ผู้เขียน : Youryu
Armored Core VI: Fires Of Rubicon เป็นเกมแอ็กชั่นหุ่นรบความเร็วสูง โดยในเกมภาคนี้จะเป็นการ Reboot เนื้อเรื่องทั้งหมดใหม่อีกครั้ง ผู้เล่นจะประกอบและควบคุมหุ่นยนต์ของตนเองเพื่อเคลื่อนที่อย่างอิสระผ่านภารกิจที่รวดเร็วสะใจในสภาพแวดล้อมแบบ 3 มิติ เผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยากและกำจัดศัตรูของคุณด้วยการเคลื่อนไหวแบบไดนามิกที่ผสมผสานการต่อสู้ระยะไกลและระยะประชิดได้อย่างเต็มที่ ผู้เล่นสามารถสนุกไปกับการกระทำต่าง ๆ ที่สามารถรับรู้ได้อย่างแท้จริง “ด้วยหุ่นยนต์เท่านั้น”
และในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปขับหุ่นถล่มศัตรู (รวมไปถึงโดนศัตรูถล่ม) มาแล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะมานำเสนอรีวิวเกมที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ
กราฟิกภายในเกมที่สวยงาม เอฟเฟกต์มาแบบอลังการ
สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือเกม Armored VI นี้ถูกทำกราฟิกออกมาได้สวยงามมาก ๆ โดยตัวเกมที่เล่นบน PS5 จะรองรับการปรับเปลี่ยนโหมด 2 แบบก็คือโหมดประสิทธิภาพ และโหมดคุณภาพ ซึ่งโหมดคุณภาพสามารถเลือกได้อีกเล็กน้อยว่าจะเปิดโหมด Ray Tracing หรือไม่ ซึ่งภาพที่ออกมาก็สวยงามบาดตาแบบสุด ๆ เลยทีเดียว ซึ่งผู้เขียนยกนิ้วให้เป็นอย่างมาก
สำหรับผู้เขียนมองว่าเกมนี้ทำกราฟิกออกมาได้ดีมาก ๆ สวยงามและค่อนข้างสมจริงแถมไม่มีการกระตุกเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเราจะยิงกันพัลวันตูมตาม ฉากเต็มไปด้วยเอฟเฟกต์แค่ไหนก็ตามทำให้มั่นใจได้ว่าการเล่นเกมจะลื่นไหลและมันส์สะใจสมกับเป็นเกมแอ็กชั่นหุ่นยนต์ที่ควรจะเป็นซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถของทีมพัฒนาเกมว่าสามารถรีดเค้นประสิทธิภาพของเครื่องเล่นเกมยุคใหม่ออกมาได้ดีสมกับที่รอคอยมาก ๆ
โดยนอกเหนือจากดีไซน์โมเดลของหุ่น รวมไปถึงบรรยากาศของเกม ต้องบอกเลยว่าทีมงานเก็บรายละเอียดยันฝุ่นเลยทีเดียว เพราะเวลาที่หุ่นระเบิดจะมีกลุ่มควันปรากฏขึ้นด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่หุ่นตัวเล็ก ๆ เท่านั้น แต่ในเวลาที่หุ่นยนต์ยักษ์ล้มลงหรือเวลาที่เกิดระเบิดขึ้นมาก็จะมีกองฝุ่นขนาดมหึมาลอยขึ้นมาด้วยซึ่งแสดงให้เห็นถึงความละเอียดของการพัฒนากราฟิกของเกมเป็นอย่างมาก
เนื้อเรื่องที่น่าติดตาม แต่นำเสนอได้น่าเสียดาย
สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนแอบเสียดายมาก ๆ ก็คือ เนื้อหาภายในเกมนี้ถ้าขยันอ่านหน่อยก็ถือว่าน่าสนใจในระดับหนึ่งเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเสียดายก็คือการนำเสนอเนื้อหาภายในเกมส่วนใหญ่จะเป็นการพูดคุยกันผ่านเครื่องมือสื่อสาร (COM) กันตลอดแทบทั้งเกม ทำให้สายเสพเนื้อเรื่องอาจจะไม่ค่อยอินเท่าไหร่เพราะจะไม่มีคัทซีนให้เห็นสักเท่าไหร่ หรือถ้ามีก็แค่สั้น ๆ ระหว่างการทำภารกิจ เพราะฉะนั้นอย่าได้คาดหวังถึงความอลังการของคัทซีนภายในเกมนี้ครับ
