โปรดิวเซอร์ Tekken ประกาศอำลา Bandai Namco หลัง 30 ปีแห่งตำนาน

ข่าวใหญ่ที่เขย่าวงการเกมต่อสู้ทั่วโลก เมื่อ Katsuhiro Harada โปรดิวเซอร์และบุคคลเบื้องหลังความสำเร็จของซีรีส์ Tekken ตั้งแต่ภาคแรกจนถึง Tekken 8 ออกมาประกาศผ่านบัญชี X ส่วนตัวเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมว่า เขาจะอำลา Bandai Namco Entertainment อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2025 พร้อมส่งมอบหน้าที่ดูแลแฟรนไชส์ Tekken ให้กับทีมงานรุ่นต่อไป

ฮาราดะเผยว่า การตัดสินใจลาออกครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่คิดเพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นสิ่งที่เขาครุ่นคิดมานานหลายปี โดยในวัย 55 ปี เขาได้ผ่านเหตุการณ์สำคัญในชีวิต ทั้งการเห็นเพื่อนสนิทจากไป และรุ่นพี่ในวงการทยอยเกษียณหรือเสียชีวิต ทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า

“ในฐานะนักสร้างเกม ผมยังมีเวลาเหลืออยู่อีกแค่ไหนกันแน่?”

ในช่วงเวลาที่สับสน เขาได้ไปขอคำปรึกษาจากบุคคลที่เขานับถือเสมอมาอย่าง เคน คูตารากิ ผู้ให้กำเนิดเครื่อง PlayStation ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อคนที่สองในชีวิต คำแนะนำและกำลังใจจากเขา คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฮาราดะตัดสินใจแน่วแน่กับก้าวต่อไปของชีวิต

ฮาราดะยังเปิดเผยอีกว่า ตลอดช่วง 4–5 ปีที่ผ่านมา เขาได้ทยอยถ่ายโอนงานทั้งหมดให้กับทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นงานกำกับโปรเจกต์ เนื้อเรื่อง ฉากหลังของโลก Tekken และตัวละครต่าง ๆ ซึ่งการประกาศครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบฉับพลัน แต่เป็นผลจากการเตรียมการมาอย่างยาวนาน

จดหมายจากใจของฮาราดะถึงแฟน Tekken ทั่วโลก

I’d like to share that I’ll be leaving Bandai Namco at the end of 2025.
With the TEKKEN series reaching its 30th anniversary—an important milestone for a project I’ve devoted much of my life to—I felt this was the most fitting moment to bring one chapter to a close.

My roots lie…

— Katsuhiro Harada (@Harada_TEKKEN) December 8, 2025

ในโพสต์ของเขา ฮาราดะได้ฝากข้อความยาวถึงแฟน ๆ ไว้อย่างจริงใจ โดยสรุปเนื้อหาได้ดังนี้

เขาเริ่มต้นด้วยการบอกว่า จะลาออกจาก Bandai Namco อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2025 และย้ำว่าปีนี้ซีรีส์ Tekken ครบรอบ 30 ปีแล้ว ซึ่งสำหรับเขา มันไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือช่วงเวลากว่าครึ่งชีวิตที่อุทิศให้กับแฟรนไชส์นี้ และนั่นคือเหตุผลที่เขาเลือก “ช่วงเวลานี้” เป็นจุดสิ้นสุดของบทหนึ่งในชีวิต เพื่อเปิดทางให้กับบทต่อไป

ฮาราดะเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของตัวเอง ซึ่งไม่ได้เริ่มจากเวทีใหญ่โต แต่เกิดขึ้นจากร้านเกมเล็กๆ ในญี่ปุ่น และกิจกรรมแข่งตามชุมชนในต่างประเทศ เขายังจำวันที่ต้องช่วยขนตู้เกมไปตามงานต่าง ๆ และพยายามชวนผู้คนให้ลองเล่น Tekken ด้วยตัวเอง จนได้พูดคุยและแข่งขันกับผู้เล่นโดยตรง บรรยากาศเหล่านั้น คือรากฐานความเป็นนักพัฒนาเกมของเขาอย่างแท้จริง

