ถ้าพูดถึงเกมเก่ายอดนิยมในอดีต เกมเมอร์หลายท่านจะต้องมีเกมในดวงใจอยู่แน่นอน และผมเชื่อว่าเกมเมอร์เหล่านี้จะมาพร้อมกับคำบอกเล่า ที่กล่าวถึงความยอดเยี่ยมของเกมโปรดที่ตนชื่นชอบ และเกม ๆ นั้นมีความยอดเยี่ยมมากขนาดไหน และด้วยเหตุผลนี้เองทำให้ผมได้เขียนบทความ 10 เสน่ห์จากเกมยุคเก่าที่น่าจดจำ (จริงๆ ผมเชื่อว่ามีเกิน 10 แน่ๆ) ถ้าพร้อมกันแล้วมาเริ่มกันเลย
*หมายเหตุ – บทความนี้ไม่ใช่การจัดอันดับและทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
1. ลูกเล่นแปลกๆ ที่เราหาไม่ได้จากเกมในยุคนี้
ลูกเล่นแปลกๆ ที่ว่านี้อาจจะเป็นทั้งระบบเกมที่เราแทบไม่มีให้เห็นกันแล้วในยุคนี้ หรืออาจจะเป็นกิมมิคที่มีเฉพาะเกมๆ นั้น ซึ่งผมจะยกตัวอย่างมาเพื่อประกอบการอธิบายนะครับ เช่น Codec Code ในเกม Metal Gear Solid ของเครื่อง PS1 ที่จะมีช่วงหนึ่งที่เราจำเป็นต้องหาคลื่นความถี่ของวิทยุ เพื่อทำการติดต่อกับตัวละครตัวหนึ่ง และเลขความถี่ของคลื่นดังกล่าว จะมีการแอบใส่ไว้ด้านหลังกล่องของเกม หรือจะเป็นความล้ำของบอสอย่าง psychomantis ที่มันสามารถอ่าน Memory ของเราได้ว่าเราเล่นเกมอะไรมา แถมบังคับให้เราต้องเสียบช่องจอย 2 เพื่อที่จะกลับมาบังคับตัวละครได้อีก ซึ่งการใส่กิมมิคเล็ก ๆ แบบนี้เข้ามาในเกมยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่ก็มีแค่เพียงเกมอินดี้เท่านั้นเอง
2. ไม่มี Microtransaction
ก่อนจะลงรายละเอียดในข้อนี้ ผมก็ขอนุญาติเท้าความก่อนว่า Microtransaction ก็คือการซื้อขายไอเท็มภายในตัวเกมด้วยเงินจริง ๆ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับเกมออนไลน์แบบเล่นฟรี (Free to play) ในสมัยก่อน แต่ในยุคปัจจุบันเกม Single Player บางเกมกลับใส่ระบบ Microtransaction มาจนเกินพอดี (อาทิเช่น Shadow of war, Assasin’s Creed Origins, Deus Ex: Mankind Divided) แต่ในอดีตเมื่อซื้อตัวเกมแล้ว เราก็จะได้ตัวเกมแบบนั้นเต็ม ๆที่ให้มาพร้อมกับคอนเทนต์ครบถ้วน ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของเกมในอดีต ที่ในเวลานี้ค่ายเกมหลายค่ายก็กำลังหวนกลับมาทำตามคอนเซ็ปดังกล่าวเพื่อเอาใจผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ในปัจจุบัน
3. บรรยากาศเก่าๆ ที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น
สำหรับข้อนี้จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคนเลยครับ เพราะบรรยากาศเก่า ๆ ที่ผมหมายถึงนอกจากบรรยากาศในเกมเกมแล้ว จะรวมไปถึงปัจจัยภายนอกอื่นๆ ด้วย อาทิเช่น ในยุคที่เกมต่อสู้เริ่มบูมในบ้านเรา เหล่ากลุ่มผู้เล่นเกมต่อสู้ในสมัยก่อน ก็มักจะนัดแนะกันเพื่อมาหาแหล่งหรือตู้เกมเล่นกัน หรือจะเป็นบรรยากาศของร้านเกมคอนโซลชั่วโมงละ 10 บาท ที่พอใครหลายคนเลิกเรียนมาก็ต้องรีบวิ่งมาจองที่ประจำเพื่อที่จะเล่นเกมโปรดภายในร้าน หรือจะเป็นเหตุการณืน่าประทับอื่น ๆ ที่แค่เพียงเราได้นึกถึง ก็ชวนให้เราย้อนคืรวันวานได้ไม่เคยลืม
