City Hunter ภาคนี้น่าจะตอกย้ำชัดเข้าไปอีกว่า Netflix เป็นเจ้าพ่อหนัง Live Action ที่เอามังงะมาดัดแปลงให้โดนใจแฟนๆ ที่สุดแล้ว
แม้ว่ามังงะเรื่องจะผ่านเวลาไปเกือบ 40 ปีนับตั้งแต่ตีพิมพ์ครั้งแรก และถูกสร้างเวอร์ชันคนแสดงจากประเทศอื่นๆ มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งมีทั้งข้อดี และข้อเสียอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าฉันคิดว่าภาคที่เด็กยุค 90’s จะจดจำได้มากที่สุดคือภาคของเฉินหลงก็ตาม
กลับมาที่ภาคของ Netflix แทบเรียกได้ว่าเป็นภาคที่อุทิศให้กับมังงะเลยก็ว่าได้ ทั้งการรักษาโทนของตัวละครหลักด้วยอารมณ์ขัน และฉากแอคชั่นที่ทำได้ดีมาก อารมณ์เดียวกันกับตอนที่ดูอนิเมะช่วงยุค 90 เลย ในหลายๆ ฉากที่ต้องถูกตีความใหม่ อย่างฉากซิกเนเจอร์ของมังงะ เช่นฉากตัวละครของคาโอริถือค้อน ซึ่งมีตัวเลขขึ้นอยู่กับความแค้นที่จะเกิดขึ้น และไล่ตีเรียว เมื่อมาว่าในภาคคนแสดง ค้อนควรจะออกมามายังไงดีให้มันดูมีเหตุผล ก็ทำได้ดีให้แฟนๆ ได้ระลึกถึงฉากในมังงะได้ แล้วก็ไม่ดูมันประหลาดหรือเป็นการ์ตูนเกินไป
หรือมุกหื่นๆ บางมุกที่เคยอยู่ในมังงะยุคนั้น ถ้าถูกนำมาอยู่ในภาพยนตร์ยุคนี้จะกลายเป็นเรื่องของการคุกคามทางเพศเลย ก็ถูกปรับใหม่ให้ความหื่นน้อยลง แต่ยังคงคาแรคเตอร์ของ ซาเอบะ เรียว ได้อย่างดี
สำหรับฉากแอคชั่นก็ทำได้ดีชนะทุกภาคที่คนแสดงไปเลย เช่น ฉากการยิงทรีคอมโบ วันโฮลชอต ดึงความเท่แบบมังงะมาเต็มๆ แต่ก็อาจจะมีบางจุดที่ยังไปไม่ถึง อย่างองค์กร “ยูเนี่ยน” ที่ไม่มีที่ไปที่มา และถูกทิ้งไว้กลางทางเกินกว่าจะขยายให้จบในภาคนี้นั่นเอง
หากเพื่อน ๆ คิดถึงและอยากรับชมในเวอร์ชั่นอื่น ๆ สามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ Netflix ได้เลยครับ
ข่าวสารภาพยนตร์อื่น ๆ : GamerCulture