[รีวิว] Seven Knights 2 สานต่อตำนานนักรบทั้งเจ็ด
ผู้ให้บริการ : Netmarble
แนวเกม : RPG
ภาษา : ไทย, อังกฤษ
ขนาดไฟล์ : IOS 167.8 MB , Android ไม่ระบุ
ระบบที่ต้องการ : iOS 10.0 ขึ้นไป / Android 7.0 ขึ้นไป
Seven Knights 2 พลิกโฉมตำนานภาคต่อ ด้วยเกมเพลย์รูปแบบใหม่
ภาคต่อของเกมมือถือระดับตำนานอย่าง “Seven Knights 2” โดยผู้ให้บริการ Netmarble คนเดิม พร้อมกับตัวเกมรองรับ “ภาษาไทย” ให้ทุกคนได้เล่นง่าย ๆ แถมตัวเกมภาคใหม่ยังพลิกโฉมจากภาคเก่าแทบจะเป็นเกมใหม่เลยก็ว่าได้ แต่ยังคงเก็บความขลัง กลิ่นอายและเนื้อเรื่องที่เข้มข้นไว้อยู่เหมือนเดิม เราไปชมกันดีกว่าครับว่าสำหรับเกม Seven Knights 2 มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
ภาพรวมเกม
Seven Knights 2 เป็นเกมที่พลิกโฉมการเป็น Turn-Based RPG ที่ผลัดกันโจมตีตามความเร็วตัวละคร กลายเป็นเกม Cinematic RPG ที่เน้นการดำเนินเนื้อเรื่องพร้อมกับฉากคัตซีนจำนวนมาก เกมเพลย์ถูกปรับให้มีความ Action มากยิ่งขึ้น แต่ยังคงความเป็น RPG อยู่เหมือนเดิม เช่น การแบ่งคลาสของตัวละคร การจัดทีม การหาเซ็ตอุปกรณ์ การเลือกแผนการรบ การลงดันเจี้ยนและอื่น ๆ อีกมากมาย มีคอนเทนต์ที่อัดแน่นทั้ง PVP และ PVE รองรับเกมเพลย์แบบปาร์ตี้แถมยังเล่นด้วยกันได้แบบ Real-Time ที่สำคัญคือยกระดับกราฟิกจากเกม 2D ภาพสไตล์อนิเมะ กลายเป็น Full 3D ที่เน้นความสมจริงอลังการงานสร้างกว่าที่แล้วมา Seven Knights 2 จึงถือเป็นเกมฟอร์มยักษ์ที่รอให้คุณได้มาสัมผัส
ด้านกราฟิก
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนอาจจะเคยเล่นหรือเคยเห็น Seven Knights ในภาคแรกมาแล้วจะรู้ว่า ภาพกราฟิกของภาคเก่านั้นจะเป็นสไตล์ 2D ที่เน้นความน่ารัก สดใส ขนาดตัวละครที่หล่อเท่ก็ยังมีความมุ้งมิ้งอยู่ด้วย แม้จะมีการรีโมเดิร์นให้สัดส่วนตัวละครดูยืดขึ้นแต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ของความน่ารักอยู่ แต่สำหรับภาค 2 นี้ ตัวเกมได้ใช้รูปแบบ Full 3D ด้วยขุมพลังของ Unreal Engine 4 ที่ทำให้ภาพออกมาดูอลังการสมจริงขั้นสุด ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่ดูดีกว่าครั้งไหน ๆ ฉากและแผนที่ที่ดูสมจริง เอฟเฟคต่าง ๆ ทั้งระเบิดหรือเวทมนตร์ก็ให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งเกม แถมตัวเกมยังมีฉากคัตซีนเยอะมาก เหมาะกับคนที่ชอบเสพเนื้อเรื่องหรือดูหนังเอามาก ๆ สามารถปรับกราฟิกได้กว้างและรัน High FPS ได้ อาจจะกินสเปคเครื่องไปหน่อยแต่รับรองว่าประสบการณ์ที่ได้รับนั้นคุ้มค่าครับ
ด้านเนื้อเรื่อง
