เมื่อลมหนาวของเดือนธันวาคมมาเยือนแบบนี้ หลายคนคงมีโอกาสลางานล่วงหน้าเพื่อเตรียมหาเวลาว่างไปพักผ่อนกันตามต่างจังหวัดหรือต่างประเทศกันแล้ว แต่แน่นอนว่ามีเกมเมอร์หลายคนทีเดียวครับที่ขออยู่บ้านเล่นเกมสบายๆ สักอาทิตย์นึงก็ยังดี อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเฟ้นหาแต่ละเกมพวกเราก็มักจะต้องมานั่งตามรีวิวดูกันอยู่แล้วเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนหาเกมใดๆ ก็ตามมาเล่นใช่ไหมครับ
ปฏิเสธไม่ได้ครับว่ามีเกมจำนวนมากทีเดียวที่ดันไปไม่ถึงฝัน ซึ่งวันนี้เองพวกเราก็จะมาย้อนดูคลังเกมตลอดทั้งปี 2022 ว่ามีเกมไหนที่โดนถล่มยับกันไปบ้าง อย่างไรก็ตามขอบอกว่านี่ไม่ใช่การวิจารณ์เพื่อโน้มน้าวเนื่องจากสิทธิ์ของการเลือกเล่นก็เป็นของเกมเมอร์ทุกคนอยู่แล้ว แถมแต่ละเกมก็มีจุดมุ่งหมายไม่เหมือนกัน ดังนั้นไม่ต้องซีเรียสกันไปมากนัก ว่าแล้วก็อย่ารอช้ามาติดตามดูกันข้างล่างนี้เลยดีกว่า
1. Diablo: Immortal
เริ่มต้นกันที่เกมสุด Controversial ที่เอาเข้าจริงก็ทำแฟนๆ ตะหงิดใจกันมาตั้งแต่ครั้งเปิดตัวเมื่อผู้พัฒนาถามกลางงานว่า ‘พวกคุณไม่มีสมาร์ทโฟนกันหรือไง’ แต่ท้ายที่สุด หลังจากวางจำหน่ายแล้ว ในแง่ความสนุกแฟนๆ ก็ยอมรับว่าโอเคกันเลย กระนั้นแล้วปัญหาดันอยู่ที่ระบบเศรษฐกิจของเกมที่ดูเหมือนจะเอื้อกับผู้เล่นที่เติมเงินกันเป็นพิเศษ เพราะถ้าหากเข้าไปในการเล่นแบบ PvP ปุ๊บก็กลายเป็นว่าต่อให้ความพยายามก็คงพ่ายแพ้ไอเทมดีๆ เป็นแน่แท้ และข่าวร้ายก็คือระบบจับคู่ผู้เล่นดันเลือกมาแต่คนที่เติมเงินมาให้เราทั้งน้านนน…
2. Babylon’s Fall
เกมแนวออนไลน์ Live Service การจับมือกันระหว่าง Square Enix และ PlatinumGames อีกครั้งหลังจากสร้างความปังปุริเยไปกับ NieR: Automata แต่รอบนี้ขอบอกเลยว่าปัง… ปิ๊นาศ ด้วยระบบการเล่นที่ถึงแม้จะสนุกแต่ก็ดันมีการโปรโมตที่แสนแปลกประหลาดจน และยังมีปัญหาต่างๆ นานา จนภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือนดี กลายเป็นว่ายอดผู้เล่นกลับตกฮวบอย่างน่าใจหายและปัจจุบันก็เหลือเพียงไม่ถึงหลักร้อยแล้วด้วยซ้ำ ต่อให้มีการปล่อยคอนเทนต์ใดๆ มาก็สายเกินแก้ ผลที่ตามมาก็คือล่าสุดเกมเตรียมปิดเซิร์ฟเวอร์กันแล้ว โอ้ คุณพระ!
