[รีวิว] Trek to Yomi – สวมบทเป็นซามูไรเดนตายในโทนขาวดำ
Trek to Yomi เกมแอ็กชั่นแบบ 2D Side Scroller ที่ควรถูกจัดเป็นงานศิลป์แบบ Interactive
- ผู้พัฒนา : Leonard Menchiari, Flying Wild Hog
- ผู้จัดจำหน่าย : Devolver Digital
- แนวเกม : Adventure , Action
- ขนาดไฟล์ : 11 GB
- ดาวน์โหลดเกมได้ที่นี่
Trek to Yomi คือเกมแอ็กชั่นแบบ 2D Side Scroller ที่ถูกพัฒนาโดย Flying Wild Hog และ Leonard Menchiari เราจะได้รับบทเป็นซามูไรหนุ่มที่ต้องต่อสู้กับเหล่าศัตรู ทั้งมนุษย์ด้วยกันไปจนถึงศัตรูที่มาพร้อมพลังเหนือธรรมชาติ โดยเกมนี้จะมีการใส่กิมมิคภาพเกมเป็นสีขาวดำ ตามแบบฉบับภาพยนตร์ของ Akira Kurosawa ผู้กำกับมือทองที่คอหนังซามูไรต้องรู้จัก
และในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเล่นเกม Trek to Yomi แล้ว และก็ไม่พลาดที่จะมารีวิวประสบการณ์การเล่นเกมนี้บน PC ให้ผู้อ่านได้ติดตามกันครับ
อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PC และเป็นการรีวิวในวันที่ 14-16 พฤษภาคม 2565 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีแพทช์ออกมาแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้
ออกผจญภัยในดินแดนซามูไรในภาพขาวดำย้อนยุคสุดโดดเด่น
เปิดมาประเด็นแรกที่ทำเอาผู้เขียนงง แต่ก็ประทับใจมาก ๆ เลยก็คือ การตัดสินใจของผู้พัฒนาเกมที่ค่อนข้างแหวกแนว สร้างเกมซามูไรด้วยการใช้โทนภาพแบบขาวดำ! ซึ่งโทนภาพแบบนี้ทำให้เหมือนผู้เล่นกำลังนั่งชมภาพยนตร์ย้อนยุคของ Kurosawa อยู่นั่นเอง และด้วยโทนภาพแบบนี้ทำให้บรรยากาศในการเล่นเกมนี้แตกต่างไปจากเกมอื่น ๆ เป็นอย่างมาก โดยผู้เขียนรู้สึกว่า Trek to Yomi ไม่ใช่เกม แต่เหมือนกับงานศิลป์แบบ Interactive มากกว่า ทำเอาผู้เขียนยกนิ้วให้ 2 โป้งแบบไม่ต้องลังเลเลยครับ
นอกจากโทนภาพขาวดำแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ผู้เขียนแอบแปลกใจแต่ก็ประทับใจก็คือ มุมกล้องที่แตกต่างไปจากเกมอื่น ๆ อยู่พอสมควร โดยเกมนนี้ไม่ได้ใช้มุมกล้องตามตัวละครให้เดินไปมาได้อย่างอิสระ แต่จะเน้นมุมกล้องแบบมองข้างเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นคือ ฉากภายในเกมนี้ไม่ได้มีแค่ด้านกว้าง หรือสูง เท่านั้น แต่ยังมีความลึกของฉากอีกด้วย ทำให้การออกผจญภัยภายในเกมนี้มีมิติมากขึ้น แม้ว่ามุมกล้องจะเป็นแบบด้านข้างก็ตาม