เนื้อเรื่องภายในเกม Seven Knights 2 จะมีไทม์ไลน์ต่อจากภาคแรกประมาณ 20 ปี โดยเนื้อเรื่องจะวางโครงไว้ว่าเมื่อ 20 ปีก่อน “อีวาน” กำลังต่อสู้กับ “ลูดี้” หนึ่งในเซเว่นไนท์ที่ตัดสินใจจะกำจัด “คาริน” เพื่อยับยั้งการกำเนิดของ “God of Destruction” ผลการต่อสู้ก็คืออีวานได้พ่ายแพ้ให้กับลูดี้ และคารินก็กลายเป็นผู้เสียสละในครั้งนั้น แต่ก็สามารถยุติเรื่องราวต่าง ๆ ลงได้เช่นกัน พอผ่านไป 20 ปี ไม่มีใครพบเห็นลูดี้หรืออีวานอีกเลย และเราจะได้รับบทเป็น “เรน” ลูกสาวของเซเว่นไนท์อีกคนที่ชื่อว่า “ไอลีน” ที่เผลอเข้าไปพัวพันกับเด็กสาวแห่งโชคชะตานามว่า “พีเน่” ซึ่งกำลังถูกตามล่าตัวจากเหล่ากองทัพแห่งความมืด ไอลีนได้เสียสละตัวเองถ่วงเวลาศัตรูเอาไว้ และฝากความหวังทั้งหมดให้กับลูกสาว พร้อมคำสั่งเสียว่า “จงออกตามหาลูดี้ เซเว่นไนท์คนสุดท้าย” และการผจญภัยครั้งใหม่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
เกมเพลย์
เกมเพลย์ของ Seven Knights 2 จะมีความแตกต่างจากภาคแรกอย่างชัดเจน โดยการเล่นจะคล้าย ๆ กับเกม Action RPG คือมีปุ่มบังคับตัวละครอยู่ทางซ้ายล่างของจอ และมีปุ่มสกิลอยู่บริเวณขวาล่างของจอ ภาคนี้เราสามารถจัดตัวละครลงทีมพร้อมกันได้ถึง 4 ตัว แต่ผู้เล่นจะสามารถบังคับได้แค่ทีละตัวเท่านั้น (สามารถสลับตัวละครได้ตลอดเวลา) ส่วนตัวไหนที่ผู้เล่นไม่ได้บังคับ AI ก็จะจัดการตรงจุดนั้นให้ โดยเราสามารถควบคุมการออกสกิลของตัวละครที่เล่นและไม่ได้เล่นได้โดยการกดปุ่ม On / Off แต่ตัวละครที่เราไม่ได้ควบคุมอยู่นั้นเราจะสามารถกดได้เพียงท่าไม้ตายเท่านั้น ในขณะที่ตัวละครหลักที่เราเล่นอยู่จะสามารถกดได้ทั้งท่าไม้ตายและสกิลทั่วไปด้วย นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดเป้าหมายในการโจมตีก่อนหลังและเลือกว่าให้ AI วิ่งตามตัวละครหลักหรือไม่ในกรณีที่อยากหลบสกิลของศัตรู ซึ่งจะเล่นยังไงก็ขึ้นอยู่กับแผนการจัดทีมของคุณครับ
ประเภทของตัวละครกับแผนการรบ
ในเกมนี้ตัวละครทุกตัวจะถูกแบ่งหน้าที่ของตัวเองตามประเภทต่าง ๆ จำนวน 5 แบบ ได้แก่ ประเภทป้องกัน, ประเภทโจมตีใกล้, ประเภทโจมตีไกล, ประเภทสนับสนุน และสุดท้ายคือประเภทสมดุล ซึ่งจุดเด่นของแต่ละประเภทก็ตามชื่อของมันเลยครับ โดยแต่ละประเภทจะมีความสำคัญต่อการคิดแผนการรบมาก ๆ เพราะการจัดทีมจะสามารถใส่ตัวละครได้สูงสุดเพียง 4 ตัวเท่านั้น และสามาถเลือกรูปแบบการรบได้เหมือนกับภาคที่แล้ว แต่ภาคนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 3 แถว คือ แถวหลัง แถวกลาง แถวหน้า และแผนแต่ละแบบก็จะมีบัฟให้กับแถวต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน เช่น แผน 2-1-1 บางแผนจะช่วยเพิ่มปริมาณการฟื้นฟูให้กับ 2 ตัวแถวหลัง, หรือแผน 1-2-1 จะเพิ่มความเร็วในการโจมตีให้กับ 2 ตัวแถวกลาง เป็นต้น ซึ่งการจะเลือกใช้ตัวละครตัวไหน ประเภทอะไร จำนวนกี่ตัว วางทัพยังไง อันนี้แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์ของผู้เล่นครับ
ระบบสัตว์เลี้ยง
