
สำหรับใครที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊คสำหรับเล่นเกมสักเครื่องในครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับ ASUS ROG Zephyrus G14 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับขุมพลังจากค่ายแดงโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็น AMD Ryzen 9 6900HS และการ์ดจออย่าง Radeon RX 6700S และเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นตระกูล ROG Zephyrus ด้วยแล้ว รับรองได้ว่าจะต้องเน้นความเป็นที่สุดเพื่อให้เกมเมอร์ไม่สะดุดเวลาลงสู่สังเวียน ว่าแต่จะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้างเราไปดูกันเลย
Design


ASUS ROG Zephyrus G14 ที่เราได้มาทดสอบในครั้งนี้เป็นสีที่เรียกว่า Moonlight White สีขาวสุดเนียนตาที่มาพร้อมกับการออกแบบที่ยังคงรูปแบบเอาไว้จากรุ่นก่อน บานพับที่เมื่อกางออกจะยกระดับตัวเครื่องขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อที่จะช่วยในเรื่องของการระบายอากาศภายในให้หมุนเวียนได้ดี


รูปทรงของตัวเครื่องจะมีความเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่อาจจะทำให้ผู้ใช้งานหน้าใหม่แปลกตาเล็กน้อย แต่นี่คือสิ่งที่หากใครได้สัมผัสแล้วจะติดใจอย่างมากเนื่องจากพื้นที่การใช้งานบนหน้าจอที่ดูสมมาตรกว่า เนื่องจากอัตราส่วนในการแสดงผลอยู่ที่ 16:10
แม้ว่าขุมพลังภายในจะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สามารถเล่นเกมได้ทุกเกมแบบไม่ต้องกลัวใคร ทาง ASUS ยังได้ออกแบบตัวเครื่องให้สามารถที่จะพกพาไปใช้งานในที่ต่าง ๆ หรือใช้ในที่ทำงานโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะแปลกแยก เนื่องจากหากมองจากภายนอกโดยที่ปิดไฟ LED จะพบว่าตัวเครื่องไม่ได้รู้สึกทำให้สะดุดตามากนักซึ่งนี่ถือว่าเป็นข้อดีเช่นกัน

ASUS ROG Zephyrus G14 หากเป็นรุ่นสูงสุดจะมาพร้อมกับตัวเลือกอย่าง AniMe Matrix อย่างไรก็ตามรุ่นนี้ที่เราได้รับมาทดสอบในครั้งนี้ไม่ได้มีติดมาด้วย ฉะนั้นบานพับด้านนอกจะเป็นเพียงแค่ลวดลายพื้นฐานที่มีมาให้เท่านั้น


ขอบจอภายในถือว่ามีขนาดที่บางมากแม้ว่าจะมีกล้องอยู่ที่ขอบด้านบนแต่ยังให้พื้นที่การแสดงผลภาพที่เต็มตา


คีย์บอร์ดเป็นแบบมาตรฐาน โดยที่จะมีปุ่มพิเศษเพิ่มเข้ามาทั้งหมด 4 ปุ่มบริเวณขอบด้านบนซ้ายมือ แน่นอนว่าเราสามารถที่จะปรับแต่งคำสั่งเมื่อกดแต่ละปุ่มได้ผ่านซอฟต์แวร์ Armoury Crate


Trackpad เป็นแบบชิ้นเดียวรองรับการใช้งานคำสั่ง Gesture พอร์ตการใช้งานที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องประกอบไปด้วย HDMI 2.0b, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort และรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ขณะที่ด้านขวาของตัวเครื่องประกอบไปด้วย USB-A 3.2 Gen 2 จำนวน 2 พอร์ต USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort และช่องสำหรับ microSD


น้ำหนักของตัวเครื่อง 1.65 กิโลกรัมถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่หนักมาก สามารถที่จะพกพาไปใช้เล่นได้ในทุก ๆ ที่ ขณะที่ความหนาอยู่ที่ 1.85 เซนติเมตร