เมื่อเวลาผ่านไป การแข่งขันเติบโตขึ้นเป็นระดับโลก แต่สำหรับฮาราดะ ความสัมพันธ์กับผู้เล่นก็ไม่เคยจางหาย เขายังถูกแฟน ๆ ทักเหมือนเพื่อนเก่า นัดแข่งในงานอีเวนต์ หรือชวนไปนั่งดื่มด้วยกัน ความทรงจำเหล่านี้ คือสิ่งที่เขาทะนุถนอมอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตส่วนตัวของเขา เมื่อเขาต้องสูญเสียเพื่อนสนิทหลายคน และในหน้าที่การงานก็ต้องเห็นรุ่นพี่ที่เคารพทยอยจากโลกนี้ไป เหตุการณ์ทั้งหมดสะสมจนทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองจริงจังว่า ในฐานะผู้สร้าง เขายังเหลือเวลาอยู่อีกเท่าไหร่

เขายังกล่าวถึงบทบาทของเคน คูตารากิ ที่มอบคำแนะนำสำคัญในช่วงเวลานั้น ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เขากล้าตัดสินใจเดินหน้าสู่บทใหม่ของชีวิต และย้ำว่าตลอด 4–5 ปีที่ผ่านมา เขาได้ส่งต่อภารกิจทั้งหมดให้ทีมงานรุ่นต่อไปเรียบร้อยแล้ว

ฮาราดะยังกล่าวด้วยว่า ตลอดเส้นทางอาชีพ เขาโชคดีที่ได้ทำงานในโปรเจกต์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Summer Lesson, Pokkén Tournament, Soulcalibur รวมถึงโครงการอีกจำนวนมากทั้งในและนอก Bandai Namco ทุกผลงานคือบทเรียนล้ำค่า และเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ไม่อาจประเมินค่าได้

ท้ายที่สุด เขาขอบคุณแฟนเกมจากทั่วโลก คอมมูนิตี้ และเพื่อนร่วมงานทุกคนจากใจจริง พร้อมบอกว่า อนาคตของเขาจะเป็นอย่างไรนั้น ขอเวลาสักหน่อย แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง

ยังมีหน้าที่สุดท้าย…และ DJ Mix ที่แฟน Tekken ไม่ควรพลาด

แม้จะลาออกจากบริษัทในช่วงปลายปี 2025 แต่ในเดือนมกราคม 2026 ซึ่งจะมีการแข่งขัน Tekken World Tour Finals ทาง Bandai Namco ได้ร้องขอให้เขาไปร่วมงาน และเขาน่าจะปรากฏตัวในฐานะแขกรับเชิญ

อีกหนึ่งเรื่องเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น คือฮาราดะเปิดเผยว่า ตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา เขามักพูดติดปากว่า “สักวันจะไปเป็นดีเจในงานแข่ง Tekken” แต่ก็ไม่เคยทำจริงเสียที เพื่อชดเชย เขาจึงทำ Tekken DJ Mix ความยาว 60 นาที ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก และปล่อยให้แฟน ๆ ได้ฟังควบคู่กับการประกาศลาออกครั้งนี้

ลา Bandai Namco แต่ยังไม่ลาโลกเกม

แม้จะอำลาบริษัทที่อยู่มายาวนาน แต่ฮาราดะย้ำชัดว่า นี่ไม่ใช่การอำลาวงการเกมแต่อย่างใด อนาคตของเขายังคงเปิดกว้าง และแฟนๆ ทั่วโลกก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า หลังจากบทนี้ปิดลง ชายผู้สร้างตำนาน Tekken จะเปิดบทใหม่ในชีวิตไปในทิศทางใด

สำหรับแฟน Tekken แล้ว นี่ไม่ใช่แค่ข่าวการลาออก แต่คือการปิดฉาก “ยุคฮาราดะ” อย่างเป็นทางการ และเปิดประตูให้กับยุคใหม่ของซีรีส์ต่อสู้ระดับตำนานที่อยู่กับเราเกินกว่าสามทศวรรษ

สามารถติดตามข่าวสารอื่น ๆ เกี่ยวกับเกมได้ที่ GamerCulture