[รีวิว] Crysis Remastered Trilogy ออกตะลุยกับเหล่าเอเลี่ยนในกราฟิกที่งามขึ้น

Crysis Remastered Trilogy เป็นเกมที่จะมัดแพ็ครวมเอา Crysis, Crysis 2 และ Crysis 3 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเกมในตำนานที่กลับมาในครั้งนี้จะอลังการกว่าเดิม เพราะเกมนี้ได้รับการปรับแต่งและปรับปรุงสำหรับคอนโซลเน็กซ์เจนโดยเฉพาะ นั่นหมายความว่าเกม Crysis จะเล่นได้อย่างราบรื่นและดีขึ้นกว่าที่เคย

และในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมผัสกับเกม Crysis Remastered Trilogy มาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเกมนี้สร้างความประทับใจอยู่ไม่น้อย แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความรู้สึกเสียดายปนอยู่เช่นกัน รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มาติดตามได้ที่ข้างล่างนี้เลยครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 และเป็นการรีวิวในวันที่ 16-18 ตุลาคม 2564 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการปรับปรุงแล้ว

ออกตะลุยกับเหล่าเอเลี่ยนในกราฟิกที่งามขึ้น แต่ยังไม่ว้าว

ความประทับใจในด้านกราฟิกผู้เขียนรู้สึกว่า “ประทับใจแต่แฝงไปด้วยความเสียดาย” เพราะถ้ามองย้อนไปในอดีตเกม Crysis ถือว่าเป็นเกมที่โดดเด่นที่สุดในด้านของกราฟิกภายในเกมที่สวยงามคมชัดเหนือกว่าเกมอื่น ๆ ในยุคนั้นเป็นอย่างมาก และเมื่อเกมนี้ถูกนำมา Remaster แน่นอนว่าผู้เล่นหลาย ๆ คนคงคาดหวังกับกราฟิกเกมที่อลังการงานสร้างสมกับเป็นเกมยุคใหม่ แต่แท้จริงแล้วเกมนี้กลับไม่ได้สร้างความแตกต่างไปจากเกมในยุคนี้มากนัก ซึ่งผู้เขียนก็คงจะใช้คำว่า “สวยแต่ยังไม่โดดเด่น” นั่นเอง

นอกจากนี้ภายในเกม Crysis Remasterd (ภาค 1-2) ยังมีจุดสังเกตเรื่องกราฟฟิกให้ได้เห็นอย่างน่าเสียดาย เพราะถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมภายในเกมนี้จะถูกทำออกมาได้อย่างสวยงามสมกับเป็นเกมยุคใหม่ แต่ในทางกลับกันโมเดลตัวละครประกอบกลับถูกทำออกมาได้ค่อนข้างหยาบ รายละเอียดพื้นผิวของโมเดลหายไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งตอนแรกผู้เขียนคิดว่าเกิดจากการที่เกมไม่สามารถโหลด Texture ได้ทัน แต่ต่อให้ยืนรอนานแค่ไหนภาพก็ยังคงเหมือนเดิม นั่นแสดงว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่การโหลดพื้นผิวโมเดล แต่เป็นโมเดลที่ถูกทำมามีรายละเอียดน้อยเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตามทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ไม่ได้แปลว่ากราฟิกภายในเกม Crysis Remasterd Trilogy จะแย่มากจนทำให้คุณภาพเกมนั้นด้อยลงไป เพราะในภาพรวมแล้วก็ต้องยอมรับว่ากราฟิกภายในเกมนี้ถูกทำออกมาได้ดีน่าเล่นไม่แพ้เกมอื่นในยุคนี้ รวมไปถึง FPS ระดับ 60 FPS ที่ทำให้การเล่นเกมนี้มีความลื่นไหลก็ถือว่าแจ่มมากแล้ว แต่ถ้าหากใครคาดหวังความโดดเด่นที่ทำให้เกมนี้แปลกตาไปจากเกมอื่นก็คงต้องขอให้เผื่อใจไว้สักหน่อยครับ