สำหรับ Seven Knights 2 ก็มีระบบสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับการจัดทีมของเราอย่างมาก ถ้าหากว่าโชคดีมีสัตว์เลี้ยงที่มอบบัฟ Passive และ Active ได้ตรงกับทีมที่เราจัด คือในภาคนี้สกิลของสัตว์เลี้ยงจะค่อนข้างส่งผลกับการเล่นของเราอย่างมาก ในจังหวะที่ชี้เป็นชี้ตาย หากสัตว์เลี้ยงของคุณดีพอก็อาจจะทำให้เราสามารถพลิกเกมกลับมาชนะศัตรูได้เลย เพราะส่วนมากสกิลสัตว์เลี้ยงจะมาพร้อมกับการเพิ่ม HP จำนวนมากในทันที และตามด้วยบัฟอื่น ๆ เช่น ลดคูลดาวน์ ลบดีบัฟ เพิ่มเกจท่าไม้ตาย ชุบชีวิตเพื่อนที่ตาย เป็นต้น แต่ก็จะแลกมาด้วยคูลดาวน์ที่นานใช้ได้ตั้งแต่ 2.30 – 3 นาทีได้เลย ในการต่อสู้ 1 ครั้งอาจจะมีโอกาสได้ใช้เพียงแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น ดังนั้นควรเลือกใช้ให้ดี
ดันเจี้ยนพัฒนา
ในเกมนี้จะมีดันเจี้ยนพัฒนาที่จะช่วยให้เราได้รับทรัพยากรในการพัฒนาตัวละครอย่างมาก แต่จะสามารถลงได้เพียงแค่วันละ 1 ครั้งเท่านั้น แต่ถ้าอยากจะลงมากกว่านั้นก็ต้องมีตั๋วลงดันเจี้ยนที่อาจจะสุ่มได้ตามกล่องหรือได้จากรางวัลต่าง ๆ ในเกม ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 ดันเจี้ยนให้ผู้เล่นได้เลือกฟาร์มของ ได้แก่ ดันเจี้ยนทอง, ดันเจี้ยนหินวิญญาณ, ดันเจี้ยนอิลิกเซอร์, ดันเจี้ยนรูนและดันเจี้ยน EXP แต่ละดันเจี้ยนจะฟาร์มได้ของตามชื่อของมัน ผู้เล่นจะต้องพยายามลงให้ครบเป็นประจำทุกวันเพื่อการพัฒนาตัวละครได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแต่ละดันเจี้ยนก็มีหลายระดับตั้งแต่ขั้น 1-10 ตามพลังการต่อสู้ของทีมเรา และแต่ละดันเจี้ยนเองก็มีตัวละครเฉพาะทางที่ใช้เคลียร์ดันเจี้ยนอยู่ ผู้เล่นอาจจะต้องปั้นตัวละครไว้หลากหลายเพื่อรองรับคอนเทนต์เหล่านี้ครับ
หอคอยไม่สิ้นสุด
เป็นคอนเทนต์ที่ให้ผู้เล่นได้ท้าทายตัวเองไปเรื่อย ๆ โดยเริ่มจากชั้นที่ 1 และค่อย ๆ เพิ่มระดับความสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ละชั้นจะมีรางวัลประจำชั้นอยู่ ถ้าเราเอาชนะชั้นต่าง ๆ มาได้ก็จะได้รางวัลมาครอง (ซึ่งคุ้มค่ามาก) เมื่อเรามีระดับพลังที่ถึงเกณฑ์ในแต่ละชั้นก็ควรมาผ่านด่านเหล่านี้ไว้เพื่อรับรางวัลอยู่เสมอ (ปัจจุบันมีถึงชั้นที่ 60) แต่ถ้าเพื่อน ๆ ยังไม่สามารถผ่านด่านต่อไปได้ ก็สามารถเข้ามาที่หอคอยไม่สิ้นสุดเพื่อกดกวาดล้าง เพื่อรับของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ซึ่งมันก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยครับ
ฟีลด์ล่าสมบัติ
