PCรีวิวเกม

[รีวิว] Overlord: Escape from Nazarick

เกมจากอนิเมะต่างโลกชื่อดังที่มาในแนว Castlevania

แฟน ๆ อนิเมะคงจะได้ยินข่าวการวางจำหน่ายของเกมอนิเมะต่างโลกชื่อดังอย่าง Overlord: Escape from Nazarick กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเกมนี้จะจัดว่าเป็นเกมแนว Metroidvania ที่จะให้เพื่อน ๆ ผจญภัยไปในเขาวงกตอันกว้างใหญ่ คล้าย ๆ กับเกม Castlevania แต่จะเปลี่ยนสถานที่เป็นมหาสุสานใต้พิภพ Nazarick ของท่าน Ainz Ooal Gown แทนปราสาทแดร็กคิวล่า วางขายในช่องทาง STEAM ในราคา 379 บาท และเรามาดูกันว่าเกมนี้มีอะไรน่าสนใจให้เพื่อน ๆ บ้าง

ภาพรวมเกม


Overlord: Escape from Nazarick เป็นเกม Action 2D ด้วยกราฟิกแบบ Pixel Art เกมเพลย์แนว Metroidvania หรือเรียกง่าย ๆ ได้ว่าผจญภัยในเขาวงกต หาทางออกจากวิหาร Nazarick ซึ่งเป็นดันเจี้ยนลับและฐานที่มั่นของ Ainz Ooal Gown ตัวเอกจากอนิเมะเรื่อง Overlord เกมเพลย์จะมีความเป็น Action RPG สามารถบังคับตัวละครได้อย่างคล่องแคล่ว ต่อสู้กับศัตรูและบอสประจำด่านที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้อาวุธได้หลายรูปแบบ อัปเกรดและพัฒนาตัวละครและอุปกรณ์สวมใส่ได้ตลอดทั้งเกม สามารถเลือกเส้นทางการผจญภัยได้ตามต้องการ พร้อมกับค้นหาปริศนาที่ซุกซ่อนอยู่ตามแผนที่ หาทางไปต่อด้วย Movement พิเศษที่ต้องปลดล็อคจากการกำจัดบอส และพิชิตมหาสุสานใต้พิภพ Nazarick ให้จงได้

ด้านเนื้อเรื่องของเกม


ในด้านเนื้อเรื่องของเกมภาคนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักของอนิเมะ ถือซะว่าเป็น “What If…” ก็ว่าได้ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตัวละครหลักที่ผู้เล่นจะได้บังคับก็คือ “Clementine” บอดี้การ์ดสาวคนหนึ่งในอนิเมะซึ่งทำหน้าที่ปกป้อง Zurrernorn ซึ่งเป็นเนโครแมนเซอร์ หลังจากในอนิเมะที่ Clementine พ่ายแพ้ให้กับตัวเอกอย่าง Ainz Ooal Gown เธอก็ต้องพบกับความตายและถูกส่งมายังมหาสุสานใต้พิภพ Nazarick ซึ่งเกิดจากฝีมือของ Ainz Ooal Gown ที่ต้องการเก็บข้อมูลอะไรบางอย่าง จึงส่ง Clementine มาเป็นหนูทดลอง บุกฝ่าดันเจี้ยนที่ตัวเองคิดค้นขึ้นและเก็บข้อมูลการต่อสู้ของทุกฝ่าย ซึ่งเราที่รับบทเป็น Clementine จะต้องเอาชนะศัตรูทุกคนและหาทางออกให้ได้

ด้านกราฟิก


เกมนี้เป็นเกม 2D ที่ใช้ภาพกราฟิกแบบ Pixel Art แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้น 8 Bit ตัวเกมยังถือว่าเป็นเกม Pixel Art ยุคใหม่ที่มีความทันสมัย มีการแต่งเติมเพิ่มความสวยงามเข้าไปตามเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ซึ่งจะดูสวยงามกว่าเกมรุ่นพี่อย่าง Castlevania ในยุค PS1 หรือ Gameboy Advance ในด้านความจุของเกมที่กินพื้นที่เพียงแค่ 1.41 GB นั้นถือว่าทำออกมาได้สวยงาม นอกจากฉากและตัวละครที่เป็นสไตล์ Pixel Art แล้ว ด้านเอฟเฟคการต่อสู้ สกิล พลังพิเศษ เช่น ม่านพลังเวทมนตร์ เพลิงนรกโลกันต์ วิญญาณมานา สายฟ้า ออร่าต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เรียกได้ว่าทำออกมาได้สวยงามมาก เพิ่มอรรถรสให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างดี