4. แนวเกมที่หาเล่นได้ยากแล้วในยุคนี้
ถ้าให้พูดว่าแนวเกมยอดนิยมในปัจจุบัน ก็คงหนีไม่พ้นเกมแนว MOBA, FPS หรือ Battle Royale และผมเชื่อว่าน้อยคนนักที่จะตอบว่า RTS แต่เชื่อไหมครับว่าในช่วงเวลาหนึ่ง เกมแนว RTS นั้นก็เคยเป็นแนวเกมที่บูมมากๆ ในอดีตไใ่ว่าจะเป็นเกมอย่าง command & conquer red alert 2 yuri’s revenge หรือ Battlerealm แต่อย่างไรก็ตามนอกจากเกม RTS แล้ว ก็ยังมีเกมอีกหลายแนวไม่ว่าจะเป็นเกม Stealth หรือ เกมแนว Beat em up ที่ในปัจจุบันก็เริ่มเสื่อมความนิยมลงไปตามกาลเวลา
5. ความยากท้าทายและการไม่จูงมือผู้เล่น
เกมเมอร์รุ่นใหญ่หลายๆ ท่านคงจะทราบข้อนี้เป็นอย่างดี ว่าเกมสมัยก่อนก็มีแต่เกมยากโหดหินอยู่หลายเกม ไม่ว่าจะเป็นเกม Contra ที่กดสูตรโกงก็ยังยากอยู่ดี หรือจะเป็น Rockman ภาคเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยบอสยาก ๆ , ฉากที่อันตรายและการตายที่ไม่มี Continue แถมเกมในสมัยก่อนมักจะไม่จูงมือผู้เล่น และให้ผู้เล่นได้ฝึกฝีมือ ผ่านการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งเกมตระกูล Souls ก็สามารถนำเสนอแนวคิดนี้ในเกมยุคใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม เพราะตัวเกมจะมีเพียงแค่การสอนการบังคับพื้นฐานเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นนอกจากนั้นตัวเกมจะให้เราหาคำตอบด้วยตัวเอง ซึ่งการทำเกมแบบนี้ก็มีจุดมุ่งหมายให้ผู้เล่นรู้สึกอินกับเกมมากขึ้น
6. ความรู้สึกแรก
ความรู้สึกแรกเป็นสิ่งพิเศษสำหรับในหลาย ๆ อย่าง และการเล่นเกมก็เช่นกัน ผมเชื่อเลยว่าเกมเมอร์ทุกคนก่อนจะมาเป็นเกมเมอร์จนถึงทุกวันนี้ได้ คุณจะต้องมีเกม ๆ แรกที่นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นอยู่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมผีครั้งแรก, การเล่นเกมแนว MMORPG และได้พบปะกับผู้เล่นคนอื่น หรือแม้กระทั่งการเล่นเกม ๆ แรกในชีวิต ซึ่งถ้าคุณยังจำได้และย้อนคิดถึงเหตุการณ์นั้น ๆ มันก็คงเป็นความรู้สึกที่พิเศษน่าดูเลยจริงไหมล่ะครับ
7. สูตรโกงภายในเกม
เกมในสมัยก่อนการมีสูตรโกง หรือโค้ดลับเฉพาะของตัวเกมนั้น ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คุณสามารถเห็นได้ทั่วไปทุกเกม ตั้งแต่ Konami Code (สูตรเพิ่มชีวิตในเกมคอนทร้า) , สูตรเพิ่มอาวุธ/เพิ่มเลือด/ลดดาวในเกมตระกูล GTA หรือจะเป็นสูตรปั๊มเงินในเกม The sims และก็รวมไปถึงการใช้แผ่น Action Replay สำหรับเครื่องเกม PS1 และ PS2 ที่นำมาใช้เพื่อโกงเกม ที่ในเวลานี้ก็แทบไม่มีให้เราได้เห็นแล้ว ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเกมสมัยก่อน ที่ชวนให้เราคิดถึงอยู่ไม่น้อยเลยล่ะครับ
8. ยุคทองหนังสือบทสรุป