เป็นระบบใหม่ที่ใช้ฟาร์มโดยเฉพาะ โดยเราจะต้องมีไอเทมที่เรียกว่า “แผนที่” ในการค่าคอร์สที่เราต้องจ่าย ซึ่งหาได้จากการซื้อของในร้านค้าหรือดรอปตามเควสและอีเวนท์ต่าง ๆ ในแต่ละวัน ซึ่งการลงฟีลด์ล่าสมบัตินั้นจะถูกแบ่งออกเป็นเขตต่าง ๆ ตามเนื้อเรื่องที่เราปลดไว้ และแบ่งตามค่าพลัง ยิ่งค่าพลังสูงเท่าไหร่ผลตอบแทนในการฟาร์มก็จะดีมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น EXP ที่ได้ในการปั้มเลเวลหรืออุปกรณ์สวมใส่ที่ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้านในแต่ละฟีลด์จะเป็นการวิ่งจัดการมอนสเตอร์ให้ครบตามจำนวนที่กำหนด เมื่อจัดการมอนสเตอร์ครบแล้วระบบจะถามเราขึ้นมาว่าจะฟาร์มต่อหรือจะออก แต่ถ้าเรามีแผนที่หลายชิ้นก็สามารถตั้ง Auto ฟาร์มเลเวลและฟาร์มของทิ้งไว้ได้เลย
เรดบอส
คอนเทนต์เรดบอสก็ตามชื่อเลยครับ เป็นคอนเทนต์ที่เราจะต้องจัดทีมเข้าไปเพื่อล่าบอสโดยเฉพาะ ซึ่งการล่าเรดบอสเองก็จะได้ของรางวัลค่อนข้างดีกว่าช่องทางอื่น แต่ก็ติดตรงที่ว่าความยากของมันก็จะเหนือกว่าดันเจี้ยนพัฒนาทั่วไปพอสมควร อาจจะต้องมีตัวเฉพาะทางไว้แก้ทางโดยเฉพาะ เพราะปล่อย Auto แบบชิล ๆ ไม่ได้ ต้องตั้งใจเล่น จับจังหวะ หลบสกิลบอส และสร้างทีมที่มีความพร้อมพอสมควรถึงจะผ่านได้ โดยเรดบอสนั้นจะมีทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ เรด 4 คนแบบเดี่ยว, เรด 8 คนแบบเดี่ยว, และดันเจี้ยนรายวันแบบปาร์ตี้ โดยแบบปาร์ตี้นั้นเราจะต้องเลือกตัวละคร 1 ตัวที่คิดว่าเหมาะสม จากนั้นก็หาปาร์ตี้คนอื่น ๆ มารวมทีมกัน 4 คน แล้วลุยเรดบอสกับเพื่อนได้แบบ Real-Time ครับ
อารีน่า (PVP)
สำหรับผู้เล่นท่านใดที่ชื่นชอบการต่อสู้หรือต้องการวัดความสามารถของทีมตัวเอง ว่าทีมที่เราจัดไว้มันจะไปได้ไกลสักแค่ไหนเมื่อเทียบกับทีมของคนอื่น อารีน่าคือคอนเทนต์ที่จะให้ผู้เล่นมาสู้กัน โดยมีแรงค์และรางวัลเป็นสิ่งล่อใจ ในอารีน่าจะถูกแบ่งออกเป็น 2 โหมด ก็คือ “สงครามทั่วไป” ที่จะให้ผู้เล่นสุ่มเจอศัตรูตามระดับที่ตนเองอยู่ ในโหมดนี้ผู้เล่นจะเลือกศัตรูไม่ได้ เจอคนเก่งไม่เก่งแล้วแต่ดวงล้วน ๆ แต่จะสามารถเปิด Auto เพื่อลงหลาย ๆ รอบได้ และอีกโหมดนึงก็คือ “สงครามชิงชัย” จะเป็นระบบ PVP แบบเลือกคู่ต่อสู้ได้ เราสามารถมองทีมของอีกฝ่าย จัดทีมแก้ทางแล้วเข้าปะทะ ถ้าใครรู้วิธีจัดทีมแก้ทางก็อาจจะการันตีชัยชนะให้กับตัวเองได้เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าการ PVP ทั้ง 2 แบบนั้นเป็นการต่อสู้ด้วยระบบอัตโนมัติ ผู้เล่นไม่สามารถบังคับตัวละครได้ สิ่งที่ทำได้คือจัดทีมทิ้งไว้โดยใช้แนวคิดความน่าจะเป็นเหมือนกับภาคแรกครับ
และนี่ก็คือรีวิวของเกม Seven Knights 2 หวังว่าเพื่อน ๆ จะมีความสนใจกันมากขึ้นนะครับ แต่พูดตรง ๆ ว่าแฟนเกมจากภาคที่แล้วก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน เพราะเนื้อเรื่องมันดำเนินต่อ พร้อมกับได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม แม้จะเป็นเกมใหม่แต่ก็ยังเป็น Seven Knights ที่เรารู้จัก ตอนที่ตัวละครเก่า ๆ โผล่มาเราจะรู้สึกตื่นเต้นมากเลยล่ะครับ 😀
รวบรวมคู่มือการเล่นเกม Seven Knight 2