สิ่งที่น่าเสียดายอีกเล็กน้อยก็คือเกมนี้ “ไม่มีภาษาไทย” ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากเพราะก่อนหน้านี้เกมของ Bandai Namco นั้นแทบจะมีภาษาไทยทุก ๆ เกม อย่าง Dragon Ball Z Kakarot, TEKKEN 8 เป็นต้น รวมไปถึงหากมองในแง่ของทางฝั่ง FromSoftware เกมล่าสุดอย่าง Elden Ring ก็มีภาษาไทย ทำให้การที่เกม Armored Core VI: Fires of Rubicon ไม่มีภาษาไทยนั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ
การปรับแต่งหุ่นที่ละเอียด และน่าประทับใจสุด ๆ
หากใครเป็นสายเล่นโมเดล หรือชอบเกมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ปรับแต่งหุ่นของตนเองได้อย่างเต็มที่ผู้เขียนก็ไม่อยากให้พลาดเกมนี้เลยครับ เพราะว่า Armored Core VI เป็นเกมที่ผู้เขียนกล้ายืนยันว่าเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้แต่งหุ่นได้ตามความต้องการในระดับที่น่าพึงพอใจเลยทีเดียว
เริ่มต้นจากชิ้นส่วนหุ่นที่ผู้เล่นสามารถเลือกชิ้นส่วนของหุ่นได้ตั้งแต่ชิ้นส่วนของหัว ลำตัว แขน และช่วงล่าง ซึ่งแม้ว่าอาจจะดูน้อยไปนิด แต่ชิ้นส่วนที่มีให้เลือกใช้งานภายในเกมนี้ก็มีเยอะในระดับหนึ่ง โดยชิ้นส่วนแต่ละชิ้นก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องของความทนทาน, ค่า HP, น้ำหนัก และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะประกอบหุ่นให้เป็นแนวปราดเปรียวว่องไวแต่บอบบาง, หุ่นสายสมดุล, สายเคลื่อนที่กลางอากาศได้คล่องตัว หรือว่าจะเลือกเป็นสายกึ่งรถถังเลยก็ได้ ทำให้เราสามารถสร้างหุ่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้เต็มที่
นอกจากนี้อาวุธที่ใช้งานก็เรียกได้ว่ามีรายละเอียดเยอะแบบสุด ๆ เพราะนอกเหนือจากปืนกลทั่วไปแล้ว เกมนี้ยังมีประเภทของอาวุธที่หลากหลายตั้งแต่เลเซอร์, ระเบิด รวมไปถึงประเภทของลักษณะการยิง, ประเภทของกระสุน และระยะการโจมตี ซึ่งผู้เล่นจะต้องคอยปรับเปลี่ยนอาวุธให้เหมาะสมกับศัตรูที่เราจะต้องเข้าไปเผชิญ ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนอาจจะกังวลว่าอาวุธที่ซื้อมาอาจจะไม่ได้ใช้แล้วต้องขายทิ้งไปแบบขาดทุน ผู้เขียนจะบอกไว้ตรงนี้เลยว่านี่คือ จุดที่ประทับใจมากที่สุดเพราะการขายอาวุธหรือชิ้นส่วนนั้น “ไม่มีการหักเงิน” แต่อย่างใด เรียกได้ว่าซื้อมาเท่าไหร่ ขายคืนได้เท่านั้น ทำให้ผู้เล่นสามารซื้อขายชิ้นส่วนและอาวุธเพื่อซื้อของใหม่มาทดลองใช้ได้อยู่ตลอดเวลา
นอกเหนือจากการปรับแต่งชิ้นส่วนหุ่นและอาวุธแล้ว เกมนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นปรับแต่ง OS ของหุ่นอีกด้วย ซึ่ง OS ของหุ่นจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของหุ่นในหลากหลายแบบ เช่นทำให้เราฟื้นฟู HP ได้มากขึ้นในแต่ละครั้ง, เพิ่มอุปกรณ์ที่ทำให้ผู้เล่นเปิดใช้บาเรีย หรือเกราะระเบิดได้, เพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหว, เปิดให้เล็งแบบ Manual, เพิ่มความรุนแรงในการโจมตี และการป้องกันของหุ่น เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้ส่งผลอย่างมากให้กับหุ่นตัวเองที่ผู้เล่นมองข้ามไม่ได้เลยครับ
บอสที่จะพร้อมทำให้เราตาย ปรับแต่ง เกิด และเอาชนะมันให้ได้!
