[รีวิว] HG 1/144 Gundam Asmoday ราชาองค์ที่ 2 ของเหล่า Gundam ในสงคราม 300 ปี
กันพลาที่มีจุดเด่นอยู่ที่อาวุธ แต่จุดด้อยยังคงเป็นเฟรมเช่นเดิม
HG 1/144 Gundam Asmoday เป็นกันพลาตัวล่าสุดจากเกมมือถือ Mobile Suit Gundam: IRON-BLOODED ORPHANS Urdr-Hunt ที่เพิ่งเปิดตัวไป ซึ่งเรื่องราวจะเป็นภาคแยกของ Mobile Suit Gundam: IRON-BLOODED ORPHANS นั่นเอง โดยในตอนแรกหุ่นตัวนี้จะใช้ชื่อว่า Gundam Asmodeus แต่มีการเปลี่ยนชื่อเล็กน้อยจนกลายมาเป็นชื่อในปัจจุบัน
Gundam Asmoday เป็นหนึ่งใน 72 โมบิลสูท Gundam Frame ที่พัฒนาขึ้นในสงคราม Calamity War เมื่อ 300 ปีก่อน โดย Gundam Asmoday หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังสงครามจบ อย่างไรก็ตามหุ่นตัวนี้ถูกพบเจอโดยบังเอิญอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีบันทึกการรบหลงเหลืออยู่เลย ซึ่งคาดเดาว่าหุ่นตัวดังกล่าวไม่ได้นำมาต่อสู้จริงเพราะสงครามสิ้นสุดไปเสียก่อน
ในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสต่อกันพลา HG 1/144 Gundam Asmoday ด้วยมือตัวเอง และก็ไม่พลาดที่จะนำมาให้ผู้อ่านทุกคนที่สนใจได้ติดตามกันครับ
อนึ่งกันพลาที่ใช้รีวิวนี้เป็นการต่อดิบ ตัดเส้นเท่านั้น ไม่ได้มีการพ่นเคลียร์ หรือทำสีเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ภาพหน้ากล่อง HG 1/144 Gundam Asmoday
ภาพรวมแผงทั้งหมด
กันพลาตัวนี้จะมาทั้งหมด 7 แผง (รวมแผง PC) โดยแผง A คือแผง Gundam Frame , แผง B คือ แผงใหม่สำหรับ HG Gundam Asmoday โดยเฉพาะ , แผง C เป็นแผงใหม่เช่นกัน โดยจะมีแผงเต็ม 1 แผง และแผงหมุนที่หั่นออกเหลือครึ่งเดียว 1 แผง (ตัดในส่วนของแบ็คแพ็ค , Gigant Javelin และ Rifle ออกไป) , แผง D เป็นแผงเบิ้ล (แผงเหมือนกันเป๊ะ ๆ จำนวน 2 แฝง) โดยแผงดังกล่าวเป็นชิ้นส่วนของเท้า และแผง PC 1 แผง
ที่น่าตำหนิหน่อยก็คือ ผู้เขียนรู้สึกว่าแผง PC ในกันพลาบันไดโลโก้สีฟ้าจะผลิตออกมาได้แย่มาก เพราะจะมีการฉีดปลิ้นอยู่ 2-3 ชิ้น ซึ่งผู้เขียนไม่ได้เจอเฉพาะ HG Gundam Asmoday แต่ก่อนหน้านี้ผู้เขียนได้ต่อ HG Gundam IRON-BLOODED ORPHANS (IBO) โลโก้ฟ้าตัวอื่น ๆ อีก 2 ตัวก็พบเจอเช่นเดียวกัน เลยไม่มั่นใจว่าเป็นที่ไลน์ผลิต หรือดวงผู้เขียนโชคร้ายเอง (แต่การฉีดปลิ้นนี้ไม่มีผลใด ๆ ต่อการต่อ หรือการขยับครับ)
สำหรับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ในกล่องมีมาให้ก็คือสติ๊กเกอร์ (แผงไม่ใหญ่ แต่จุดติดเยอะมาก) และลวดที่ใช้กับอาวุธ Gigant Javelin นั่นเองครับ
Gundam Frame ที่คุ้นเคยมีเปลี่ยนชิ้นส่วนบ้างเล็กน้อย แต่ปัญหาเดิม ๆ ไม่เคยเปลี่ยน
HG Gundam Asmoday เป็นกันพลาที่ใช้โครง Gundam Frame 4 ซึ่งเป็นเฟรมเดียวกับที่ HG Gundam Barbatos 6th Form ใช้ โดยจุดที่เปลี่ยนไปจริง ๆ ก็คือ เฟรมช่วงหัวไหล่ที่เปลี่ยนมาใช้ของ HG Gundam Asmoday โดยเฉพาะซึ่งมีความยาวมากกว่าหัวไหล่ของเฟรมปกติ , ช่วงแกนข้อต่อขาที่เปลี่ยนให้ยากขึ้น และช่วงเฟรมส้นเท้าที่ถูกเปลี่ยนมาใช้ของตัวเองเพื่อให้รองรับกับกิมมิกตรงส้นเท้าที่สามารถขยับเป็นกรงเล็บได้
แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนของเฟรมบางชิ้น แต่เฟรมที่เหลือตั้งแต่ตัวไปจนถึงขานั้นยังคงเป็นของเดิม ทำให้ข้อเสียทุกอย่างยังคงมีเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นชิ้นประกบตรงกลางตัวที่ขยับบ่อย ๆ จะหลุดง่าย , เอวหลวมมาก ทำให้หลุดง่าย ตัวขาดบ่อยมาก ทำให้เวลาจับกันพลาตัวนี้ต้องจับทั้งตัว จับแค่ช่วงบนไม่ได้ เพราะช่วงเอวลงไปจะร่วงทันที , จ๊อยข้อเท้าหลวม ทำให้หุ่นตัวนี้เอนง่ายมาก ถ้าจับไม่ดีก็หัวทิ่ม ไม่ก็หงายหลังแทบจะตลอด
ชิ้นส่วนเหลือไม่เยอะ มีแค่เฟรมบ่าดั้งเดิม , เฟรมเท้าดั้งเดิม และเฟรมช่วงขาดั้งเดิม
สรุปโดยรวมแล้วการต่อเฟรมนั้นก็ยังสนุกมืออยู่ไม่น้อย ใครที่ต่อกันพลาซีรีส์ IBO มาก็แทบจะหลับตาต่อได้เลย และการต่อโครงก่อนสวมเกราะเข้าไปก็เป็นอะไรที่ฟินอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เมื่อประกอบทุกอย่างเสร็จก็เหมือนเดิมคือหัวร้อนไม่เบาเลยครับ
จุดขยับระดับมาตรฐานขยับเล่นได้เพลิน แต่ก็ติดขัดเพราะดีไซน์ในบางจุด
ในส่วนของจุดขยับของหุ่นตัวนี้ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ด้วยการที่ช่วงแขนนั้นสามารถงอได้ 1 จังหวะ ในขณะที่ช่วงขาจริง ๆ งอเข่าได้ถึง 2 จังหวะ แต่เพราะใส่เกราะขาทำให้มุมงอเข่านั้นทำได้ค่อนข้างจำกัดเนื่องจากติดดีไซน์ของเกราะ อย่างไรก็ตามหากผู้เล่นขยับเพิ่มอีกนิดหนึ่ง โดยในช่วงต้นขาด้านบนเราสามารถดึงขึ้นไปอีกเล็กน้อยเพื่อโชว์ดีไซน์ช่วงเข่าได้ แต่ไม่ได้ส่งผลต่อมุมขยับมากนัก ทำให้น่าเสียดายมาก ๆ เพราะการโพสท่าของหุ่นตัวนี้ก็ถูกจำกัดตามไปด้วย