ในสมัยก่อนที่อินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลายหมือนทุกวันนี้ เกมเมอร์รุ่นใหญ่หลายท่านที่ประสบปัญหาเล่นเกมติดขัด พวกเขาจะมีหนึ่งทางออก ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ “หนังสือบทสรุปเกม” นั่นเองครับ โดยตัวหนังสือบทสรุปจะเป็นการมัดรวมข้อมูลทุกอย่างของตัวเกม ตั้งแต่การแปลเนื้อเรื่องเป็นภาษาไทยให้เราอ่านรู้เรื่อง, วิธีผ่านฉาก, วิธีปราบบอส ไปจนถึงสูตรโกงและความลับต่าง ๆ ภายในเกม ซึ่งในเวลานั้นมันก็สามารถช่วยเกมเมอร์หลาย ๆ คน จนสามารถเล่นเกมยาก ๆ จบได้อย่างไม่ยากเย็น (แถมตัวเกมก็มีการสรุปตอนจบของเกมให้ท้ายเล่มอีกด้วย)
9. การแชร์ความรู้ของเกมแบบเล่ากันต่อ
นอกจากการรับรู้ข่าวสารและข้อมูลของเกมผ่านบทสรุปเกม อีกหนึ่งอีกวิธีที่นิยมสำหรับเกมเมอร์ในสมัยนั้น ก็ไม่พ้นกับการคุยกับคนที่เล่นเกมเดียวกันกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่โรงเรียน, คนข้างบ้านหรืออาจารย์ที่สอน ซึ่งการพูดบอกปากต่อปากนี่เอง ก็ทำให้เราได้ทั้งข้อมูลที่มีประโยชน์ ตั้งแต่วิธีการเล่นผ่านฉากอย่างไร, เล่นเกมนี้ควรเริ่มต้นจากตรงไหน หรือแม้กระทั่งความลับแปลก ๆ จากตัวเกมที่คนเหล่านั้นไปพบเจอโดยบังเอิญภายในเกม ที่อาจจะมีทั้งข้อมูลจริงและคำบอกเล่าที่โม้ขึ้นมาเฉย ๆ ซึ่งในเวลานั้นการพบปะสังสรรคุยกันเรื่องเกม ก็ดูเป็นอะไรที่น่าสนุกกว่าการมานั่งหาข้อมูลตัวคนเดียวเป็นกองเลยล่ะครับ
10. การครอบครองแผ่น/กล่องเกมแบบ Physical Copy
สำหรับเกมเมอร์สายคอนโซลบางท่าน ก็อาจจะยังมีการซื้อแผ่นเป็น Physical Copy กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่ผมเชื่อว่าเกมเมอร์สาย PC อย่างเรา ๆ การจะมีแผ่นเกมสักแผ่นในครอบครอง ก็เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ด้วยการมาของแพลตฟอร์มขายเกมอย่าง Steam, Epic Games store, Origin, Uplay และอื่น ๆ ที่นำเกมแบบ Digital Copy มาขายให้กับเหล่าเกมเมอร์ ทำให้ผลที่การซื้อเกมกล่องเสื่อมความินยมลง ทำให้บริษัทนำเข้ากล่องเกมมีรายได้ที่น้อยลง เป็นผลให้ในปัจจุบันการจะหากล่องเกม PC ดี ๆ ก็เป็นอะไรที่ไม่ง่ายเลยล่ะครับ
*Bonus (แถมๆ) – เกมจากฝั่งญี่ปุ่นมี OP ประจำตัว (เกมดังๆ เกือบทุกเกม)
ก่อนจะจากกันไปผมก็ขอทิ้งท้ายไว้กับข้อนี้ก็คือการที่เกมมีเพลงเปิดหรือ OP แบบการ์ตูนญี่ปุ่น ที่เกมดังๆ ณ ขณะนั้นมีแทบจะทุกเกมตั้งแต่ Rockman X, Panzer Bandit ,Slayers Royal และเกมอื่นๆ อีกมากมาย แถมในบางตัวเกมนอกจากจะมีเพลงเปิดแล้ว ก็ยังมีคัทซีนเป็นอนิเมะอีกด้วย
ก็จบกันไปแล้วนะครับกับ 10 เสน่ห์จากเกมยุคเก่าที่น่าจดจำ เป็นยังไงกันบ้าง มีข้อไหนบ้างหรือเปล่าที่คุณผู้อ่านเคยได้สัมผัสมาบ้างแล้ว ผมหวังว่าบทความนี้จะให้ความบันเทิงและทำให้คุณผู้อ่านได้รำลึกถึงความหลังที่มีต่อวิดีโอเกมบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณสำหรับการอ่านและหวังว่าจะได้พบกันใหม่ในบทความหน้าครับ
ข่าวสารเกมอื่น ๆ : GamerCulture
ผู้เขียน : TF_Atomstfx