อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ VALORANT มีสีสันไม่ได้มีแค่เพียงเหล่าตัวละครเอเจนต์มากหน้าหลายตาที่ปล่อยตามฤดูกาลเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของแผนที่ภายในเกมอันถือเป็นองค์ประกอบหลักด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อแต่ละแผนที่ย่อมอาศัยกลยุทธ์ในการเล่น ดังนั้นกว่าเราจะเห็นว่ามีการขัดเกลามาจนพร้อมใช้งานจริงก็จะต้องทิ้งช่วงห่างกันบ่อยเป็นพิเศษกระทั่งเปิดให้บริการบนเซิร์ฟเวอร์อย่างเป็นทางการเพื่อเสิร์ฟความมันส์ในภารกิจวัดใจสุดระทึกของเอเจนต์
และทางทีมงานก็ไม่พลาดได้รับโอกาสจาก Riot Games ในการเข้าชมเนื้อหาใหม่อย่าง VALORANT Episode 5 Act I ที่จะมาพร้อมแผนที่สุดอลังการ Pearl กันก่อนใครเพื่อมาแบ่งปันความประทับใจให้แฟนๆ ด้วย แต่จะเป็นอย่างไรนั้นเพื่อนๆ คงอดใจรอไม่ไหวแล้ว ดังนั้นขอใคร่เชิญชวนทุกคนมาติดตามกันข้างล่างนี้เลยครับ
ก่อนอื่นเลยขอแนะนำว่า Pearl มีคอนเซปต์ที่แตกต่างจากแผนที่อื่นๆ พอสมควรด้วยการชูจุดเด่นเมืองใต้น้ำ สถาปัตยกรรมโดยรวมดูเหมือนกับเมืองในยุโรปและมีพื้นที่หลากหลายทั้งจุดพลาซ่า ห้องอาหาร หรือหอศิลป์ ให้ความรู้สึกแบบวาไรตี้และผ่อนคลายกว่าสนามอื่นๆ ที่จะดูให้ฟีลสนามรบแบบจริงจัง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าได้ประมาทเพราะยังคงมีจุดต่างๆ ที่นับเป็นจุดยุทธศาสตร์ไว้แก้เกมกันสนุกมือ เช่นเดียวกับลูกเล่นเล็กน้อยที่ถึงแม้จะไม่ได้หวือหวาอย่างประตูวาร์ปแต่ก็น่าจะช่วยสร้างมิติของการวางแผนได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ
การออกแบบนี้ดูเหมือนจะมีแนวคิดที่ว่าทำให้แผนที่ ‘มีอะไร’ โดยไม่อิงความเวอร์วังอลังการ ดังนั้นจะมีการใส่ความเป็นเขาวงกตเข้ามาแทนที่จะเป็นฉากโล่งๆ ที่เดินเลี้ยวซ้ายไปมาก็เจอที่ว่างให้บู๊ เช่นเดียวกับท่อระบายน้ำเล็กๆ ที่เราสามารถลอดไปโผล่ในทางเดินอีกฝั่งได้ ซึ่งในฝั่งของฝ่ายตั้งรับจะสะดวกตรงที่ว่าสามารถเดินทางไปจุด A ได้ง่ายมาก แต่ฝ่ายบุกจะต้องเจอกับทางโค้งไปมาหลายต่อพอสมควร ทำให้การเดินเกมจะต้องมีสติตลอดเวลาเพราะมุมจะเยอะมาก อาจเจอคนที่รอดักมาจ๊ะเอ๋กันได้ สังเกตว่าความรู้สึกจะเหมือนแผนที่สไตล์ Competitive Games อย่าง CS:GO และ Rainbow Six: Siege ที่ไม่ใส่ลูกเล่นใดๆ มาและอาศัยการเรียนรู้ที่จะปรับตัวกับสภาพแวดล้อมในเกม
แน่นอนว่าเมื่อ Pearl เปิดให้บริการบน Episode 5 Act I ปุ๊บก็จะยังไม่เข้าสู่โหมด Competitive แต่จะให้ทุกคนได้ทดลองเล่นกันก่อนราวๆ 2 สัปดาห์ ซึ่งก็ถือว่าโอเคมากๆ เพราะว่าการที่เราจะ Approach แผนที่นี้มันมีความรู้สึกที่แตกต่างจากแผนที่อื่นๆ อย่างที่เราบอกกันว่ามันไม่ได้มีเอฟเฟกต์ยิ่งใหญ่ แต่เน้นการเอาตัวรอดและสร้างความชำนาญกับแผนที่ ซึ่งผู้เล่นและทีมอาจจะใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้จุดสำคัญต่างๆ เพราะเส้นทางในฉากนี้มีเน้นการเชื่อมโยง แตกกิ่งก้านสาขา ไม่เน้นที่โล่ง จึงต้องมีสติตลอดเวลา แม้กระทั่งฝั่งตั้งรับที่เดินทางได้ง่ายก็ตาม (อย่างไรก็ตามมีการยืนยันแล้วว่าจะถอดแผนที่ Split ออก)
นอกจากนี้ทางทีมงานยังได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมไอเทมน่าสนใจใน Battle Pass ประจำฤดูกาลใหม่ด้วย ซึ่งอาวุธจะมีทั้งสิ้น 3 ธีมคือ Spitfire, Shimmer และ Task Force แต่ละสไตล์มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเริ่มจากลวดลายไฟเท่ๆ บอยๆ กับ Shimmer ที่มีความตะมุตะมิด้วยการเล่นสีโทนพาสเทลเย็นขลิบด้วยทองคำโอลด์โรส ส่วนใครอยากจะเข้มๆ คูลๆ ก็คือ Taskforce กันได้ ส่วนอีโมจินั้นรอบนี้ไม่ได้เน้นมีมเป็นพิเศษ แต่จะมีความจิปาถะ และแบนเนอร์เองก็จะโฟกัสที่เจ้าหนูเท้าไฟ Neon ครับผม
กำหนดการปล่อยคอนเทนต์
แผนที่ Pearl: 22 มิถุนายน 2022
ราคา Battle Pass: 1,000 VP
VALORANT เป็นเกม FPS ในรูปแบบ Character-based ที่เน้นการเล่นแบบกลยุทธ์และการทำงานร่วมกันเป็นทีม ผู้เล่นทั้งสองฝั่งแบ่งออกเป็นทีม ๆ ละ 5 คนแบ่งเป็นกลุ่ม Attacker (ฝ่ายบุก) และ Defender (ฝ่ายตั้งรับ) ในแต่ละรอบการแข่งขันจะใช้เวลาราว ๆ 1:40 นาทีเท่านั้น ผู้ที่สามารถทำคะแนนได้ถึง 13 รอบก่อนจะเป็นผู้ชนะ ปัจจุบันตัวเกมเปิดให้บริการแล้วบน PC