รีวิวเกม

[รีวิว] Final Fantasy Pixel Remaster

การกลับมาของตำนานยุค Pixel ในขุมพลังยุคใหม่

หลาย ๆ คนที่เป็นแฟนเกม Final Fantasy ก็น่าจะเคยได้ยินข่าวการ Remaster ของภาคเก่า ๆ ตั้งแต่ภาค 1-6 โดยใช้ชื่อภาคว่า “Final Fantasy Pixel Remaster” ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสได้ลองเล่นในแพลตฟอร์มของ Nintendo Switch ในส่วนของ Bundle 1-6 ที่เป็นตัวรวมทั้ง 6 ภาคในคราวเดียวเลย และอยากจะบอกเล่าประสบการณ์ดี ๆ ที่เคยสูญหายไปตั้งแต่เมื่อ 30 ปีก่อน ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันในบทความนี้ครับ

ภาพกราฟิกที่คมชัดขึ้นและอัปเกรดขึ้น


ถ้าเพื่อน ๆ เคยเล่น Final Fantasy ภาคเก่า ๆ ตั้งแต่ 1-6 ก็จะทราบดีว่า ทั้ง 6 ภาคนี้จะเป็นภาพกราฟิกแบบ Pixel Art เนื่องจากเทคโนโลยีในยุคนั้นก็ทำได้เพียงเท่านี้ ถึงแม้จะมีการรีเมคหรือพอร์ทมาลงเครื่องอื่นบ้าง สวยขึ้นบ้าง แต่ก็อยากบอกว่าในภาค Pixel Remaster นี้ ทั้ง 6 ภาคถูกพัฒนาด้านกราฟิกให้กลายมาเป็นเกม Pixel Art ยุคปัจจุบันแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Resolution ที่คมชัด ไม่มัว สีสันที่สดขึ้น รายละเอียดของ Texture มีความชัดเจนมากขึ้น หลายจุดที่เป็นส่วนที่เคยเบลอ ๆ จากภาคเก่าก็ถูกเติมแต่งให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทำให้คุณได้รับประสบการณ์ในอดีตแบบเต็ม ๆ และทรงคุณค่ามาก ๆ ครับ

เพลงประกอบที่ Rearrange ใหม่


ในด้านของเพลงประกอบก็ถือว่าไม่น้อยหน้า ในเมื่อเรื่องภาพนั้นถูกอัปเกรดขึ้นมาแล้ว ความเป็น Full HD ไม่ได้มีแค่ภาพเท่านั้น แต่เสียงเองก็พัฒนาให้มีความทันสมัยขึ้นด้วย จากที่เรารู้กันว่าเพลงแต่ละธีมของซีรีส์นี้ ค่อนข้างทำออกมาได้อย่างปราณีตและสุดยอดมาก ๆ เข้ากับบริบทของสถานที่นั้น ๆ เป็นอย่างดี และเพลงคุณภาพดีเหล่านั้นถูกนำมา Rearrange ใหม่ให้แตกต่างไปจากเดิม ซาวด์ดีขึ้น ทันสมัยขึ้น อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการเท่าในคอนเสิร์ต Orchestra World Tour ที่เราเคยได้ยินมา แต่มันคือเพลงประกอบที่มีชีวิตชีวามากขึ้น และไม่แข็งกระด้างเป็น 8 Bit เหมือนในอดีตแล้วครับ

ประสบการณ์ของภาค 1-6 ที่คุณจะได้รับยังเหมือนเดิม


แน่นอนว่านี่คือเกม Remaster ไม่ใช่ Remake ผู้เล่นที่ซื้อไปเล่นส่วนใหญ่เรามักจะคาดหวังได้สัมผัสกับสิ่งเดิม ๆ ในคุณภาพที่สูงขึ้น และทางผู้พัฒนาก็ยังทำได้ดีครับ ถึงแม้กราฟิกกับเพลงจะอัปเกรดขึ้นให้สูงและทันสมัย แต่เนื้อเรื่องและเกมเพลย์ยังคงเอาไว้ในรูปแบบของต้นฉบับ ทำให้เพื่อน ๆ ยุคเก่าที่อยากจะกลับไปเสพบรรยากาศเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ว่าต้นแบบเกม RPG Turnbased รุ่นพ่อรุ่นลุงเขาเป็นยังไง แต่สิ่งที่จะเพิ่มเติมเข้ามาคือภาพที่สวยงามขึ้น ไม่ต้องไปย้อนเล่นภาค 8bit 16bit ใน Emu ที่เป็นภาพแตก ๆ อีกต่อไปแล้ว อีกทั้งบางฉากยังมีคัตซีนที่ถูกทำออกมาให้เราอินกับเนื้อเรื่องของเกมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