สำหรับมุมไหล่นั้นก็ยกได้เกือบสุด แต่เกราะบ่าจะติดหับดีไซน์ส่วนหัวทำให้ยกได้แค่ขนานพื้น (ตามแขนฝั่งซ้ายมือผู้อ่าน) ซึ่งผู้อ่านคนใดอยากยกให้สุดต้องเอี้ยวมือไปด้านหลังหัว หรือดึงหัวมาด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อให้ยกแขนได้สุด (ตามแขนฝั่งขวามือผู้อ่าน) โดยภาพรวมแล้วถือว่าเป็นจุดขยับที่ทำออกมาได้ดีในระดับนึงเลยครับ ในขณะที่ขาสามารถฉีกได้ 180 องศา และด้านหลังจะมีกิมมิกของทรัสเตอร์ให้ขยับได้ตามภาพด้านล่างนี้
ในส่วนของขาน้ั้นเนื่องจากไม่มีกระโปรงข้างที่ยาจนเกะกะ ทำให้ทำท่าฉีกขาได้สบาย ๆ
ด้านหลังจะมีแบ็กแพ็คและทรัสเตอร์ที่สามารถขยับขึ้นลงได้ตามภาพ
โทนสีที่แตกต่าง แต่มาพร้อมสติ๊กเกอร์น่าปวดหัว
อีกหนึ่งจุดเด่นของ HG Gundam Asmoday ก็คือสีของหุ่นตัวนี้ที่มาพร้อมสีเหลืองสะท้อนแสงซึ่งผู้เขียนไม่เคยเห็นมาก่อนในหุ่น HG Gundam IBO ตัวอื่น ๆ และยังมีสีม่วงแซมในบางจุดด้วย อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากปาก , หน้าแข้ง และเกราะปิดส้นเท้า ส่วนที่เป็นสีม่วง และสีเหลืองสะท้อนแสง ทั้งหมดเป็นสติ๊กเกอร์ แถมยังเป็นสติ๊กเกอร์แบบคลุมในหลาย ๆ จุดอีกด้วย ซึ่งหลายคนก็ทราบดีว่าการแปะสติ๊กเกอร์แบบคลุมนี้สร้างความปวดหัวให้ผู้ต่อไม่น้อย แถมการแปะสติ๊กเกอร์ตาของหุ่นตัวนี้ยังแอบยากเพราะสติ๊กเกอร์ตาของตัวนี้จะแยกเป็น 2 ชิ้น ไม่ใช่ 1 ชิ้นยาวแบบปกติ ทำให้การแปะให้ตรงกันนั้นต้องใช้การเล็งอยู่พอสมควร
อาวุธที่มาแบบจัดเต็ม ให้เลือกเล่นเพียบ สะใจคนชอบจัดท่าแน่นอน
HG Gundam Asmoday มาพร้อมอาวุธให้ผู้ต่อได้เลือกใช้งานถึง 4 ชิ้นด้วยกัน
Gigant Javelin อาวุธชิ้นแรกที่ค่อนข้างน่าแปลกใจเพราะรูปแบบของมันหากมองในแว่บแรกมันควรจะชื่อว่า Gigant Sword มากกว่าเพราะรูปร่างมันคือดาบชัด ๆ ! (โดย Javelin แปลว่าหอก หรือแหลน) อย่างไรก็ตามกิมมิกของมันก็คือตัวใบมีดสามารถถอดออกและมีสายเชื่อม ทำให้หุ่นตัวนี้สามารถปาใบดาบได้เหมือนปาหอก (หรือพุ่งแหลน) ใส่ศัตรู ซึ่งนี่ก็คือที่มาของชื่อ Javelin นั่นเอง
จุดที่น่าเสียดายเล็กน้อยก็คือที่จับของอาวุธชิ้นนี้เป็นแบบทรงกระบอกกลม ทำให้อาวุธมักจะหมุนทุกครั้งเวลาที่จัดท่า ซึ่งจะต้องใช้ตัวช่วยอย่าง UHU Patafix เป็นต้น