ด้านเกมเพลย์


ในส่วนของเกมเพลย์นั้นจะเป็นแนว Action RPG ที่คุณสามารถบังคับตัวละครได้อย่างอิสระภายใต้ Movement ที่คล่องแคล่ว คุณสามารถสั่งโจมตีได้ทั้งบน-กลาง-ล่าง กระโดด หมอบ หลบ กลิ้ง ไต่กำแพง ใช้สกิล เปลี่ยนอาวุธ ค่อนข้างที่จะทำได้อย่างอิสระและคล่องตัวพอสมควร การต่อสู้อาจไม่มีคอมโบหวือหวาอะไรให้ทำมากนัก แต่คุณสามารถกดโจมตีรัว ๆ เพื่อทำดาเมจตามความเร็วของอาวุธได้ แม้จะไม่มีคอมโบให้กดเล่น แต่ความสนุกของการต่อสู้จะเป็นเรื่องของ Movement และการกะจังหวะโจมตี เพราะเกมแนวนี้มักจะมาพร้อมกับศัตรูที่เคลื่อนไหวเป็นแพทเทิร์นและเราสัมผัสตัวศัตรูไม่ได้ (เดี๋ยวจะเสีย HP) ดังนั้นการอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรูให้ออกและเลือกโจมตีในจังหวะที่เหมาะสม ผนวกกับการรักษาระยะห่างที่ลงตัวคือกุญแจของเกมเพลย์ในเกมนี้ครับ

ตามหาปริศนาและเส้นทางใหม่


อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเกมนี้คือแนว Metroidvania ซึ่งจะหลีกหนีคำว่าเขาวงกตไม่ได้เลย เราจะเริ่มต้นที่หน้าทางเข้าด้านนอกสุด และพอเดินข้ามาใน Nazarick เราก็ต้องพบกับเส้นทางมากมาย แน่นอนว่าเราจะไปทางไหนก่อนหรือหลังก็ได้ แต่บางเส้นทางอาจถูกกีดขวางด้วยอุปสรรคบางอย่าง ซึ่งเราจะต้องปลดล็อคสกิลหรือ Movement บางชนิดเพื่อให้เราผ่านไปได้ เช่น บางเส้นทางอาจมีเถาวัลย์กีดขวางเส้นทางอยู่ วิธีผ่านคือต้องได้รับสกิลธาตุไฟมาเผาซะก่อนถึงไปได้ หรือเส้นทางบางแห่งอาจจะมีพื้นที่แคบไม่สามารถวิ่งผ่านได้ เราต้องได้รับสกิลกลิ้งก่อนถึงจะสามารถกลิ้งผ่านไปได้ เป็นต้น ดังนั้นการเล่นเกมนี้อาจจะต้องมีการวกกลับไปกลับมาสักหน่อยเพื่อเผยแผนที่และตามหาปริศนาที่ซุกซ่อนอยู่ทั่วทุกมุมให้ครบครับ

เลือกอาวุธที่ชอบและเข้ากับสถานการณ์


ในเกมนี้จะมีอาวุธมากมายให้เลือกใช้ โดยจะแบ่งออกเป็นอาวุธหลักและอาวุธรอง ในกรณีอาวุธหลักจะเป็นมีด Stiletto อาวุธประจำตัวของ Clementine ข้อเสียของมันคือระยะสั้นและไม่สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ในช่องอาวุธหลักได้ แต่ข้อดีคือเราสามารถใช้สกิลธาตุต่าง ๆ ได้จากอาวุธหลักเท่านั้น เหมาะสำหรับการผ่านด่านหรือเล่นธาตุโจมตีศัตรูให้ถูกสถานการณ์ ส่วนช่องอาวุธรองจะสามารถเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ที่เราเก็บได้ระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นดาบ มีด ค้อน หอกหรือเรเปียร์ อาวุธแต่ละชนิดจะมีความเร็วและระยะโจมตีไม่เท่ากัน บางชิ้นตีเร็วมากแต่เบาแถมระยะสั้น บางชิ้นก็ตีแรงแต่แลกมากับความเร็วที่ช้าลงไปมาก แถมรัศมีในการโจมตียังต่างกันด้วย บางชิ้นกวาดจากบนลงล่าง บางชิ้นแทงเป็นเส้นตรง ก็แล้วแต่สะดวกใช้ แถมเรายังสามารถอัปเกรดอุปกรณ์เหล่านี้ได้ที่เตาหลอมอีกด้วย