ปะทะเหล่าเอเลี่ยนด้วยโหมดของเกราะที่หลากหลาย

เมื่อพูดถึงเกมเพลย์ที่โดดเด่นของเกม Crysis คงหนีไม่พ้นการเลือกใช้โหมดของเกราะให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นโหมดความเร็วที่ทำให้ผู้เล่นวิ่งได้ไวขึ้นอย่างมาก โหมดความแข็งแกร่งที่ทำให้ผู้เล่นถึกทนมากขึ้น รวมถึงสามารถโจมตีด้วยมือเปล่าได้รุนแรงขึ้นอย่างมาก และสุดท้ายก็คือโหมดล่องหน ซึ่งเมื่อผู้เล่นอยู่ในโหมดนี้จะทำให้ศัตรูมองเห็นผู้เล่นลำบากมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้เล่นควรพึงระลึกไว้เสมอก็คือ เกราะนี้มีพลังงานจำกัด นั่นแปลว่าเมื่อพลังงานหมด เกราะของผู้เล่นจะกลับมาสู่เกราะธรรมดาทันที ซึ่งถ้าหากผู้เล่นวางแผนไม่ดี เข้าปะทะกับศัตรูโดยที่ไม่ดูพลังงานของเกราะ แล้วสุดท้ายพลังงานนั้นไปหมดอยู่กลางวงศัตรู ก็ไม่ต้องนึกสภาพเลยว่าตัวละครเอกของเราจะจมกองกระสุน เป็นรูพรุนมากขนาดไหน

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ผู้เล่นควรจะระวังไว้คือ โหมดล่องหนภายในเกมนี้จะไม่เหมือนกับเกมอื่น ๆ พอสมควร ภายในเกมอื่น ๆ ศัตรูจะมองไม่เห็นเราทันทีเมื่อเรามุดเข้าไปใต้พงหญ้าหรือพุ่มไม้ขนาดใหญ่ แต่ในเกมนี้ศัตรูจะตาดีเป็นพิเศษ เพราะต่อให้ผู้เล่นอยู่ในโหมดล่องหนตัวใส ๆ ในพุ่มไม้ ศัตรูก็ยังคงมองเห็นเราได้อย่างง่ายดาย ในเมื่อพวกมันเห็นเรา สิ่งที่มันจะทำก็คือการยิงเราทันที และเสียงปืนที่ดังขึ้นก็จะเรียกศัตรูที่อยู่รอบ ๆ วิ่งเข้ามาหาเราและรุมยิงจนกว่าเราจะตาย ซึ่งจุดนี้อาจจะดูน่ารำคาญไปเสียหน่อย แต่ผู้เขียนกลับมองว่ามันคือเสน่ห์ ที่ทำให้เกมดูสมจริง และเป็นการทำให้ผู้เล่นต้องวางแผนการเล่นให้รัดกุมมากขึ้น

การใช้คุณสมบัติของ PS5 ยังไม่มากเท่าไหร่นัก

Crysis Remasterd Trilogy เป็นเกมที่สามารถเล่นบนเครื่องเล่นเกมยุคใหม่อย่าง PS5 ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเกมนี้ไม่ได้ถูกปรับแต่งมาให้เล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบบน PS5 เท่าไหร่นัก โดยประโยชน์ที่เกมนี้ได้รับอย่างชัดเจนก็คือกราฟิกที่คมชัด และการโหลดเกมที่รวดเร็ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่เกมนี้ไม่ได้ใช้คุณสมบัติอย่างเต็มที่นั่นก็คือจอย DualSense นั่นเอง

Adaptive Trigger และ Haptic Feedback เป็นองค์ประกอบหลักของจอย DualSense แต่เกม Crysis Remasterd Trilogy ไม่ได้ใช้คุณสมบัติดังกล่าวเท่าไหร่นักไม่ว่าจะเป็นการเล็งหรือการยิงปืนก็ไม่ได้ส่งผลให้ปุ่ม L2 หรือ R2 มีอาการหน่วง หรือหนืดแต่อย่างใด แรงเสียดทานในการกดก็ยังคงเท่าเดิม ซึ่งแตกต่างจากเกม Shooting เกมอื่น ๆ ที่เริ่มรองรับคุณสมบัติดังกล่าว นอกจากนี้ในส่วนของการสั่นของจอยก็ยังไม่ได้มีความแตกต่างไปจากเดิมเท่าไหร่นัก ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าการเล่นเกมนี้บน PS5 ยังไม่ใช่คำตอบเท่าไหร่ 

สุดท้ายนี้ ทีมงาน This is Game Thailand ต้องขอขอบคุณทาง Ripples ที่เอื้อเฟื้อเกมดีๆ เกมมันส์ๆ มาให้พวกเราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยนะครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.crysis.com

ภาพ Screenshots

ผู้พัฒนา : Crytek
ระบบรองรับขั้นต่ำ : Windows 10 64 บิต | Intel(R) Core(TM) i5-3470 | RAM 8 GB | พื้นที่ 92 GB | NVIDIA GeForce GTX 1060 | ภาษาที่รองรับภาษาอังกฤษ | ต้องมีบัญชี Epic Games