Armored Core VI เป็นเกมที่จะพาผู้เล่นไปสนุกกับความตายแบบวนเวียนคล้าย ๆ กับ Dark Souls ในระดับหนึ่ง แต่ศัตรูไม่ได้โหดร้ายเท่ากับซีรีส์ Soulborne ซึ่งผู้เขียนสามารถยืนยันด้วยตัวเองได้ว่าปกติแล้วเล่นเกมของ From Software ไม่เคยรอดเลย เพราะว่าแพ้บอสอยู่บ่อย ๆ แต่เกมนี้ผู้เขียนสามารถเล่นได้ในระดับท้าทายที่เอาชนะได้ ซึ่งผู้เขียนกลับรู้สึกประทับใจกับความท้าทายในรูปแบบนี้เป็นอย่างมาก
ในการเข้าทำภารกิจหลาย ๆ ครั้งผู้เล่นจะต้องเผชิญหน้ากับบอสที่รอเราอยู่ที่ห้องสุดท้าย ซึ่งแต่ละด่านนั้นเราไม่อาจทราบได้ตั้งแต่ครั้งแรกว่าเราจะต้องเจอกับบอสแบบไหน นั่นแปลว่าเราจะต้องลุ้นว่ายุทโธปกรที่เราเอาเข้าไปนั้นเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าเป็นอาวุธที่ชนะทางบอสหรือไม่ ทำให้เราจะต้องเข้าไปศึกษาบอสด้วยการพยามยามสู้ให้ดีที่สุดก่อน และถึงแม้ว่าจะตายก็ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะเกมนี้ไม่มีการลงโทษผู้เล่นหากแพ้เหมือนกับเกม Soulborne แถมเกมนี้จะเปิดให้ผู้เล่นได้ปรับแต่งหุ่นได้เรื่อย ๆ ก่อนที่จะเข้ามาสู้กับบอสใหม่อีกครั้งจนกว่าเราจะชนะ แต่จะมีการหักผลประโยชน์ที่ได้เมื่อผู้เล่นเอาชนะเกมได้ (หักเงินตามกระสุนที่ใช้ และดาเมจที่ได้รับ แต่ไม่มากจนต้องเป็นกังวลเท่าไหร่) นั่นแปลว่ายิ่งผู้เล่นชนะได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้รางวัลมากขึ้น แต่ถ้าผู้เล่นชนะแบบทุลักทุเลก็จะได้รางวัลน้อยลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตามหากใครคิดว่าเราไม่มีอาวุธที่ชนะทางบอสได้จะทำให้เราไม่อาจเอาชนะบอสได้เลย ต้องบอกก่อนว่า “ไม่จริง” เลยครับ เพราะจากประสบการณ์ของผู้เขียนที่เจอบอสมาหลายสิบตัว บอกได้เลยว่าแม้ว่าอาวุธจะไม่ได้ชนะทาง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่มีทางเอาชนะบอสได้ แต่การใช้อาวุธที่ชนะทางบอสจะทำให้เรากำจัดบอสได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่นบอสที่มีบาเรีย เราเลือกใช้ปืนที่มีความสามารถในการละลายบาเรียได้เร็วไปใช้ก็จะทำให้เราทำให้มันเสียศูนย์ได้เร็วขึ้น แต่ปืนชนิดอื่น ๆ ก็ทำลายบาเรียได้ แต่แค่จะนานกว่าปกติมาก ๆ เท่านั้นเอง รวมไปถึงด่านที่ต้องเจอกับเรือยักษ์ถ้าเรามีปืนเรลกันที่สามารถชาร์จยิงได้อย่างรุนแรงก็จะทำให้เราชนะได้ง่ายกว่าการใช้ปืนกลนั่นเอง ซึ่งจากข้อมูลนี้ผู้เขียนสามารถสรุปได้ว่า “ผู้เล่นสามารถชนะด่านได้โดยใช้อาวุธที่ตัวเองถนัด แต่ยิ่งใช้อาวุธถูกลักษณะมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเอาชนะด่านนั้นได้ง่ายขึ้น” นั่นเอง
