T1 - Netmarble - Year 2025
Seven Knights Re:BIRTH
T1 - Netmarble - Year 2025
Seven Knights Re:BIRTH
เทคโนโลยีเกม

ตำนานอีมูเลเตอร์ผู้สร้าง ZSNES เพิ่งรู้ว่าผลงานตัวเองดังตอน EA อยากจ้าง!

“ทุกคนที่นี่รู้จักผมในชื่อ zsKnight” คำพูดเรียบๆ แต่กลายเป็นจุดที่ทำให้เขารู้ว่า ZSNES ไม่ได้เป็นแค่โปรแกรมเล่นเกมธรรมดาอีกต่อไป

ใครที่เคยผ่านยุค Super Nintendo มาคงไม่มีใครไม่รู้จัก ZSNES อีมูเลเตอร์ในตำนานที่ช่วยให้เกม SNES กลับมาโลดแล่นบนคอมพิวเตอร์ยุค 90s ได้อย่างลื่นไหล

และล่าสุด zsKnight หนึ่งในโปรแกรมเมอร์ผู้อยู่เบื้องหลัง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เล่าถึงวันนั้น… วันที่เขาเพิ่งรู้ว่า “สิ่งที่เคยทำเล่นๆ” มันกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกไปแล้ว

จุดเริ่มต้นของ ZSNES แค่เด็กหนุ่มอยากลองเขียนโค้ด

ในช่วงกลางยุค 90s ก่อนที่คำว่า “Emulator” จะเป็นที่รู้จัก zsKnight กับทีมเล็กๆ ของเขาเริ่มพัฒนา ZSNES เพราะอยากให้คอมพิวเตอร์บ้านๆ สามารถเล่นเกม Super Nintendo ได้อย่างเสถียร โดยไม่ได้คิดถึงชื่อเสียงหรือผลตอบรับอะไรเลย

เขาใช้เวลาหลังเลิกเรียนและวันหยุดในการเขียนโค้ด พยายามทำให้เกมอย่าง Super Mario World หรือ Chrono Trigger รันได้จริง และปล่อยตัวโปรแกรมออกมาฟรีให้คนลองใช้บนอินเทอร์เน็ต โดยไม่รู้เลยว่ามันจะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของเกมเมอร์ทั่วโลก

“ผมไม่เคยรู้เลยว่ามันจะดังขนาดนั้น จนกระทั่งผมไปสมัครงานที่ EA แล้วคนในทีมพูดว่า ‘ทุกคนที่นี่รู้จักนายในชื่อ zsKnight’ ตอนนั้นเองที่ผมถึงได้รู้ว่า ZSNES มันไปไกลกว่าที่คิดไว้มาก” — zsKnight ให้สัมภาษณ์กับ GamesRadar+

ทำไม ZSNES ถึงกลายเป็นตำนาน

เปิดตัวครั้งแรกในปี 1997 ZSNES ถือเป็นหนึ่งในอีมูเลเตอร์ยุคแรกที่ทำงานได้รวดเร็วมากบนเครื่อง PC ในเวลานั้น แม้สเปกจะไม่แรงก็ตาม และนั่นคือสิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจากโปรแกรมอื่น

มันมีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้คนจดจำได้ เช่น หน้าจอ UI แบบหิมะตก (snowy interface) ที่หลายคนเห็นแล้วรู้ทันทีว่า “นี่แหละ ZSNES” พร้อมระบบ netplay เล่นออนไลน์ ที่ล้ำยุคกว่าสมัยนั้นหลายปี และยังมีฟีเจอร์พิเศษอย่างบันทึกสเตต (save state) หรือการเร่งสปีดเกม ที่ทุกวันนี้กลายเป็นมาตรฐานของอีมูเลเตอร์แทบทั้งหมด

ตำนานอีมูเลเตอร์ผู้สร้าง ZSNES เพิ่งรู้ว่าผลงานตัวเองดังตอน EA อยากจ้าง!

“ตอนนั้นเราทำเพราะอยากให้คนทั่วไปเล่นเกมได้ง่ายขึ้น ไม่ได้คิดว่าจะมีใครพูดถึง แต่สุดท้าย ZSNES ก็ถูกพูดถึงในฟอรั่ม เกมบอร์ด และสื่อเกมทั่วโลก” — zsKnight กล่าวเพิ่มเติม

จากเด็กเขียนโค้ดถึงบริษัทเกมยักษ์

เรื่องราวของ ZSNES ยังกลายเป็นตัวอย่างคลาสสิกในวงการเกม เพราะหลังจากนั้น zsKnight ถูกทาบทามเข้าทำงานในบริษัทระดับโลกอย่าง Electronic Arts ซึ่งเขาเพิ่งรู้ว่าผลงานเก่าของตัวเองกลายเป็น “บันได” สู่การทำงานในอุตสาหกรรมเกมจริงๆ

เขาเล่าว่าตอนเดินเข้าห้องสัมภาษณ์ คนใน EA พูดขึ้นมาว่า “นายคือ zsKnight จริงๆ เหรอ? ทุกคนที่นี่เคยใช้ ZSNES ทั้งนั้นเลยนะ” และนั่นทำให้เขาตระหนักถึงพลังของคอมมูนิตี้เกมเมอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยความหลงใหลล้วนๆ

มรดกของโปรแกรมเล็กๆ ที่ไม่เคยหายไป

แม้เวลาจะผ่านมากว่าสองทศวรรษ ZSNES ก็ยังถูกพูดถึงอยู่เสมอในฐานะอีมูเลเตอร์ระดับตำนาน ที่เป็นแรงบันดาลใจให้โครงการอื่นๆ อย่าง Snes9x หรือ bsnes ในเวลาต่อมา หลายคนอาจไม่รู้ว่าโค้ดบางส่วนของ ZSNES ยังถูกใช้เป็นรากฐานของเครื่องมือด้าน preservation ในยุคปัจจุบันด้วย

สำหรับคนที่เติบโตมากับยุคดิสก์ 3.5 นิ้ว ภาพเมนูหิมะตกของ ZSNES อาจเป็น “ความทรงจำวัยเด็ก” ที่ไม่มีวันลืม และเรื่องราวของ zsKnight ก็คือเครื่องเตือนใจว่า แรงบันดาลใจจากใจจริงบางครั้ง… อาจสร้างตำนานได้โดยไม่รู้ตัว

มองผ่านมุม Gamer Culture

ในยุคที่วงการเกมกลับมาพูดถึงการ “อนุรักษ์เกมเก่า” อีกครั้ง เรื่องของ ZSNES จึงกลายเป็นมากกว่าแค่อีมูเลเตอร์ แต่มันคือบทพิสูจน์ว่าความหลงใหลของแฟนเกมสามารถสร้างสิ่งที่มีผลต่อทั้งอุตสาหกรรมได้จริงๆ

และถ้าวันหนึ่งเพื่อนๆ เปิดเกมเก่าๆ ผ่านโปรแกรมอีมูเลเตอร์แล้วนึกถึงชื่อ ZSNES ขึ้นมาอีกครั้ง ก็อย่าลืมว่าทุกบรรทัดโค้ดในนั้น เคยถูกเขียนขึ้นด้วยความฝันของคนเพียงไม่กี่คน ที่อยากเห็นเกมในวัยเด็กมีชีวิตต่อไป

ติดตามข่าวสารไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ได้ที่ GamerCulture

ที่มา
gamesradar
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save