Grand Tonfas อาวุธประจำตัวของ HG Gundam Asmoday ที่แปลกตาและไม่คิดว่าจะนำมาใช้กับหุ่น (ซึ่งผู้เขียนชอบอาวุธชนิดนี้เป็นพิเศษ) โดย Tonfas ถ้าเรียกเป็นชื่อไทยก็คือ เขน นั่นเอง โดยกันพลาตัวนี้จะมีชิ้นส่วนมาให้เปลี่ยนอยู่ 2 แบบก็คือเขนแบบเก็บปกติไม่ได้ใช้งาน กับเขนที่ยืดออกเพื่อใช้ต่อสู้ แต่แทนที่ Bandai จะทำกิมมิกแบบสไลด์ ก็ใช้เป็นการถอดเปลี่ยนเอาง่าย ๆ ซะอย่างนั้น (ในใบต่อระบุว่าที่ปลายเขนอีกด้าน – ฝั่งสีม่วง – สามารถยิงระเบิดได้ด้วย)
Rifle ปืนไรเฟิลปกติที่มีรูปร่างไม่เหมือนกับปืนไรเฟิลกระบอกอื่น ๆ เพราะรูปร่างของมันดูสั้นกว่าปืนไรเฟิลกระบอกอื่น ๆ ซึ่งมันมีสาเหตุมาจากการที่ไม่ต้องการให้ปืนกระบอกนี้ไปขัดกับ Tonfas เวลาใช้งานจริง เวลาที่ไม่ใช้สามารถเกี่ยวกับกระโปรงหลังไว้ได้ ซึ่งถือว่าแน่นหนาพอสมควร เพราะมีสลักให้ยึดเกาะ
Leg Claws ที่เท้าของ HG Gundam Asmoday จะสามารถมีกรงเล็บซ่อนอยู่ ซึ่งหุ่นตัวนี้สามารถกางกรงเล็บที่เท้าออกมาเพื่อใช้ในการจับศัตรูได้ ซึ่งกิมมิกจุดนี้ก็ถือว่าเป็นอีกจุดที่น่าสนใจในหุ่นตัวนี้มาก ๆ
โชว์แอ็กชั่นยาว ๆ
ตั้งการ์ดมวยแบบปกติ
สายไม่แข็งมาก ทำให้โพสท่า Gigant Javelin กลางอากาศได้ยาก แต่ใช้มือช่วยจับสายก็พอได้อยู่
ภาพเซ็ตด้านล่างเป็นการลองเล่นกับอาวุธจากเซ็ตอื่น ๆ หรือหุ่นตัวอื่น ๆ บ้าง
ดาบใหญ่จาก HGBC 24th Century Weapons
มีดคู่ของ MG Blue Frame
ปืนจากซีรีส์ IBO เช่นกัน
ตัวล็อคแขนด้านล่างไม่มีที่ล็อคเหมือนกับ HG Graze ทำให้ต้องใช้เกี่ยวกับข้อมือเอา ทำให้จับปืนได้ไม่สุดเท่าไหร่
ดาบของ HG Dantalion และโล่ของ HG IBO Option Set 1
บทสรุป
HG 1/144 Gundam Asmoday เป็นกันพลาระดับ HG อีกตัวหนึ่งที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ฉบับของหุ่นในซีรีส์ IRON-BLOODED ORPHANS นั่นเอง แถมตัวนี้ยังเรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาด้วยอาวุธที่มีมาให้ใช้จำนวนมาก แถมยังมีอาวุธอย่าง Tonfas ที่ทำให้หุ่นตัวนี้ดูมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับตัวอื่น ๆ ที่เคยมีมาด้วย และหากประเมินราคาของหุ่นอยู่ที่ประมาณ 650 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเป็นอย่างมาก - 8
8
คะแนน
ดีไซน์สวยงามโดดเด่น โทนสีสะดุดตา มีอาวุธให้เพียบมีลูกเล่นให้สนุก Tonfas สามารถสลับด้านถือได้ด้วย แต่จุดขยับหลวม สติ๊กเกอร์เยอะมาก บางส่วนแปะแล้วทำให้การขยับจะเกิดการขูดกับชิ้นส่วนพลาสติก Gigant Javelin ที่มาพร้อมที่จับแบบแท่งกลมทำให้จับอาวุธได้ไม่ค่อยอยู่เท่าไหร่ ลวดของ Gigant Javelin ไม่ค่อยแข็งแรงและตัวหุ่นมีความง่อนแง่นพอสมควร