ด้านล่างเป็นพื้นที่สำหรับการระบายความร้อนภายในที่มีการเจาะรูเอาไว้หลากหลายจุด พร้อมลำโพง 4 ตัวที่อยู่สองข้าง
Display
หน้าจอของ ASUS ROG Zephyrus G14 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว โดยที่ความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 2560 x 1600 พิกเซล QHD+ แน่นอนว่าอัตราส่วนของภาพเป็นแบบ 16:10 จากเดิมที่รุ่นเก่าใช้งานเป็น 16:9


ในส่วนของฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับการเล่นเกมประกอบไปด้วยการรองรับการแสดงผล 120Hz ค่า response time 3ms มีเทคโนโลยี Adaptive-Sync ติดมาเพื่อแก้ไขปัญหาเวลาที่เล่นเกมแล้วเกิดอาการขาดของภาพ ฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยทำให้ไม่มีปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น

ตัวเครื่องยังรองรับการแสดงผลภาพแบบ Dolby Vision HDR ทำให้คุณภาพและความละเอียดที่เราได้มีความคมชัดอย่างมาก เช่นเดียวกับรายละเอียดและความถูกต้องของสีที่มีขอบเขต 100% DCI-P3
Performance

ASUS ROG Zephyrus G14 สำหรับการทดสอบในครั้งนี้มาพร้อมกับการใช้งานสเปคซีพียู AMD Ryzen 9 6900HS ซึ่งเป็นซีพียูที่มาพร้อมกับจำนวนคอร์การทำงาน 8 core 16 threads จับคู่กับการ์ดจอ AMD Radeon RX 6700S แรม 16GB พร้อมที่เก็บข้อมูล 1TB แบบ SSD

มาลองทดสอบกันที่ประสิทธิภาพของ SSD ภายในเครื่องกันดีกว่ารูปแบบการเชื่อมต่อเป็นแบบ PCIe 4.0 ความเร็วจากการทดสอบด้วย CrystalDiskMark ออกมารวดเร็วใช้ได้ความเร็วในการอ่านข้อมูล 3589MB/s และความเร็วในการเขียนข้อมูล 3468.17MB/s สามารถที่จะใช้งานได้ทั้งการทำงานทั่วไปและการโหลดเข้าเกมหรือระหว่างฉากภายในเกมโดยที่ไม่ต้องรอนาน

ตามมาด้วยการทดสอบด้วย Cinebench R23 ซึ่งเป็นการทดสอบในด้านการประมวลผลของซีพียูโดยเฉพาะพบว่าคะแนนที่ทำออกมาได้ค่อนข้างที่จะดี โดยทำคะแนนไปได้ 12250 คะแนนสำหรับ Multi-Core และ 1540 คะแนนสำหรับ Single-Core

ขณะที่การทดสอบผ่าน Geekbench 5 ทำคะแนนออกมาได้ 9204 คะแนนสำหรับ Multi-Core 1583 คะแนน Single-Core ส่วนคะแนน OpenCL ทำไปได้ 76502 คะแนนและสุดท้าย Vulkan ทำไปได้ 34533 คะแนน

3DMark จากการทดสอบที่ได้อยู่ในระดับที่ไม่น่าต้องเป็นกังวลอะไรนัก เนื่องจากตัวเครื่องมาพร้อมกับสเปคที่เหนือกว่ารุ่นอื่นอยู่แล้ว ฉะนั้นเราไปดูในส่วนของการเล่นเกมกันเลยดีกว่า

ในส่วนของการเล่นเกมเราได้ทำการตั้งค่าภาพภายในเกมเป็นความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล เป็นค่าความละเอียดที่ตัวเครื่องสามารถแสดงผลได้สูงที่สุด ขณะเดียวกันในเกมที่ได้ทำการทดสอบมีการปรับภาพกราฟิกภายในเกมสูงที่สุดเท่าที่ตัวเกมมีให้ โดยรายละเอียดที่เราได้เป็นผลไปตามภาพด้านล่าง

