วิเคราะห์ 10 เหตุผลที่ทำให้ Vampire Survivors ฮิตได้

หากพูดถึงเกม Rogue Like ขวัญใจเกมเมอร์ในยุคนี้ก็คงจะหลีกไม่ได้ที่จะพูดถึงชื่อ “Vampire Survivors” จริง ๆ ครับ เพราะว่าเป็นเกม Rogue Like รูปแบบใหม่ในปัจจุบันที่มีเกมรุ่นน้องนำ Ref. ไปพัฒนาเกมต่ออีกมากมาย และขนาดบทสัมภาษณ์ของผู้พัฒนาเกมนี้ ตัวเขาเองยังงงเลยว่าทำไม Vampire Survivors ถึงฮิตถล่มทลายขนาดนี้ เราเลยลองหยิบมาวิเคราะห์ดูทีละอย่าง ก็ทำให้เข้าใจบริบทของเกมนี้ได้มากขึ้นครับ เราไปชมกันดีกว่าว่าอะไรทำให้ Vampire Survivors  เป็นเกมยอดฮิตของสาย Rogue Like

1. ราคาที่จับต้องได้เพียงแค่ 119 บาท ใน STEAM (คลิกเพื่อสั่งซื้อได้ที่รูป)

เรื่องราคาก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นประเด็นสำคัญสำหรับการทำให้เกมนั้นแมสหรือไม่ เพราะถ้าตัวเกมไม่ใหญ่โตอลังการ หรือเป็นซีรีส์ที่มีผู้เล่นติดตามอยู่ทั่วโลก ก็คงจะคิดราคาแพงไม่ได้ ยิ่ง Vampire Survivors เป็นเกมอินดี้ยุคใหม่ที่ระบบการเล่นไม่เหมือนเกมอื่น ก็ยิ่งเป็นเหตุผลว่าเขาจะตั้งราคาสูงมากไม่ได้ และตอนนี้ราคาใน STEAM ก็อยู่ที่ 119 บาท ก็ถือว่าเป็นราคาที่น่ารักสำหรับใครที่อยากหาเกมชิล ๆ มาเล่นฆ่าเวลา แต่บอกเลยว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับความสนุกของเกมที่ได้เล่น

2. เกมเพลย์เข้าใจง่าย แค่เดินและเก็บของ

เกมเพลย์ที่ง่ายแสนง่าย เพียงแค่กดปุ่มบังคับทิศทางขึ้นลงซ้ายขวา ไม่ต้องกดโจมตี ไม่ต้องกดป้องกันหรือหลบ ไม่ต้องทำอะไรนอกเหนือจากนั้นเลย แค่เดินแล้วก็เก็บของ พอเก็บของได้ก็แค่เลือกว่าจะหยิบของอะไร เกมเพลย์ที่ต่อให้คุณไม่ใช่ฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ เป็นคนธรรมดาทั่วไปก็สามารถบังคับตัวละครได้อย่างคล่องแคล่ว ผสมกับการใช้แนวคิดในการเลือกไอเทมนิดหน่อย ก็ทำให้เล่นเกมนี้ได้อย่างสนุกสนานแล้วครับ

3. มีสไตล์การเล่นที่หลากหลาย คิดคอมโบได้อิสระ

ใครจะรู้ว่าเกมที่ทำได้แค่เดินและเก็บของนั้น จะมีความสนุกสุด ๆ อยู่ที่การคิดคอมโบและการเลือกของใช้งาน ทุกครั้งที่คุณเลเวลอัพคุณจะได้สิทธิ์ในการเลือกไอเทม 1 ชิ้น ซึ่งจะแบ่งเป็นอาวุธโจมตีกับไอเทมสนับสนุน คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้อะไรคู่กับอะไร และถ้าคุณเลือกถูก ไอเทมที่ลิงก์กันก็สามารถพัฒนาเป็นไอเทมระดับสูงขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งมันเป็นความอิสระเสรีที่มีอยู่ในเกมนี้ และมันไม่มีเมต้าหรือสูตรสำเร็จ คุณจะเล่นยังไงก็ได้ผลลัพธ์ก็คือสามารถชนะได้เท่า ๆ กัน เลือกอาวุธที่คุณชอบ เลือกของที่ใช่กับสไตล์การเล่นของคุณ มันเป็นการลองอะไรใหม่ ๆ และตื่นเต้นไปกับมันครับ