3. Chocobo GP
โดนอีกแล้วกับค่าย Square Enix ที่อุตส่าห์ปลุกผีเกมรถแข่งชื่อดังมา หลายคนก็หวังว่าจะมาฟาดกับเจ้าถิ่นอย่าง Mario Kart กันได้ แต่สุดท้ายด้วยเกมเพลย์ที่ไม่ลื่นไหลเท่า อีกทั้งจำนวนสนามแข่งขันที่มีอยู่เพียงไม่กี่ฉากซึ่งถือว่าน้อยมากๆ เทียบกับคู่แข่งแล้ว ก็ทำให้การกลับมาครั้งนี้ต้องบอกว่าแป้กไปโดยสิ้นเชิง เท่านั้นไม่พอยังเปลี่ยนโมเดลธุรกิจเกมมาเป็นระบบซีซันที่ต้องเสียเงินจริงๆ เพื่อร่นเวลาปลดล็อกตัวละครอีก
4. The Last of Us: Part I
มาถึงเกมสุดยิ่งใหญ่ที่ได้รางวัล Game of the Year ไปนอนกอดในปี 2013 ที่ได้รับการรีเมคใหม่ ‘ตั้งแต่ต้น’ แต่พอเปิดตัวเกมเพลย์และวางจำหน่ายจริงๆ แฟนๆ ก็พบว่ามันคือการรีเมคแบบ ‘เหล้าเก่าในขวดใหม่’ แทนมากกว่า เพราะว่าถึงแม้ภาพจะสวยงามขึ้นจริง การถ่ายทอดสีหน้าท่าทางของตัวละครในคัตซีนจะดีขึ้นจริง แต่เกมเพลย์ยังมีโครงสร้างแบบเดิมกันเกือบจะเป๊ะๆ แม้จะปรับการควบคุมให้ลื่นไหลขึ้นแล้วแต่ก็แทบไม่เพิ่มมิติใดๆ ออกมาให้น่าตื่นตาตื่นใจเท่าไรนัก
5. Horizon: Forbidden West
Horizon: Forbidden West ได้รับการยกย่องว่าเป็นเกมที่ขยายความและพัฒนาในทุกๆ ด้านเมื่อเทียบกับเกมภาคที่แล้ว แต่ที่ทำให้เกิดความไม่พอใจในกลุ่มคนเล่นก็คือปัญหาในช่วงแพตช์แรกๆ ก็ต้องบอกเลยว่ายับเยินด้วยปัญหาทางเทคนิคหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Performance ไปจนถึงอาการเกมเด้ง เซฟหาย ครั้นจะแก้ไขเสร็จ ในส่วนของเนื้อเรื่องก็โดนบ่นต่อนิดนึงว่า ติดตามเรื่องราวได้ยากมากถ้าหากไม่เคยเล่นเกมภาคแรกมาก่อน (แป่ว)
6. Gotham Knights
เอาเข้าจริงสำหรับเกมนี้ดูคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นสถานการณ์แบบคนรักก็รักมาก คนเกลียดก็เกลี๊ยดเกลียดเพราะว่ามีเรื่องที่ให้ชมและด่าไปในเวลาเดียวกัน แต่ในส่วนคำวิจารณ์ดูท่าจะเยอะกว่าเพราะว่าการบอกเล่าเรื่องราวหลังจาก ‘แบทแมน’ ไม่อยู่แล้วนั้นดันอ่อนลงไปอย่างน่าเสียดาย ต่อให้จะมีฮีโร่รุ่นจิ๋วมาสานงานกันต่อก็ไม่อาจดึงความรักของแฟนอัศวินรัตติกาลกลับคืนมาได้ เท่านั้นไม่พอการออกแบบเกมค่อนข้างน่าหงุดหงิด และบนคอนโซลยิย่งโดนโจมตีหนักเข้าไปใหญ่เพราะว่าเล่นได้แค่ 30FPS เท่านั้น
7. Overwatch 2