จะเห็นว่าเกมระดับ AAA ตัวเครื่องสามารถที่จะเล่นได้โดยที่เฟรมเรทไม่ตกไปจาก 60FPS แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตในเกมอย่าง Fortnite ที่ดูเหมือนว่าหากทำการตั้งค่าความละเอียดในระดับ QHD+ และเปิดกราฟิกแบบ Epic จะมีอาการเฟรมเรทตกเป็นช่วง ๆ แต่หากปรับเป็น 1080p หรือลดกราฟิกลงมาเหลือที่ High พบว่าสามารถที่จะเล่นได้โดยที่ไม่มีปัญหาอีกต่อไป จึงพอจะสรุปได้ว่าตัวเครื่องสามารถที่จะเล่นเกมความละเอียด Native ได้ หรือหากใครที่อยากมั่นใจว่าเล่นได้ทุกเกมเพียงแค่ปรับความละเอียดลงมาเหลือ 1920 x 1080 พิกเซลตัวเครื่องสามารถเอาได้อยู่หมัดแบบปรับสุด
ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ ASUS ROG Zephyrus G14 ที่ใช้สำหรับการปรับแต่งตัวเครื่องได้ครบถ้วนที่ชื่อว่า ASUS Armoury Crate สามารถดูสถานะส่วนประกอบต่าง ๆ ของตัวเครื่องได้ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ การทำงานของพัดลม การปรับแต่งในส่วนของไฟแสดงผลตัวเครื่องและคีย์บอร์ด

นอกจากนี้การปรับแต่งโหมดการทำงานของการ์ดจอยังสามารถปรับได้หลากหลายโหมดไม่ว่าจะเป็นการเปิดสุดใส่เต็มด้วย Ultimate จะเป็นการเร่งประสิทธิภาพเครื่องออกมาให้มากที่สุด ขณะที่ใครต้องการความเสถียรรอบด้านสามารถที่จะเลือกใช้งานเป็นโหมด Optimized เพื่อให้ตัวเครื่องช่วยเลือกได้ว่าจะให้ทำงานอย่างไร
Battery
ขนาดของแบตเตอรี่ภายในตัวเครื่องมีความจุอยู่ที่ 76Wh ด้วยความที่เป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊คแบตเตอรี่หากสามารถที่จะอยู่ได้เกิน 5 ชั่วโมงนับว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ดีแล้ว ซึ่งจากการทดสอบใช้งานด้วยการเปิดโหมดการ์ดจอเป็น Ultimate และใช้งานหนัก ๆ อย่างการเล่นเกมและสลับกับการท่องโซเชียลพบว่าสามารถอยู่ได้ราว 5 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตามหากปรับเปลี่ยนไปใช้งานโหมด Optimized พบว่าสามารถที่จะใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นขยับมาเป็น 6 ชั่วโมง 30 นาทีโดยประมาณ ในจุดนี้หากใครที่ไม่อยากสลับโหมดไปมาแนะนำว่าให้ทำการเลือก Optimized กันตั้งแต่แรก เนื่องจากการสลับโหมดจำเป็นที่จะต้องรีสตาร์ทเครื่องใหม่หนึ่งครั้งเสมอ
ความร้อนของตัวเครื่องแม้ว่าจะมีการชูเทคโนโลยี ROG Intelligent Cooling ซึ่งเป็นการนำการระบายความร้อนด้วยของเหลวและพัดลมมาอัดแน่นภายในเครื่อง ใช้งานพัดลมระบายความร้อนพร้อมช่องสำหรับการนำอากาศให้ไหลเวียนพอสมควร ตรงจุดนี้หากเป็นการทำงานทั่ว ๆ ไปเราแทบจะไม่ได้ยินเสียงการทำงานของพัดลมออกมาเลย อย่างไรก็ตามหากทำงานหนักอย่างการเล่นเกมจะพบว่าเสียงพัดลมค่อนข้างที่จะดังอยู่ในระดับที่ได้ยินได้ แต่ถามว่าหนวกหูหรือไม่ต้องบอกว่าไม่ขนาดนั้น