อย่างไรก็ตามการใช้ภาพโทนขาวดำนั้นใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีครับ เพราะการใช้ภาพโทนนี้ทำให้หลาย ๆ ฉากนั้นดูทางได้ค่อนข้างยาก ทำให้หลาย ๆ ครั้งแทนที่เราจะได้วิ่งไปที่ฉากต่อไป แต่กลายเป็นว่าเราต้องวิ่งวน หรือวิ่งเลาะขอบฉากเพื่อหาเส้นทางต่อไป รวมไปถึงไอเทมที่มีให้เก็บในฉากก็ดูยากตามไปด้วย (แม้ว่าจะมีสัญลักษณ์บอกก็ตาม) ทำให้ตรงนี้กลายเป็นข้อน่าสังเกตไปอย่างน่าเสียดาย (แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกมดูแย่จนไม่น่าเล่นนะครับ)
สำรวจแผนที่สุดแสนละเอียด ที่มีไอเทม ทางลับ และผลประโยชน์มากมายรออยู่
การออกผจญภัยภายในดินแดนญี่ปุ่นแห่งนี้ไม่ได้มีเส้นทางให้ผู้เล่นได้เดินแค่เส้นทางเดียวเสมอ ในหลาย ๆ ครั้งผู้เล่นจะพบทางแยกที่จะพาผู้เล่นไปพบกับไอเทมที่ซ่อนอยู่ รวมไปถึงทางลับที่จะทำให้ผู้เล่นได้ไปโผล่ในจุดที่ได้เปรียบอย่างมากในการต่อสู้
ในเกมนี้ผู้เล่นจะออกสำรวจแผนที่ทั้งเมือง , ป่า , ถ้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแต่ละฉากก็จะมีเส้นทางให้เดินหลากหลายเส้นทาง ซึ่งผู้เล่นจะต้องสังเกตให้ดี โดยระหว่างการสำรวจผู้เล่นอาจจะได้พบกับไอเทมสำคัญที่จะเพิ่มค่า Max HP รวมไปถึง Max Stamina ให้กับผู้เล่น รวมไปถึงผู้เล่นจะได้พบเจอของสะสม (Collectible Item) ที่ซ่อนอยู่ตามมุมของฉากต่าง ๆ จำนวนมาก
นอกจากนี้การสำรวจเส้นทางของผู้เล่นอาจจะทำให้ผู้เล่นได้พบเจอกับเส้นทางลับที่จะทำให้ผู้เล่นสังหารศัตรูได้ง่ายขึ้น หรือลอบเร้นผ่านศัตรูไปโดยไม่ต้องสู้เลยก็ได้ ซึ่งจุดนี้เองถือว่าเป็นการออกแบบแผนที่ที่ชาญฉลาดและเหมาะสมกับเกมสไตล์แบบนี้เป็นอย่างมาก
การต่อสู้แบบซามูไร หลบหลีก ปัดป้อง โจมตีให้เรียบ
องค์ประกอบต่อไปที่ผู้เขียนรู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเกมก็คือ ระบบการต่อสู้ภายในเกม Trek to Yomi นั่นเอง โดยในจุดเริ่มต้นนั้นผู้เขียนแอบรู้สึกว่าเกมนี้มีการควบคุมที่แปลกอยู่ไม่น้อย เพราะผู้เล่นจะต้องคอยกด “หมุนตัว” ทุกครั้งเวลาที่จะหันหน้าไปโจมตีอีกฝั่งหนึ่ง แต่เมื่อดูความสมเหตุสมผลก็ถือว่าเข้าใจได้ เพราะท่วงท่าของดาบ รวมไปถึงการต่อสู้ของซามูไรนั้น “จะไม่มีการหันหลังให้ศัตรู” และจะเป็นการต่อสู้ที่เน้นการเผชิญหน้าด้วยดาบ หรืออาวุธเสริมอย่างชูริเคน ธนู หรือปืน อย่างไรก็ตามความแปลกนี้จะสิ้นสุดลงไปในเวลาไม่นานเพราะเมื่อผู้เล่นปลดล็อคสกิลได้เมื่อไหร่ จะทำให้ผู้เล่นสามารถกลับตัวไปโจมตีด้านหลังได้ในเวลาเดียว ทำให้การเล่นเกมนี้ง่ายขึ้น