ในขณะที่เกมภาคแรกเคยได้รับรางวัล Game of the Year ไปแล้ว การกลับมาของเกมภาคสองที่เป็นการรีแบรนด์เกมภาคแรกได้กลายเป็นไฟที่สุมทรวงของผู้เล่นไปโดยปริยายด้วยปัญหาเซิร์ฟเวอร์ล่มในช่วงแรก หลังจากแก้เสร็จก็ยิ้มแย้มแจ่มใสกันได้ไม่นานเท่านั้น เพราะว่าดันเจอบั๊คฮีโร่กันต่อแบบรัวๆ ชนิดที่ว่าโดนถอดเข้าถอดออกจากเกมกันแทบทุกสัปดาห์ (แถมหายไปทีก็หายไปจนลืม) เท่านั้นไม่พอ การเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นโมเดลธุรกิจเล่นฟรีขาย Battle Pass ก็ดูจะไม่ค่อยได้รับการตอบรับที่ดีมากนักเพราะค่า XP ที่ขึ้นช้าจนต้องฟาร์มหลังแทบหัก และสกินที่ผู้เล่นเดิมเคยปลดล็อกได้ง่ายๆ ก็กลายเป็นสกินพรีเมียมที่ต้องใช้เงินจริงซื้อแทน ผลที่ตามมาก็มีแต่เสียงก่นด่าน่ะสิครับ
8. Rainbow Six: Extraction
เกมภาคเสริมของซีรีส์ Rainbow Six ที่ต่อยอดจากอีเวนต์ PvE ลุยเดินหน้าฆ่ามอนสเตอร์มาเป็นเกมแยก ซึ่งตัวเกมเองก็มีการใช้เหล่าตัวละครและระบบบางส่วนจากภาค Siege แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการนำมาใช้ที่ผิดที่ผิดทางไปหน่อยเพราะจังหวะจะโคนในการเล่นมันก็ดูแปลกๆ และไม่เข้ากับธีมเกมเสียเท่าไร นอกจากนี้คอนเทนต์กันไม่ได้มีให้เราได้เล่นมากนัก มักจะเป็นชุดภารกิจซ้ำๆ ให้เล่นเพื่อฟาร์มแต้มปลดล็อก ทั้งนี้โชคดีที่เรื่องความลื่นไหลนั้นอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่งั้นคงโดนด่ายับกว่านี้
9. Saints Row
ยุคสมัยแห่งการรีบู๊ตและรีเมคจริงๆ รอบนี้มาถึงคิว Saints Row เกมโอเพนเวิลด์คู่ปรับของ GTA ที่มีจุดเด่นเป็นเรื่องความกาว โดยในการรีบู๊ตครั้งนี้ได้ปรับเปลี่ยนให้โทนของเรื่องกลับมาซีเรียสขึ้นมาบ้างเล็กน้อย โดยรวมเนื้อหาของเกมจัดได้ว่าเล่าได้น่าติดตาม แตกต่างกับเกมภาคเก่าๆ แต่สิ่งที่โดนเพ่งเล็งมากเป็นพิเศษคือเรื่องของความลื่นไหลของเกมเพลย์ล้วนๆ มีหลายครั้งที่เรามักจะเจออาการแปลกๆ เช่น AI ศัตรูไม่ทำงาน หรือตัวเอกที่วิ่งไปชนกระถางต้นไม้แต่มีเอฟเฟกต์ไฟลุกขึ้นมาแบบงงๆ ทั้งนี้ปัจจุบันมีการปล่อยอัปเดตมาแก้ไขเรื่องคุณภาพแล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวลมาก เล่นเอามันส์ได้ขำๆ เพราะรองรับ Co-op ด้วยนะ
10. The House of the Dead: Remake
