Outriders Worldslayer คือ DLC ของ Outriders เกม RPG-shooter Co-op 1-3 คน แบบ Cross-Platform ในโลกไซไฟที่มืดมน โดย DLC นี้จะมาพร้อมกับการปรับปรุงความสะดวกสบายในการเล่น และเนื้อหา Expedition ที่เพิ่มเข้ามาให้เล่นตั้งแต่ต้นเกม ที่เรียกได้ว่าเป็นเกมที่ยังคงเอกลักษณ์ความมันส์ไว้ได้หมือนเดิม เพิ่มเติมคือความสะใจ และองค์ประกอบใหม่ ๆ ให้ใช้งานจำนวนมาก
และในวันนี้ผู้เขียนก็ได้มีโอกาสเล่นเกม Outriders Worldslayer เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ผู้อ่านได้ติดตามกันครับ
อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 และเป็นการรีวิวในวันที่ 6 – 10 กรกฎาคม 2565 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีแพทช์ออกมาแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้
เริ่มเล่นได้ทันที แม้จะเพิ่งสร้างตัวละครก็ตาม
สิ่งแรกที่ผู้เขียนแอบกังวลก็คือ การเข้าเล่น DLC ภายในเกมต่าง ๆ มักจะมีข้อจำกัดในเรื่องของการดำเนินเนื้อเรื่องให้ไปถึงที่กำหนด หรือต้องมีเลเวลเพียงพอถึงจะสามารถเล่น DLC เหล่านี้ได้ แต่ไม่ใช่กับ Outriders Worldslayer ครับ เพราะภายใน DLC นี้จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเข้าถึงเนื้อหาได้ทันทีแม้จะเพิ่งสร้างตัวละครก็ตาม อีกทั้งตัวละครดังกล่าวที่เข้ามาในเนื้อหานี้จะมีเลเวลที่ 30 พร้อมอาวุธครบมือทันที ฉะนั้นผู้อ่านคนใดที่ไม่ได้เล่น Outriders มานานแล้ว หรือว่าเพิ่งจะเริ่มต้นเล่นและกังวลว่าจะเล่นเนื้อหาใหม่ไม่ได้ก็สบายใจได้เลย ซึ่งจุดนี้เองเป็นสิ่งที่ผู้เขียนประทับใจที่สุดเลยครับ
เนื้อเรื่องใหม่ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นบทนำสู่พื้นที่ใหม่ที่รอให้ผู้เล่นได้มันส์ยาว ๆ
แม้ว่า DLC ตัวนี้จะมีเนื้อเรื่องใหม่ให้เราได้เล่นกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเนื้อเรื่องใน DLC นี้ค่อนข้างสั้น ใช้เวลาเล่นประมาณ 4-5 ชั่วโมงก็จบแล้ว (ยิ่งถ้าข้ามบทสนทนายิ่งจบได้เร็วกว่านี้) ซึ่งผู้เล่นที่ต้องการเสพย์เนื้อหาใหม่ ๆ นั้นอาจจะไม่จุใจเท่าไหร่นัก แต่ในขณะเดียวกันเนื้อหาใน DLC นี้ถือว่าน่าติดตามอยู่ไม่น้อย ซึ่งเรื่องราวจะพูดถึงตอนที่ตัวละคร Outrider ของเราได้รับแจ้งว่า Ereshkigal ผู้นำกลุ่มใหม่ที่เรียกว่า Insurgents กำลังมีแผนการร้ายบางอย่าง จนทำให้สภาพอากาศที่ Enoch เปลี่ยนแปลงไปเข้าขั้นหายนะ ซึ่งใน DLC นี้เราจะได้ออกเดินทางในพื้นที่เย็นยะเยือกอย่าง Glacier’s Edge และ Driftwater พร้อมกับศัตรูใหม่จำนวนมาก
แต่อย่างที่ได้จั่วหัวไว้ว่าเนื้อเรื่องใน DLC นี้เปรียบเสมือนบทนำของการเล่นเกมอันแสนยาวนานมากกว่า เพราะหลังจากที่จบเนื้อเรื่องแล้ว ผู้เล่นสามารถออกตะลุย Expedition ได้ยาว ๆ เลยทีเดียว หรือถ้าใครเข้ามาถึงอยากเล่น Expedition ก่อนที่จะเล่นเนื้อเรื่องก็สามารถทำได้เช่นกันครับ!