อุปกรณ์พิเศษที่ช่วยในการผ่านด่าน


นอกจากอาวุธต่าง ๆ ที่เราใช้จู่โจมศัตรูแล้ว เรายังมีอาวุธอีกหนึ่งช่องที่ค่อนข้างพิเศษกว่าอาวุธธรรมดา เพราะนอกจากอาวุธเหล่านี้จะสามารถใช้โจมตีได้แล้ว ยังสามารถเพิ่ม Movement บางอย่างที่ช่วยให้เราผ่านด่านไปต่อได้ ยกตัวอย่างเช่น Morningstar ที่จะทำให้เราสามารถใช้เกาะผนังห้องหรือเพดาน เพื่อกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางหรือไต่กำแพงขึ้นไปด้านบนได้ ซึ่งอาวุธประเภทนี้จะหาได้จากการผ่านเนื้อเรื่องหลัก เช่น รางวัลการชนะบอส หรืออยู่ในที่ลับพิเศษจริง ๆ และไอเทมชนิดนี้ก็มีปุ่มกดใช้โดยเฉพาะแยกออกจากอาวุธหลักและอาวุธรองด้วยครับ

Martial Arts สกิลพิเศษกุญแจแห่งชัยชนะ


อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าเกมนี้อาจมีการวกไปวนมาในสถานที่เดิม ๆ เพื่อค้นหาเส้นทางใหม่ ๆ ที่เรายังไม่ถูกค้นพบ อาจจะทำเพื่อหาทางไปต่อ หรือหาไอเทมพิเศษบางอย่าง แต่แน่นอนว่าเส้นทางเหล่านั้นจะถูกเปิดได้ก็ต้องพึ่งพาสกิลพิเศษ ซึ่งเกมนี้จะเรียกว่า Martial Arts ในช่วงแรกที่เราเข้าเกมมาตัวเปล่าจะทำได้แค่การเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่พอเล่นไปเรื่อย ๆ ชนะบอสมากขึ้น เก็บไอเทม เรียนรู้สกิลได้มากขึ้น Martial Arts จะพัฒนาให้สูงขึ้นและมีท่าใหม่โผล่มา เช่น กลิ้งเข้าไปในที่แคบได้ วิ่งไต่กำแพงได้ กระโดดสูงขึ้นได้ Dodge ทะลุผ่านศัตรูได้ และอื่น ๆ อีกมากมายที่จะเป็น Movement พิเศษมาช่วยให้เพื่อน ๆ หาเส้นทางใหม่ ๆ ครับ

ข้อสรุปในมุมมองของผู้เขียน

Overlord: Escape from Nazarick เป็นเกมที่สนุกและเล่นเพลิน ๆ ได้ดี แต่อย่าไปคิดอะไรมาก ถ้าคุณเป็นแฟนอนิเมะเรื่อง Overlord หรือชอบเกมสไตล์ Metroidvania เกมนี้ก็อาจช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับมันได้ชิล ๆ เพราะในด้านความยากเกมนี้อาจไม่ได้สูงมากนัก มีความ Casual ประมาณนึง แต่ก็ไม่สามารถวิ่ง ๆ ฟัน ๆ แล้วก็จบเกมได้

แต่ในแง่ของเชิงลึกแล้วเกมนี้ยังหลบออกมาจากเงาของเกมรุ่นพี่ได้ไม่มากเท่าไหร่ มีหลายอย่างที่ยังคล้ายกันและเกมรุ่นพี่หลายเกมก็อาจทำได้ดีกว่าในบางเรื่อง ระบบในเกมเองก็ค่อนข้างถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป ความซับซ้อนของปริศนายังมีไม่มากพอให้ท้าทาย เมื่อเทียบกับเกมที่ทำได้ดีอย่าง Castlevania: Symphony of the night ในเครื่อง PS1 ที่เราต้องเจอปราสาทกลับหัวหรือต้องโจมตีกำแพงของทุกห้องเพื่อหาห้องลับ

ดังนั้นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนจึงมองว่าเกมนี้ในราคาเต็ม 379 บาท อาจจะแพงไปนิดสำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนอนิเมะ อาจจะรอลดราคาก่อนค่อยซื้อน่าจะคุ้มกว่า แต่ถ้าคุณชอบอนิเมะเรื่อง Overlord เหมือนอย่างผมแล้วอยากเปลี่ยนมุมมองว่า Ainz Ooal Gown เวลาเป็นตัวร้ายมันน่ากลัวขนาดไหน คุณต้องซื้อครับ 😀

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save