The House of the Dead เกมยิงผีสุดคลาสสิกที่ได้รับการปัดฝุ่นใหม่และมีการออกแบบเกมโดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์คลาสสิกของเกมมากเป็นพิเศษทั้งเรื่องเสียงพากย์ที่จงใจทำให้ไม่ดี และจังหวะการเล่าเรื่องแบบเดิมเป๊ะๆ แถมยังรองรับระบบ Gyroscope ให้เราได้เล็งปืนกันเองด้วย แต่ปัญหาก็คือเรื่องระบบการเล็งที่ไม่ตรงตามใจผู้ใช้งานเท่าไร และหน้าจอโหลดในเวอร์ชั่น Nintendo Switch ที่เป็นเครื่องเล่นหลักก็นานมากเกินไป
11. Pokémon Scarlet & Violet
ขาดไม่ได้กับเกมใหม่มาแรงแซงทุกผลโพลแถมยังเป็นเกมที่หลายคนคาดไม่ถึงด้วยกับเกมโปเกม่อนภาคหลักภาคใหม่ล่าสุดที่ถึงแม้จะทำยอดจำหน่ายได้ถึง 10 ล้านชุดในระยะเวลาเพียง 3 วัน แต่ทุกคนก็ต้องก้มหน้ารับชะตากรรมกันไปว่าคุณภาพในแง่ Performance นั้นน่าผิดหวังแบบให้อภัยไม่ได้เลยทั้งอาการแลคและเฟรมเรตที่วิ่งอย่างไม่คงที่ด้วยสเกลของเกมที่ใหญ่เกินกว่าสเปคจะรับไหว มาจนถึงอาการบั๊คแปลกๆ จนเราได้เห็นภาพกีฬามันส์ๆ เช่นดิกด้าทะเลสุดพีคหรือการขี่โปเกม่อนล่องหนเป็นต้น
12. Resident Evil: RE Verse
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจะมีเกมที่มาอยู่ในโพลนี้ซ้ำเป็นปีที่สองหลังจากที่เปิดทดสอบแล้วโดนด่ากันไปรอบแรกจนต้องหายไปเลียแผลกันแบบข้ามปี พอกลับมาคราวนี้ขอบอกเลยว่า… โดนหนักกว่าเดิม! แฟนๆ ต่างโจมตีว่าระยะเวลาที่หายไปนั้นเกมกลับไม่ได้เพิ่มคอนเทนต์อะไรใหม่สักเท่าไรนอกจากระบบสกิลตัวละครและแผนที่ที่เพิ่มมาแค่ฉากเดียว! ต่อมาพออัปเดตคอนเทนต์แล้วก็ยิ่งชวนให้กำหมัดเข้าไปใหญ่เพราะฉากที่เพิ่มมาก็มีมาอีกฉากเดียวรวมเหลือแค่สามฉาก ส่วนตัวละครนั้นดันเป็นแก๊งทหารของพี่ Chris ที่แทบไม่ได้มีบทอะไร หลายคนเลยงงว่านี่มันการรวมดาวพระเอกผีชีวะ หรือการนำ Asset เกมมาย้อมแมวยำรวมจนเป็นยำหนังจี้กันแน่!
สังเกตว่าเป็นอีกหนึ่งปีแสนคึกคักเพราะมีเกมออกมาวางจำหน่ายกันเยอะมากแล้วดันเป็นเกม AAA อีกต่างหาก แต่สุดท้ายก็ยังแพ้ภัยตัวเองอีกจนได้ แล้วที่สำคัญหลายๆ เกมในโพลยังเป็นเกมที่ถูกเลื่อนจำหน่ายแล้วเลื่อนจำหน่ายอีก เอาเข้าจริงในมุมมองของคนเล่นเกมธรรมดาก็คงไม่อาจจะตีความได้ว่าปรากฏการณ์ความเฟลนี้มันเกิดขึ้นจากอะไร ได้แต่หวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่ค่ายเกมต่างๆ จะได้รับบทเรียนบ้างไม่มากก็น้อย
