5 เรื่องพิศวงเมื่อคุณเล่นเกมแนว Rogue-Like

หากพูดถึงเกมแนว Rogue-Like ก็จะเป็นเกมอีกแนวหนึ่งที่ยอดฮิตสำหรับเกมอินดี้สมัยใหม่ เพราะ Rogue-Like เป็นแนวที่เน้นการบริหารทรัพยากรและการเลือกพัฒนาตัวละครให้ดีที่สุดภายใต้ความเสี่ยงที่ไม่จำกัด

เนื่องจากเกมแนวนี้จะมีระบบ “การสุ่ม” เป็นแกนหลักของเกม จะทำให้ผู้เล่นต้องสุ่มรับไอเทม สุ่มสกิลที่ต้องใช้ สุ่มมอนสเตอร์ที่เจอ สุ่มด่านที่ได้เล่น หรืออื่น ๆ ที่ทำให้คุณเล่นเกมนี้กี่รอบก็อาจจะไม่เหมือนเดิม ทำให้เกมแนวนี้มีความพิศวงบางอย่างที่ทำให้คุณแพ้ เล่นไม่เข้ามืออย่างที่คิด เราไปชมกันครับว่าเกมแนวนี้จะมีอะไรทำให้คุณรู้สึกพิศวงได้บ้าง

1. สกิลที่อยากได้มันไม่โผล่มาให้เลือก

เวลาเล่นเกม Rogue-Like พอเลเวลอัพ ผ่านด่าน หรือได้ไอเทมที่เป็นประเภทสกิลให้เลือกใช้ ส่วนใหญ่เรามักจะมีสูตรที่ถนัด หรือคอมโบสกิลอะไรบางอย่างที่เราใช้แล้วเข้ามือ แต่ส่วนมากของพวกนี้มันจะมาแบบขาด ๆ เกิน ๆ ให้เราเสมอ โอกาสที่จะเจอคอมโบแบบเพอร์เฟ็ค ครบสูตร มันเป็นไปได้น้อยม๊ากกกก อย่างเก่งก็ได้ของทีมชอบมาอย่างสองอย่าง ที่เหลือก็เป็นของที่ไม่คุ้นเคยหรือไม่ก็สกิลที่ใช้ตามสภาพเอาให้มันถู ๆ ไถ ๆ ผ่านด่านได้ หรือบางครั้งก็เลือกใช้ด้วยแนวคิดที่ว่า “ดีกว่าไม่มี” และแน่นอนว่าพอไม่ใช่สิ่งที่ถนัดมันก็เล่นยากขึ้นไปอีก แต่พอครั้งไหนที่เราทำใจไม่โฟกัสว่าต้องได้สกิลที่ชอบมากนัก เราก็จะโชคดีได้สกิลดี ๆ มาใช้บ่อย ๆ แบบไม่ทันตั้งตัว มันเป็นระบบเกมที่พิศวงมาก

2. มอนสเตอร์เดิม ด่านเดิม แต่รู้สึกไม่เหมือนเดิม

บางเกมอาจจะสุ่มแค่สกิล แต่บางเกมก็สุ่มแม้กระทั่งด่านและมอนสเตอร์ ถ้าเป็นเกมที่มีการเปลี่ยนฉากหรือทางเดินอาจจะมีการสุ่มให้เจอภูมิประเทศใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ รวมถึงมอนสเตอร์ที่เราอาจจะรู้สึกว่าเปลี่ยนไป แต่เชื่อไหมว่าต่อให้ด่านเดิม มอนสเตอร์เดิม เรามาเล่นซ้ำอีกทีมันก็ไม่เหมือนเดิม (555) คือมันเป็นความพิศวงมาก ๆ ที่เราเคยผ่านตรงนี้ได้ แต่พอกลับมาเล่นอีกรอบมันอาจจะไม่ผ่านก็ได้ ไม่รู้ว่าเป็นที่ฟอร์มเราไม่ดีเอง บิ๊วตัวละครผิดสาย หรือแพ้ทางมอนสเตอร์บริเวณนี้หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ว่ามันไม่เหมือนเดิมแน่ ๆ มันคือความตื่นเต้นและพิศวงของเกม Rogue-Like ที่ต่อให้ทุกอย่างเหมือนเดิมแต่มันก็ไม่เหมือนเดิมครับ