รองรับภาษาไทย เข้าใจเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Final Fantasy จะมีภาษาไทยให้คุณได้เลือก ซึ่งในอดีตเคยมีมาแล้วครั้งหนึ่งในเครื่อง Super Famicom ในภาค 4 แต่มันก็ทำออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตามยุคตามสมัยนั้น แต่ในปัจจุบันมีฟังชั่นเปลี่ยนภาษาให้คุณได้เลือก เมื่อเข้าหน้า Title ของเกมแต่ละภาค ก่อนกด New Game หรือ Load Game ให้เลือกที่ปุ่ม Option > Configuration > Language แล้วเลือก “ภาษาไทย (Thai)” จากนั้นตัวเกมจะรีเซ็ตเกมหนึ่งครั้ง แล้วทุกอย่างภายในเกมก็จะถูกเปลี่ยนเป็นภาษาไทยครับ มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เมื่อเกมที่เรารักมีภาษาไทยให้เล่นด้วย

เพิ่มฟังชั่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้ามาให้เล่นสะดวกขึ้น


เนื่องจากว่าเกม Final Fantasy ตั้งแต่ 1-6 นั้นเป็นเกมยุคโบราณเลยก็ว่าได้ เพราะงั้นในสมัยก่อนตัวเกมอาจจะไม่ได้มีเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการเล่นเท่าไหร่นัก แต่พอมาอยู่ในยุคปัจจุบันก็มีสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยให้คุณเล่นเกมนี้ได้ง่ายขึ้น เช่น แผนที่โลกที่จะโชว์อยู่บนหน้าจอตลอดเวลาที่อยู่นอกเมือง ทำให้คุณรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน จะได้ไม่หลงทาง หรือสามารถเปิดระบบ Auto เพื่อให้ตัวละครของเราฟาร์มเลเวลเองได้โดยที่เราไม่ต้องออกคำสั่ง หรือแม้แต่การเร่ง Speed x2 เพื่อให้ประหยัดเวลาในการฟาร์มอีกด้วย (นี่มันฟอร์มเกมมือถือเลยนี่นา) และส่วนเล็กน้อยอื่น ๆ อีกมากที่พอมันเพิ่มเข้ามาแล้วช่วยอำนวยความสะดวกเฉพาะจุดได้ดีขึ้นครับ

ด้านเกมเพลย์ยังคงคลาสสิคเหมือนเดิม


เราพูดในส่วนของภาพกราฟิกต่าง ๆ และส่วนที่เพิ่มเข้ามาแล้ว ในด้านเกมเพลย์นั้นก็ยังคงเป็น Turnbased เหมือนเดิม แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าตั้งแต่ภาค 1-6 แม้จะเป็น Turnbased เหมือนกันแต่ก็มีระบบเกมเพลย์ปลีกย่อยที่แตกต่างกันภายใน เช่น ตั้งแต่ภาค 4 เป็นต้นไปจะมีเกจบอกเทิร์นมาให้เห็นชัด ๆ เลยว่าต่อไปใครจะได้เล่น ในขณะที่ภาค 1-3 ไม่มี หรือระบบการใช้เวทย์ของภาค 1 ยังเป็นระบบที่นับเป็นจำนวนครั้งอยู่ ไม่ใช่ระบบคำนวณ MP แบบในปัจจุบัน หรือภาค 6 จะเพิ่มระบบ Limit Break เข้ามาเป็นภาคแรก แต่เกมเพลย์หลักก็ยังเป็นเหมือนเดิม คือแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง แล้วสลับกันโจมตีตามการออกคำสั่งของผู้เล่นครับ

จุดเด่น

– เป็นเกมเก่ายุค 30 ปีก่อน ในรูปแบบปัจจุบัน
– กราฟิกสวยขึ้น ปรับ Resolution ให้คมชัดขึ้น
– เพลงเก่าถูก Rearrange ใหม่ ให้ดีกว่าเดิมมาก
– มีฟังชั่นอำนวยความสะดวกเพิ่มเข้ามาตามยุคสมัย
– รองรับภาษาไทย

จุดสังเกตุ

– ตั้งแต่ภาค 1-6 จะมีหน้า UI เหมือนเดิม ใช้ซ้ำกัน

เป็นยังไงกันบ้างครับกับรีวิวของ Final Fantasy Pixel Remaster ย้ำอีกครั้งครับว่าเวอร์ชั่นที่ผมเล่นเป็นเวอร์ชั่น Nintendo Switch ในส่วนของ Bundle 1-6 ซึ่งก็คาดว่าในเวอร์ชั่นของ PC และ Console อื่น ๆ ก็น่าจะไม่แตกต่างกันมาก ได้กลับมาเล่นเกมเก่าในดวงใจสมัยยังเด็กอีกครั้งก็รู้สึกตื้นตันใจเหมือนกันนะครับเนี่ย 🙂

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อเกมได้ที่ : [คลิก]

ผู้เขียน : MakinoJou

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save