Syberia: The World Before เป็นเกม Point & Click ที่จะพาผู้เล่นออกสำรวจโลก 2 ช่วงเวลาของตัวละครอย่าง Dana และ Kate แต่ถึงแม้ว่า 2 ตัวละครนี้จะอยู่ต่างที่ ต่างเวลา แต่ทั้งคู่กลับมีบางอย่างเชื่อมโยงกัน และทั้งคู่จะไขปริศนาที่แอบซ่อนอยู่นี้ให้ได้
ในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเล่นเกม Syberia: The World Before ซึ่งผู้เขียนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเกมนี้ถึงได้คะแนนรีวิวจากสื่อต่างประเทศค่อนข้างสูง และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ได้อ่านกันครับ
อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PC และเป็นการรีวิวในวันที่ 6 – 10 กรกฎาคม 2565 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีแพทช์ออกมาแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้
เรื่องราวสุดเข้มข้นของตัวละคร 2 ตัวที่มาพร้อมระบบตัวเลือก
Syberia: The World Before จะพาผู้เล่นไปพบกับเรื่องราวอันแสนเข้มข้นของตัวละครทั้ง 2 ตัว ซึ่งถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของซีรีส์ที่เปิดโอกาสให้เราได้ผจญภัยในเรื่องของตัวละคร 2 ตัวไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งผู้เขียนในตอนแรกก็กังวลว่าการสลับตัวละครเล่นไปเรื่อย ๆ จะทำให้สับสนหรือไม่ ซึ่งผู้เขียนบอกได้เลยว่านอกจากจะไม่สลับแล้ว ยังประทับใจอย่างมากอีกด้วย โดยตัวละครทั้ง 2 ตัวที่เราจะได้เล่นก็มีดังนี้
Dana Roze เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี 1937 ณ Vaghen โดยเธอเป็นเด็กสาวอายุ 17 ปีที่มีความเป็นนักเปียโนมืออาชีพ แต่ในช่วงนั้นเองกลับเป็นช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ความฝันของเธอต้องพังทลายลง แถมเธอยังจะต้องไปพัวพันกับความลึกลับบางอย่างที่จะทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล ซึ่งเรื่องราวของตัวละครนี้ก็เรียกได้ว่าน่าสนใจอย่างมาก โดยเราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะทำให้เราอินไปกับเธอตลอดการเล่นเกมนี้
อย่างไรก็ตามในตัวละครที่ 2 อย่าง Kate Walker ตัวเอกจากเกมซีรีส์ Syberia ในครั้งนี้เราจะได้เจอเธอในเหตุการณ์ปี 2004 ณ Taiga โดยเราจะได้พบเจอเธอที่ถูกขังให้ทำงานในเหมืองแร่ แต่แล้ววันหนึ่งเธอกลับพบกับความลับที่ซุกซ่อนอยู่จนส่งผลให้เธอกลายเป็นนักผจญภัยอย่างที่เราได้เห็นกันในภาคก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องราวของ Kate นี้อาจจะชวนฉงนไปบ้างเพราะเมื่อเปิดมาเราก็จะเห็นเธอในคุกแบบงง ๆ โดยที่เราไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ และจะต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าเรื่องราวจะเปิดเผย แต่ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
แม้ว่าการเล่าเรื่องราวของ 2 ตัวละครนี้จะตัดสลับไปมา แต่ก็ไม่ทำให้สับสนมากเท่าไหร่ เพราะว่า ผู้เล่นจะได้เล่นสลับเนื้อเรื่องไปทีละฉาก โดยฉากหนึ่งจะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที โดยประมาณ (หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับความละเอียดในการเล่นเกมของผู้เล่น) ซึ่งก็ถือว่าไม่นานเท่าไหร่นัก อีกทั้งในแต่ละฉากของตัวละครแต่ละตัวจะมีประเด็นหลักในแต่ละฉากอยู่แค่ประเด็นเดียว ทำให้ผู้เล่นสามารถจดจำเนื้อเรื่องโดยย่อได้ง่าย ๆ
แต่ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือ ทั้ง 2 ตัวละครที่ผู้เล่นจะได้เล่นในแต่ละฉากนั้นจะมี “บางอย่าง” เชื่อมโยงกันอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งปมตรงนี้เองจะค่อย ๆ คลี่คลายไปเรื่อย ๆ ระหว่างการเล่นเกม แต่การเชื่อมโยงนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของผู้พัฒนา รวมไปถึงความครีเอทในการสร้างเกมนี้ขึ้นมาให้เราได้เล่นกัน ทำให้เกมนี้มีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้เขียนเสียดายเล็กน้อยก็คือ ระบบตัวเลือกของเกมที่มีบทสนทนาให้เราได้เลือกตอบอยู่หลายต่อหลายครั้ง อย่างไรก็ตามการเลือกตอบคำถามนี้ไม่ได้ส่งผลต่อเนื้อเรื่องเท่าไหร่ โดยจุดที่เปลี่ยนไปก็มีเพียงบทสนทนาของตัวละครในช่วงจังหวะนั้น ๆ เท่านั้น ทำให้ประเด็นนี้น่าเสียดายไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ Syberia: The World Before สูญเสียคุณค่าในการเล่นมากจนเกินไปครับ