สำหรับเกมเพลย์ต่อสู้ภายในเกมนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยากครับ ผู้เล่นจะได้โจมตี หลบหลีก และปัดป้องการโจมตีของศัตรู โดยการโจมตีนั้นผู้เล่นสามารถกดคอมโบโจมตีได้ด้วยการโจมตีแบบเบาและหนักผสมผสานกันไป และกะจังหวะปัดป้องให้ดีเพื่อให้เราได้เปรียบในการโจมตีสวนทำให้เรากำจัดศัตรูได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามศัตรูแต่ละตัวก็จะมีความเร็ว และกระบวนท่าดาบแตกต่างกันไป แถมหลาย ๆ ครั้งศัตรูเหล่านี้ไม่ได้มาเพียงตัวเดียว แต่เป็นจำนวนมาก พร้อมรุมเราให้จมดิน ทำให้ผู้เล่นจะต้องศึกษารูปแบบการโจมตีของศัตรูให้ดี วางการต่อสู้ให้เหมาะสมเพื่อที่จะเอาชนะศัตรูเหล่านี้ให้ได้
อีกข้อหนึ่งที่ผู้เล่นจะต้องระวังก็คือ “ค่าความเหนื่อย” ที่จะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ผู้เล่นวิ่ง ปัดป้อง หรือโจมตีศัตรู โดยเมื่อตัวละครของผู้เล่นเหนื่อย จะทำให้ตัวละครของผู้เล่นนั้นยืนนิ่ง ๆ ไปสักพัก ซึ่งนั่นคือจังหวะที่แย่ที่สุด เพราะศัตรูที่พร้อมรบจะทำการโจมตีเรารัว ๆ จนเกือบตาย (หรือบางครั้งก็ถึงตาย) เลยทีเดียว
สิ่งที่น่าเสียดายเล็กน้อยก็คือตลอดการเล่นเกมนี้เราจะได้เห็นศัตรูเดิม ๆ ไม่กี่ประเภทวนไปเรื่อย ๆ แม้ว่าในตอนแรกเราจะตื่นตาตื่นใจกับนักดาบประเภทต่าง ๆ รวมไปถึงศัตรูประเภทสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ กลับพบว่าพวกมันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก แถมเรายังต้องเจอศัตรูซ้ำ ๆ แทบตลอดการเล่นเกมทั้งเกม … แม้ว่าจะสมเหตุสมผลกับความเป็นจริงว่าศัตรูที่แท้จริงก็คงมีไม่กี่ประเภทอยู่แล้ว แต่ในทางกลับกันก็ทำให้ผู้เขียนแอบรู้สึกเบื่ออยู่ไม่น้อย
สรุปรีวิว
ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมเวอร์ชั่นนี้ที่ 7 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ
บทสรุป
Trek to Yomi ถือได้ว่าเป็นเกมซามูไรน้องใหม่ที่มีความแปลกใหม่และโดดเด่นไปจากเกมซามูไรในท้องตลาดอยู่ไม่น้อยด้วยโทนภาพขาวดำ และเกมเพลย์ต่อสู้ที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามเกมนี้ยังมีจุดน่าสังเกตอยู่ไม่น้อย รวมไปถึงราคาของเกมที่อยู่ในเกณฑ์ค่อนสูงเมื่อเทียบกับชั่วโมงการเล่นที่ไม่นานมากนัก แต่ในทางกลับกันหากผู้อ่านคนใดชื่นชอบเกมซามูไร การซื้อเกมนี้มาเก็บลงในคอลเล็กชั่น และเสพย์งานศิลป์ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ครับ - 7
7
คะแนน
งานภาพโทนขาวดำสุดแปลกตา แต่โดดเด่นแบบสุด ๆ เกมเพลย์ต่อสู้ที่เรียบง่าย แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ภาพโทนขาวดำที่โดดเด่น ทำให้การมองฉากยากกว่าปกติพอสมควรและศัตรูมีซ้ำอยู่บ้าง