อีกหนึ่งความท้าทายที่ชอบมาก ๆ ก็คือบอสแต่ละตัวจะมีแพทเทิร์นในการต่อสู้แตกต่างกันไป ทำให้เราจะต้องศึกษาแพทเทิร์นการโจมตีของมันให้ดีและคอยหาทางหลบหลีก หรือตอบโต้การโจมตีของมันอยู่เสมอ นอกจากนี้บอสเหล่านี้จะมีจุดอ่อนประจำตัวด้วย ซึ่งเราสามารถทำให้มันเสียศูนย์ได้ด้วยการโจมตีจุดอ่อนมันซ้ำ ๆ ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่มันล้มลง เราจะโจมตีมันแรงขึ้น ฉะนั้นเป้าหมายของเราก็คือ “ทำลายจุดอ่อน และทำลายมันให้ได้” ซึ่งการทำแบบนี้ได้ผู้เล่นไม่ต้องเน้นไปที่ความเท่หรือความอลังการแต่อย่างใด แต่ให้เลือกใช้วิธีที่ง่ายแต่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดจะทำให้เราสามารถจบเกมได้ง่ายกว่าและไม่หัวร้อนเวลาตายด้วย ซึ่งผู้เขียนบอกได้เลยว่าแม้บางครั้งอาจจะหัวร้อนไปบ้าง แต่ความฟินหลังจากล้มบอสได้ มันคือความสุขแบบสุด ๆ ที่ผู้เขียนประทับใจและอยากให้ทุกคนได้สัมผัสครับ
เกมเพลย์แอ็กชั่น รวดเร็วด้วยยุทโธปกรณ์จำนวนมาก
อีกจุดแข็งของเกมที่ต้องพูดถึง เพราะนอกเหนือจากบอสแล้วการต่อสู้กับศัตรูตัวเล็ก ๆ จำนวนมากภายในด่านต่าง ๆ ก็ไม่ง่ายเท่าไหร่นัก เพราะบางทีพวกมันจะปรากฏตัวออกมาหลาย ๆ ตัวพร้อมกัน บางตัวอ่อนแอแต่มาเป็นฝูง บางตัวมีเกราะด้านหน้าต้องบินยิงจากด้านบน หรือทำลายโล่มันให้ได้เสียก่อน บางตัวหายตัวได้ และยิงเลเซอร์ที่ทำดาเมจรุนแรงใส่เรา ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เราต้องคอยศึกษาศัตรูอยู่เสมอ
ซึ่งเกมเพลย์ของ Armored Core VI จะเน้นเกมเพลย์แอ็กชั่น รวดเร็วด้วยยุทโธปกรณ์จำนวนมาก ทำให้เราสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วด้วย Booster เพื่อหลบหลีกการโจมตีได้แบบฉับพลัน รวมไปถึงพุ่งเข้าโจมตีศัตรูได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามผู้เล่นก็ต้องระวัง เพราะว่าศัตรูภายในเกมนี้จะไม่ยืนนิ่ง ๆ ให้คุณยิงเล่นแน่นอน พวกมันจะคอยเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาทำให้เราจะต้องเข้าต่อสู้กับพวกมันโดยการใช้สมองด้วยไม่ใช่ใช้แต่พลังของหุ่นยนต์เท่านั้น