องค์ประกอบใหม่ให้ได้ใช้งานเพียบ คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอย่างแน่นอน
สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงก่อนเลยก็คือ ผัง Pax จะเพิ่มผังสกิลของแต่ละคลาสขึ้นมาอีก 2 สายด้วยกัน! แน่นอนว่าในส่วนของผัง Pax ที่เพิ่มขึ้นมานี้จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ผสมผสานรูปแบบการเล่นของผู้เล่นได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยผัง Pax นี้เป็นคนละส่วนกับผังสกิลของผู้เล่นที่มีอยู่เดิม ซึ่งจุดนี้ผู้เขียนมองว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดองค์ประกอบหนึ่ง เพราะหากมี DLC ใหม่ แต่เราไม่ได้เห็นตัวละครของเราแตกต่าง หรือโดดเด่นกว่าเดิม ก็คงจะไม่สาแก่ใจผู้เล่นเท่าไหร่นัก ซึ่งการที่มี Pax เพิ่มมาอีก 2 สายก็ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้เล่นได้พอสมควรเลย
องค์ประกอบต่อมาที่ถูกเพิ่มเข้ามาภายใน DLC นี้ก็คือ Ascension Points เป็นระบบความก้าวหน้าแบบใหม่ที่จะเพิ่มสมรรถนะให้กับตัวละครของผู้เล่นได้เป็นอย่างดี โดยภายในผัง Ascension Points นี้จะแบ่งรายละเอียดออกเป็น 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ ได้แก่ Anomaly (ความผิดปกติ) , Endurance (ความทนทาน) , Brutality (ความโหดร้าย) และ Prowess (ความกล้าหาญ) โดยแต่ละสายก็จะมีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป เช่น Brutality จะมีความสามารถในการทำดาเมจที่รุนแรงขึ้นจากการยิงปืน เป็นต้น ซึ่งองค์ประกอบของ Ascension Points ก็จะทำให้ตัวละครของผู้เล่นนั้นโดดเด่นมากขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นการเพิ่มมิติให้กับตัวละครที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ
Apocalypse Tier จะเป็นระบบที่คล้ายกับ World Tier โดยระบบนี้จะเพิ่มระดับ Max Gear Equip ของผู้เล่น รวมไปถึงเพิ่มระดับความยาก และที่สำคัญที่สุดคือเพิ่มอัตราการดรอปของไอเทมระดับ Apocalypse ที่ดีขึ้นระหว่างการเล่นเกมอีกด้วย โดยไอเทมประเภท Apocalypse จะทำให้ Outrider ของผู้เล่นโหดขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว เพราะว่าชุดเกราะระดับนี้มีไว้สำหรับคลาสเฉพาะ แถมมาพร้อมกับโบนัสพิเศษที่จะทำให้คุณพร้อมลุยในทุกสถานการณ์
นอกจากนี้ภายใน DLC นี้ยังมีการเพิ่มม็อดใหม่ , อุปกรณ์สวมใส่ใหม่ และรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายรอให้ผู้เล่นได้เข้าไปสัมผัสด้วยตนเองอยู่ครับ ซึ่งผู้เขียนยืนยันว่าสะใจแน่นอน
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Square Enix ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวกันในครั้งนี้ครับ
ภาพ Screnshots เพิ่มเติม
บทสรุป
Outriders Worldslayer เรียกได้ว่าเป็น DLC ที่น่าจับจองกันพอสมควร โดยเฉพาะการที่ผู้เล่นจะได้ออกฟาร์มไอเทมใหม่ ๆ ในพื้นที่ใหม่ รวมไปถึงการเพิ่มมิติในการอัปเกรดตัวละครที่ผู้เขียนกล้าพูดเลยว่าถูกใจแฟนเกมแน่นอน อย่างไรก็ตามหากมองในส่วนของราคาที่จะต้องจ่ายสูงถึง 1,280 บาท ในมุมมองผู้เขียนมองว่ายังสูงไปสักนิดสำหรับ DLC นี้ ซึ่งหากถามว่าคุ้มค่าหรือไม่ ก็คงต้องบอกว่าแฟนเกม Outriders ก็ไม่ควรพลาดอยู่แล้ว แต่ถ้าผู้ล่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในเกมนี้อาจจะกำเงินไว้น่าจะดีกว่าครับ ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนส่วนเสริมนี้ที่ 7.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ - 7.5
7.5
คะแนน
ตัวเกมเริ่มเล่นได้ทันที ไม่ต้องเล่นเนื้อเรื่องช่วงแรกให้เสียเวลา อัปเกรดตัวละครเป็นเลเวล 30 พร้อมอาวุธครบมือให้ผู้เล่นสร้างตัวใหม่ ระบบการอัปเกรดตัวละครที่ถูกเพิ่มเข้ามา ทำให้การอัปเกรดตัวละครมีมิติมากยิ่งขึ้น แต่เนื้อเรื่องที่สั้นไปนิด ถ้ายาวกว่านี้น่าจะคุ้มค่ากว่านี้