ออกท่องโลกที่สวยงาม รายละเอียดมาแบบจัดเต็ม พร้อมให้เราได้สำรวจและไขปริศนา
นอกเหนือจากการติดตามเรื่องราวที่เข้มข้นของ 2 ตัวละครดังกล่าวแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือการออกแบบโลกภายในเกมนี้ทำออกมาได้ดีมาก โดยก่อนที่จะไปไกลมากกว่านี้ ผู้เขียนต้องขอบอกก่อนว่าเกมนี้เป็นเกมประเภท Point & Click เพื่อสำรวจโลก และไขปริศนาต่าง ๆ ฉะนั้นทุกสิ่งภายในฉากจะมีความหมายทั้งสิ้น และในความละเอียดของฉากนี่เองที่มักจะมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ให้เราได้สำรวจอยู่เสมอ
ฉะนั้นภายในฉากต่าง ๆ ของเกมนี้จะถูกออกแบบมาละเอียดแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวของกำแพง โปสเตอร์แผ่นบาง ๆ ที่แปะอยู่ที่กำแพง กระจกที่แตกร้าว , ร่องรอยของสงครามที่ไม่น่ามอง , NPC ต่าง ๆ ที่จะปรากฏตัวให้เราได้เห็นตามสถานที่ต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย แค่การมองเมืองที่ถูกออกแบบมาภายในเกมนี้ก็ถือว่าเพลิดเพลินอยู่ไม่น้อยแล้วครับ
นอกจากนี้ผู้เล่นจะได้สำรวจโลกภายในเกมนี้ด้วยเกมเพลย์แบบ Point & Click ที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกคลิ๊กไปที่จุดต่าง ๆ เพื่อให้ตัวละครของเราเดินไปยังจุดนั้น ๆ ได้ นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัวได้จำนวนมาก เช่น ลิ้นชักที่โต๊ะที่เราจะต้องใช้เมาส์ลากเสมือนกับเรากำลังดึงลิ้นชักออกมาด้วยมือของเราเอง , ดินสอที่จะกลิ้งออกมาจากลิ้นชักเวลาที่เราเปิดมันออก , กล่องเก็บของที่เราจะต้องแกะที่ล็อคทีละตัวด้วยมือของเราเอง เป็นต้น
และจากองค์ประกอบทั้งความละเอียดของฉาก และการสำรวจด้วยเกมเพลย์แบบ Point & Click จะส่งผลโดยตรงต่อการไขปริศนาต่าง ๆ ที่มีอยู่ภายในเกมนี้ ไม่ว่าจะเป็นการที่เราจะต้องคอยสังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัวเพื่อหาสิ่งของ หรือค้นหาคำใบ้ที่แอบซ่อนอยู่เพื่อให้เราสามารถไขปริศนาและเดินทางต่อไป รวมไปถึงการสำรวจไอเทมที่เราได้มาเพื่อใช้ในการไขปริศนาที่เรากำลังเผชิญอยู่ ซึ่งเกมเพลย์แบบนี้แม้ว่าจะเข้าใจง่าย แต่ก็มีความท้าทายอย่างมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้ภายในแต่ละฉากจะมีภารกิจรองให้เราได้ทำ ซึ่งภารกิจรองนี้เปรียบเสมือนคำใบ้ที่จะบอกให้ผู้เล่นนั้นต้อง “สำรวจให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะละเอียดได้” เพราะบางครั้งเราคิดว่าเราสามารถไขปริศนาได้แล้ว แต่แท้จริงแล้วคำตอบที่เรานำไปใช้ไขปริศนาอาจจะยังไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดก็เป็นได้ ทำให้เราต้องหมั่นสังเกต และอย่าเร่งรีบจนเกินไป ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่ผู้เขียนสามารถเล่าได้โดยไม่สปอยล์จนเกินไปก็คือ ในฉากที่ 2 ของ Dana ที่ภารกิจหลักของเราก็คือ การ “เขียนจดหมายตอบผู้มีพระคุณ” ในขณะที่ภารกิจรองก็คือ “ตามหาอุปกรณ์การเขียน” ซึ่งผู้เล่นสามารถพบเจอดินสอที่ใช้เขียนได้ตั้งแต่การสำรวจช่วงต้น ๆ ซึ่งเราสามารถทำภารกิจหลักได้ทันที อย่างไรก็ตามภารกิจรองของเรายังไม่ถูกเช็คว่าทำสำเร็จ แปลว่ามันจะต้องมี “อุปกรณ์การเขียน” บางอย่างที่สำคัญกว่านั้นรอให้เราได้ค้นหา ซึ่งเราจะพบเจอปากกาซ่อนอยู่ภายในลิ้นชักที่โต๊ะของพ่อ และเมื่อเราได้ปากกามา ภารกิจรองจึงจะถูกเช็คว่าสำเร็จนั่นเอง ซึ่งหากเราปล่อยผ่าน ไม่คิดจะสำรวจต่อ ก็จะทำให้ภารกิจรองของเราถูกข้ามไป และไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้ครับ
ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ
บทสรุป
Syberia: The World Before เป็นเกมสำรวจโลกและไขปริศนาด้วยเกมเพลย์ Point & Click ที่ทำออกมาได้ดีทั้งในแง่ของกราฟิกที่ทำออกมาได้ละเอียด คุ้มค่าแก่การเพ่งสายตา สำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว รวมไปถึงเนื้อหาของทั้ง 2 ตัวละครที่มีการแบ่งได้อย่างลงตัว และน่าติดตามเป็นอย่างมาก - 9
9
คะแนน
กราฟิกภายในเกมที่สวยงามมาก ๆ เกมเพลย์ที่เล่นได้ง่าย เข้าใจได้รวดเร็ว ท้าทายความสามารถในการสำรวจของผู้เล่นเป็นอย่างมาก แต่หมุนมุมกล้องได้จำกัด ทำให้บางครั้งการสำรวจทำได้ยากและใช้สเป็คเครื่องค่อนข้างสูงพอสมควร