4. เน้นปริมาณศัตรู เพิ่มความสะใจให้ผู้เล่น

ปริมาณของศัตรูคือเหตุผลหนึ่งที่กระตุ้นความสะใจของเราอยู่ไม่น้อย ถ้าเกมอื่นที่บอกว่าศัตรูเยอะจะต้องมีเป็นร้อยตัวพันตัว แต่ขอโทษครับ สำหรับเกมนี้ ศัตรูจะมีเป็นหลักหมื่นหลักแสนตัวเลยทีเดียว สิ่งนี้จะเล่นกับจิตวิทยาของมนุษย์ เวลาที่เรามีพลังทำลายมาก ๆ แล้วศัตรูเป็นหมื่น ๆ ตัวถูกเคลียร์ออกไปเรื่อย ๆ มันทำให้เราที่มองเห็นและได้ยินเสียงนั้นรู้สึกฟินและสะใจอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นอารมณ์เหมือนกับดูคลิปขูดสบู่อะไรแบบนั้นเลยละครับ

5. เพราะเป็น Rogue Like คนเลยเล่นซ้ำได้เรื่อย ๆ

เกมที่เล่นจบแล้วไม่มีอะไรให้ทำต่อนั้นถือว่าตัวเกมจะจบลงอย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าตัวเกมนั้นมีเหตุผลให้ผู้เล่นต้องเข้ามาเล่นต่อล่ะก็ การเล่นและการพูดถึงจะยังมีต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเกม Rogue Like ถ้าคุณเล่นรอบแรกยังไม่ผ่าน รอบต่อไปคุณจะทำได้ดีขึ้น ปลดล็อคสิ่งใหม่ ๆ ผ่านไปด่านใหม่เรื่อย ๆ นอกจากนี้ทีมพัฒนายังมีการอัปเดตเกมอยู่ตลอดเวลา มีตัวละครใหม่ ด่านใหม่ ปริศนาใหม่ ๆ มาให้ลองเล่นได้ตลอด เพราะงั้นเกมนี้แทบไม่เคยหยุดพัฒนา ผู้เล่นอย่างเราเลยต้องเล่นต่อเรื่อย ๆ อย่างสนุกสนานครับ

6. การเล่นไม่เสียเปล่า เก็บเงินมา PowerUp

ทุกครั้งที่เล่นจบหนึ่งรอบ เราจะได้ทรัพยากรเป็นเงินในเกมมาใช้ ซึ่งนอกจากการเอาเงินไปปลดล็อคตัวละครใหม่ ๆ แล้ว เกมนี้ยังมีส่วนของ PowerUp ที่ใช้เงินในการอัปเกรดตัวละครได้อีกด้วย ซึ่งมีหลายสายให้เลือกอัพ ไม่ว่าจะเป็น พลังโจมตี พลังป้องกัน การรีโรลตัวเลือกไอเทม การเพิ่มความเร็วในการวิ่ง และอื่น ๆ อีกมากมายที่จะสนับสนุนการเล่นของคุณ พูดง่าย ๆ ก็คือยิ่งคุณเล่นเกมนี้นานเท่าไหร่ ตัวละครภาพรวมของคุณก็จะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น มันเลยให้ความรู้สึกว่าเกมนี้ก้าวไปข้างหน้าเรื่อย ๆ ต่อให้เราจะเล่นซ้ำแต่เราไม่ได้ย่ำอยู่กับที่นั่นเองครับ

7. ตัวละครหลากหลาย ด่านใหม่ก็ไม่น้อย

จุดเด่นอีกอย่างของเกมนี้คือตัวละครที่หลากหลาย แต่ละตัวจะมีพลังเฉพาะไม่เหมือนกัน ถ้าอยากปลดพลังนี้ให้ตัวอื่นได้ใช้ก็จะต้องเล่นตัวนั้นให้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด เมื่อเราปลดล็อคพลังประจำตัวได้หมดแล้ว พลังนั้นจึงกลายมาเป็นไอเทมให้เราใช้นั่นเอง นอกจากนี้ด่านใหม่ ๆ ก็ยังมีอัพเดทอยู่เรื่อย ๆ พอเราเล่นผ่านด่านนึงก็จะมีด่านใหม่โผล่ขึ้นมา มีทั้งด่านธรรมดาและด่านพิเศษ ในกรณีของด่านพิเศษจะเป็นส่วนของการชาเลนจ์ ซึ่งแต่ละด่านก็จะมีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนกันอีกด้วย ทำให้มีความตื่นเต้นกับด่านใหม่ ๆ อยู่เสมอ

