร้อม ๆ กับเทคโนโลยีล่าสุดของแบรนด์ ส่งผลให้มันกลายเป็นเมาส์ไร้สายสำหรับการเล่นเกมในระดับการแข่งขันอย่างไม่ยากเย็น ขณะที่ตัวแท่นชาร์จไร้สายช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้จริง ด้วยราคา 5,990 บาท สำหรับตัวเมาส์ ส่วนแท่นชาร์จยังไม่มีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ อาจจะดูสูงไปเสียหน่อยแต่หากต้องการความเป็นที่สุดและใช้ยาว ๆ คอมโบคู่นี่นับว่าน่าสนใจอย่างมาก
ข้อดี
– การออกแบบที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้จับถนัดและลดปัญหาข้อมือในระยะยาว
– วัสดุพรีเมี่ยมและทนทาน
– อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของทาง Razer
– ประสิทธิภาพการใช้งานในระดับการแข่งขัน eSports
– ไฟ RGB สามารถปรับแต่งได้ 13 โซน
– แบตเตอรี่อยู่ได้นานด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว
ข้อสังเกต
– ราคาที่แอบสูงไปเสียหน่อย
– ใช้งานได้เฉพาะมือขวาเท่านั้น
– หากใครชอบเมาส์น้ำหนักเบาอาจต้องเลือกรุ่นอื่นของทาง Razer เช่น Razer DeathAdder V3 Pro
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Razer แห่งประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง Razer Basilisk V3 Pro และ Razer Mouse Dock Pro มาให้เราได้ทำการทดสอบใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : [คลิก]