3. ยาเพิ่ม HP ชอบมาผิดจังหวะ

เกม Rogue-Like บางเกมอาจแยกไอเทมบางอย่างออกจากกันเป็นแต่ละประเภท บางเกมสกิล Active กับ Passive ก็แยกกัน บางเกมมีระบบ Status เข้ามาช่วยบัฟให้ตัวละครเก่งขึ้น บางเกมอาจเป็นไอเทมกดใช้ บางเกมอาจเป็นไอเทมประเภทยาเพิ่ม HP และแน่นอนว่าการเล่นเกม Rogue-Like ส่วนใหญ่จะเป็นการตะลุยด่านไปให้ไกลที่สุดโดยห้ามตาย ประเด็นเรื่องของ HP เลยเป็นสิ่งสำคัญมากถ้าคุณอยากอยู่ให้ได้นานที่สุด และแน่นอนว่าเกม Rogue-Like มักจะมีไอเทมเพิ่ม HP ดรอปให้เสมอเพื่อต่อชีวิตให้เราไปต่อได้ แต่มันไม่เคยโผล่มาในจังหวะที่ถูกต้องเลย ส่วนใหญ่มักจะมาตอนเลือดเต็ม ตอนที่ไม่ต้องการ แต่ตอนที่ข้างหน้าต้องเจอบอสแล้วเลือดเหลือแค่ 10-20% อันนี้บอกเลยว่าหายนะมากครับ

4. ดวงดีแพ้ แต่ดวงซวยผ่าน

เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนต้องเคยประสบกับเหตุการณ์แบบนี้แน่ ๆ ตาไหนที่ดวงดีได้ไอเทมเจ๋ง ๆ บิ๊วตัวละครไปถูกทาง ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดหมด แต่ผลลัพธ์สุดท้ายดันตายและไม่ผ่าน ในขณะที่ตาไหนบิ๊วออกมาโคตรแย่ ไม่ถูกใจ ไม่ถนัด เล่นไปด้วยความรู้สึกที่แบบว่า…ฉันไม่รอดแน่ ตาแบบนี้แหละมันมักจะฟลุ๊คชนะหรือเล่นผ่าน จนเราต้องเก็บไปคิดทบทวนเลยว่าสิ่งที่เราคิดมาดีแล้วมันอาจจะไม่ดีหรือเปล่านะ แต่ตอนที่ผ่านมาได้มันก็ทุลักทุเลนะ และต่อให้เราบิ๊วตามไอเทมเซ็ตที่เราดวงซวย เราก็เล่นแบบนี้อีกรอบไม่ผ่านอยู่ดี มันก็เลยจะรู้สึกแบบว่า…อะไรกันนี่ ทำไมเกม Rogue-Like ถึงพิศวงเช่นนี้

5. Last Game ไม่มีอยู่จริง ถูกกระตุ้นให้เล่นต่อ

เวลาที่เพื่อน ๆ เล่นเกม Rogue-Like มันอาจจะไม่มีจุดเซฟหรือเช็คพอยต์ให้เห็นชัดเจน ซึ่งส่วนมากเราจะใช้การผ่านบอสหรือว่าหลังจากตายแล้วเป็นเหตุการณ์ในการหยุดพักหรือเลิกเล่น แต่ขอบอกเลยว่า Last Game ไม่มีอยู่จริง แม้จะเป็นเกมที่ไม่มีเนื้อเรื่องอะไรมากมาย ระบบเกมก็แค่เกมที่เล่นซ้ำ ๆ สุ่มของไปเรื่อย ๆ แต่มันกลับเป็นเกมที่เล่นเพลินมากกว่าที่คิด ยิ่งเวลาที่แพ้มาเราก็จะรู้สึกว่าอยากเอาคืน อยากลองบิ๊วแบบใหม่ดู ถ้าแบบนี้ไม่ได้จะทำแบบนี้ดู ทุกครั้งที่จบเกมจะมีไอเทมลิสต์ใหม่โผล่มาให้ลองเสมอ มันเลยเป็นความไม่ยอมแพ้ ความเพลิน และความอยากรู้อยากเห็น กระตุ้นให้เราเล่นเกมต่อถึงแม้ว่าเราตั้งใจว่าจะเลิกเล่นแล้วก็ตามนั่นเอง

และนี่คือ “5 เรื่องพิศวงเมื่อคุณเล่นเกมแนว Rogue-Like” คนที่เล่นเกมแนวนี้จะเข้าใจดีครับ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนยังไม่เคยลองเล่นเกมแนวนี้ก็แนะนำว่าให้หามาเล่นได้ ส่วนมากจะไม่มีระบบที่ซับซ้อนอะไร เข้าใจง่าย เล่นเพลิน ๆ ไปเรื่อย ๆ ถ้าตายก็เริ่มใหม่ ทดลองสูตรใหม่ ๆ รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วครับผม แล้วคุณล่ะครับเคยเจอเรื่องพิศวงของเกม Rogue-Like บ้างหรือเปล่า 😀