8. ซ่อนสิ่งลึกลับเอาไว้ในด่าน ทำให้คนอยากรู้อยากเห็น

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของเกมนี้ก็คือความลึกลับและปริศนาต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ในด่าน จริงอยู่ที่ตัวเกมเพลย์มันมีแค่การอยู่รอดให้ถึง 30 นาที ต่อครั้ง แต่ว่าในแต่ละด่านก็จะมีปริศนาที่แตกต่างกันไปไม่เหมือนกันซุกซ่อนอยู่ ซึ่งถ้าคุณไม่เดินไปถึงตรงนั้นก็จะไม่มีทางรู้เลยว่ามันคืออะไร บางครั้งอาจเป็นไอเทมพิเศษ เป็นตัวละครใหม่ เป็นดันเจี้ยนลับ บอสพิเศษ และอื่น ๆ อีกมาก ทุกครั้งที่มีด่านใหม่โผล่มาคุณจะต้องแสวงหาคำตอบของความลึกลับเหล่านี้ และนั่นคือเสน่ห์ที่ดึงดูดเราได้ดีครับ

9. มี Hyper Mode และ Hurry Mode เร่งความเร็วในการเล่นซ้ำ

เกม Rogue Like บางเกมได้มอบเหตุผลในการเล่นซ้ำให้กับผู้เล่นก็จริง แต่บางครั้งการเล่นอะไรเดิม ๆ ซ้ำ ๆ มันก็น่าเบื่อเป็นเรื่องธรรมดา เพราะงั้นเกมนี้เลยได้ใส่ Hyper Mode และ Hurry Mode ที่จะช่วยเพิ่ม Speed ให้กับผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรูและตัวเรา รวมถึงเร่งอัตราการได้รับ EXP และเงินอีกด้วย เพราะงั้นเวลาที่คุณเคยผ่านด่านนั้นมาแล้วและเล่นซ้ำ Speed ของเกมจะเร็วขึ้นได้ ก็จะให้ความรู้สึกที่มันส์ขึ้นและสนุกขึ้นนั่นเอง

10. มีเกมรุ่นน้องเลียนแบบเยอะ เลยเพิ่มความดังต้นฉบับขึ้นไปอีก

พอ Vampire Survivors เปิดตัวว่าเป็นเกมแนวไหนแล้วได้รับความนิยมประมาณหนึ่ง ก็ทำให้เกิดเกมรุ่นน้องอีกหลายเกมที่นำเอาเกมนี้ไปเป็น Ref. ในการสร้างเกมของตัวเอง อย่างเกมมือถือก็จะมี Survivor.io หรือเกม PC ก็จะมี HoloCure ที่นำเอาตัวละคร Vtuber ชื่อดังจาก Hololive มาเป็นจุดดึงคน และพอเกมรุ่นน้องดังขึ้น เกมรุ่นพี่ก็ได้รับผลประโยชน์ร่วมไปด้วย ทำให้หลายคนหันมาสนใจเกมต้นฉบับอย่าง Vampire Survivors ว่ามันเป็นยังไงนั่นเอง

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ “วิเคราะห์ 10 เหตุผลที่ทำให้ Vampire Survivors ฮิตได้” ตรงกับสิ่งที่เพื่อน ๆ คิดหรือเปล่าเอ่ย เอาจริง ๆ อีกส่วนหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือเกม Vampire Survivors นี้ ในช่วงเปิดตัวแรก ๆ กลุ่มสตรีมเมอร์ที่นิยมนำเกมนี้มาเล่นจนเป็นที่โด่งดังเลยก็คือ Vtuber จาก Hololive ถึงจะไม่ใช่เพราะพวกเธอทั้งหมด แต่ก็พูดได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกมนี้ดังขึ้นไปอีกระดับหนึ่งและมีเกมเมอร์จากทั่วโลกจับตามองครับ 🙂