คอนเทนต์ที่มีให้เล่นแบบจัดเต็ม
นอกเหนือจากการปรับแต่งหุ่นและเข้าต่อสู้กับศัตรูตามภารกิจแล้ว ภายในเกมนี้จะยังมีคอนเทนต์ให้เราได้ใช้งานอีกจำนวนมากพอสมควร ทำให้ผู้เล่นสามารเล่นเกมนี้ได้ยาวนานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมด Arena ที่เราจะต้องเข้าต่อสู้กับศัตรูเพื่อรับรางวัล, โหมด Replay ที่เราสามารถกลับมาต่อสู้กับบอสที่เอาชนะไปแล้วเพื่อฝึกฝีมือ รวมไปถึงโหมดการสร้างโลโก้ของตัวเองที่บอกได้เลยว่าผู้เล่นที่ชื่นชอบการปรับแต่งหุ่นจะได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงกับการสร้างโลโก้แน่นอน และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้เกมนี้มีคุณค่าในการเล่นบ่อย ๆ มากขึ้น
สรุปรีวิว
Armored Core VI: Fires of Rubicon ถือได้ว่าเป็นเกมแอ็กชั่นหุ่นยนต์ที่น่าสนใจและทำออกมาได้ดีสมกับการรอคอยหลายสิบปีไม่ว่าจะเป็นกราฟิกของเกม, เกมเพลย์แอ็กชั่นที่รวดเร็วสะใจ, ระบบปรับแต่งหุ่นที่ทำออกมาได้หลากหลาย ซึ่งโดยรวมแล้วผู้เขียนประทับใจในเกมนี้มาก ๆ แม้ว่าจะมีข้อเอ๊ะไปบ้าง แต่เรียกได้ว่าข้อดีที่มีมากกว่าทำให้เรามองข้ามข้อเอ๊ะไปได้แบบสบาย ๆ เลยครับ
ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ
จุดเด่น
– กราฟิกที่สวยงามแบบสุด ๆ
– การปรับแต่งหุ่นที่ทำออกมาได้ดีถึงใจสมกับที่โปรโมทไว้
– เกมเพลย์แอ็กชั่นหุ่นยนต์รวดเร็วสะใจ
– คอนเทนต์อัดแน่นในระดับที่น่าพึงพอใจ
– มี Photo Mode ให้ถ่ายภาพเจ๋ง ๆ
จุดสังเกต
– การนำเสนอเนื้อเรื่องผ่าน COM ที่แอบจืดชืดไปนิด
– ระบบการหมุนหุ่นตามศัตรูที่แอบยากเล็กน้อย โดยเฉพาะเวลาที่ศัตรูวิ่งอ้อมเราไปด้านหลัง
– เกมแอบยากในระดับหนึ่ง ถ้าใจไม่ชอบเกมแอ็กชั่นอาจจะถอนตัวเร็วพอสมควร
– ไม่มีภาษาไทย!!!
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment Asia ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…
สำหรับใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อเกมรวมถึง Collector’s Edition และ Premium Collector’s Editionได้ที่ BNEAs’ e-store : https://bnent.asia/ACVIFOR-TIGTHA และตัวแทนจำหน่ายในไทย