ที่น่าเป็นกังวลคือความร้อนเวลาที่ทำการเล่นเกมพบว่าเมื่อเปิดเกมไปได้สักระยะราว 10 นาที ความร้อนของตัวเครื่องค่อนข้างที่จะสูง การใช้มือสัมผัสกับคีย์บอร์ดมีไออุ่นขึ้นมารู้สึกได้ และเมื่อเปิดโปรแกรม ASUS Armoury Crate เช็คสถานะพบว่าอุณหภูมิของตัวเครื่องพุ่งขึ้นไปแตะหลัก 90 องศา ในจุดนี้แม้ว่าทางค่ายจะบอกว่าไม่มีผลต่อการเล่นเกมเนื่องจากมีระบบจัดการภายในออกมาได้ดี แต่หากเอาตามความรู้สึกของผู้ใช้งานอาจจะมองตรงกันข้ามก็เป็นได้
Conclusion

บทสรุปของ ASUS ROG Zephyrus G14 ต้องยอมรับว่าเป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊คที่ใช้งานได้รอบด้านด้วยประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่รองรับการใช้งานไม่ว่าจะเป็นทั่ว ๆ ไปหรือจัดหนักตัดต่อคลิป เล่นเกมล้วนแล้วแต่ทำได้ ภาพลักษณ์ภายนอกที่ไม่ทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตาเวลานำไปใช้งานภายนอกช่วยให้การหยิบออกมาใช้ภายนอกสะดวกกว่าเดิม ซอฟต์แวร์ภายในปรับแต่งมาให้ใช้งานได้ง่าย พร้อมน้ำหนักเพียง 1.65 กิโลกรัม ด้วยราคา 69,990 บาท ถือว่าเป็นราคาที่น่าลงทุนอย่างมากกับประสิทธิภาพที่เราจะได้ในครั้งนี้
ข้อดี
– การออกแบบที่คงความเป็นโน้ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมเอาไว้แต่ปรับให้ใช้งานได้กับทุกสถานการณ์
– วัสดุแข็งแรงทนทาน พร้อมสีที่คุมโทนให้ดูเรียบหรู
– ตัวบานพับที่เมื่อกางออกจะช่วยยกตัวเครื่องขึ้นเพื่อความสะดวกในการใช้งานและระบายความร้อน
– ประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่รองรับการทำงานได้รอบด้าน
– หน้าจอรองรับความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซลรองรับการแสดงผล 120 Hz
– พอร์ตการใช้งานที่จำเป็นสำหรับปัจจุบันมีมาให้ใช้งานครบ
– การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.2
– ลำโพงคุณภาพสูงจำนวน 4 ตัวพร้อมโหมดการปรับแต่งเสียงที่หลากหลาย
– แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้จริงต่อเนื่องยาวนาน
– น้ำหนักเพียง 1.65 กิโลกรัมไม่หนักอย่างที่คิดเอาไว้
– มาพร้อมซอฟต์แวร์สำหรับการปรับแต่งตัวเครื่องภายในตัว
ข้อสังเกต
– ไม่มีพอร์ต RJ-45 มาให้ ถือว่าน่าเสียดายหากพูดว่าเป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊คก็ควรมีติดมาให้เลย
– แม้จะมีเทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิมาอย่างดี แต่ความร้อนที่แสดงออกมาให้เราได้เห็นยังคงไม่น่าประทับใจนัก
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง ASUS แห่งประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง ASUS ROG Zephyrus G14 มาให้เราได้ทำการทดสอบใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ [คลิก]