Shinchan: Me and the Professor on Summer Vacation -The Endless Seven-Day Journey- เป็นเกมผจญภัยสวมบทบาทที่ผู้เล่นจะได้ควบคุมตัวละครชินจังจอมแก่นออกท่องเที่ยวฤดูร้อน ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปได้อย่างราบรื่น จนกระทั่งชินจังและครอบครัวได้พบกับดอกเตอร์สติเฟื่องที่ใช้ไทม์แมชชีนพาพวกไดโนเสาร์เข้ามาในเมืองที่พวกเขาพักผ่อนอยู่ แถมชินจังยังโดนสาปให้อยู่ในลูป “7 วันอันไร้ที่สิ้นสุด” อีกต่างหาก! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ชินจังและครอบครัวจะได้กลับไปยังบ้านของตนเองอย่างปลอดภัยหรือไม่ มาติดตามกันได้ภายในเกมนี้เลยครับ
และในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสท่องเที่ยวไปในเกม Shinchan: Me and the Professor on Summer Vacation -The Endless Seven-Day Journey- มาแล้วและก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ผู้อ่านได้ติดตามกันครับ
อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน Switch ระหว่างวันที่ 11 – 13 สิงหาคม 2565 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้
กราฟิกสวยงาม และลงตัวกับเกมมาก ๆ
สิ่งแรกที่ผู้เขียนประทับใจมาก ๆ ก็คือ กราฟิกภายในเกม Shinchan: Me and the Professor on Summer Vacation -The Endless Seven-Day Journey- ที่ทำออกมาได้สวยงามลงตัวแบบสุด ๆ ด้วยกราฟิกสไตล์การ์ตูน 3 มิติที่แสนจะสดใส ซึ่งก็เหมาะสมกับเกมที่มีต้นแบบมาจากการ์ตูน แม้ว่าเกมนี้จะเล่นบน Switch ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเกมพกพา แต่ผู้เขียนยอมรับเลยว่าเกมนี้เป็นเกมหนึ่งที่กราฟิกให้ความรู้สึกคล้ายกับการเล่นบนเกมคอนโซลที่มีความแรงสูงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกที่ทำออกมาได้เนียนตา ความลื่นไหลที่เล่นได้เพลิดเพลินไม่มีสะดุด อีกทั้งองค์ประกอบภายในฉากต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้น่าประทับใจเป็นอย่างมาก
เรื่องราวที่น่าสนใจ กับ Episode ที่ไม่เรียงลำดับ แต่ก็ไม่ขัดกับความรู้สึก
ภายในเกมนี้ผู้เล่นจะได้ดำเนินเนื้อเรื่องในช่วงวันหยุดฤดูร้อนของชินจังและครอบครัว ซึ่งจุดที่ผู้เขียนสนใจก็คือ โดยปกติแล้วเกมใช้ชีวิตสบาย ๆ แบบนี้มักจะไม่มีการกำหนดชัดเจนว่าเป็น “ช่วงวันหยุด” เพราะจุดนี้จะส่งผลต่อเนื้อหาภายในเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “วันเวลาภายในเกม” ตัวอย่างเช่นหากเป็นการเที่ยวในวันหยุด นั่นแปลว่าเราอาจจะมีเวลาในเกมประมาณ 7-10 วันเท่านั้น เกมก็จะจบ ซึ่งถือว่ามันสั้นมาก ๆ ทำให้ผู้เขียนค่อนข้างสนใจว่าเกม Shinchan: Me and the Professor on Summer Vacation -The Endless Seven-Day Journey- จะแก้เกมอย่างไร โดยเฉพาะชื่อเกมที่มีการจั่วไว้ว่า “การเดินทาง 7 วันอันไร้ที่สิ้นสุด” ซึ่งเนื้อหาของเกมก็ทำออกมาตอบโจทย์ และไม่รู้สึกขัดใจแต่อย่างใด
ภายในเกมนี้ชินจังและครอบครัวจะได้พบเจอกับดอกเตอร์สติเฟื่องที่มอบกล้องถ่ายภาพประหลาดให้ชินจังได้นำไปใช้ในการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาดอกเตอร์คนดังกล่าวก็เดินทางมายังเมืองที่ชินจังพักผ่อน และได้ใช้ไทม์แมชชีนในการเรียกไดโนเสาร์มาในเมือง และเมื่อชินจังไปพบฐานทัพลับเข้า ก็จะถูกสาปให้ใช้ชีวิต 7 วันวนไปไม่มีที่สิ้นสุด และนั่นก็คือที่มาของคำว่า “การเดินทาง 7 วันอันไร้ที่สิ้นสุด” และเป็นการแก้ปัญหา “เวลาในเกมที่จำกัด” ให้กลายเป็นเกมที่เล่นไปได้เรื่อย ๆ และเกมจะจบต่อเมื่อเราแก้คำสาปของดอกเตอร์ได้นั่นเอง
แน่นอนว่าการใช้ชีวิตวนไปใน 7 วันแบบนี้ก็จะมีองค์ประกอบให้ผู้เล่นได้ทำในแต่ละวันจำนวนมาก (จะขอพูดถึงในหัวข้อต่อไป) แต่ที่ผู้เขียนประทับใจที่สุดจริง ๆ ก็คือภายในเกมนี้จะมี Episode (หรือตอน) ให้ผู้เล่นได้พบเจอจำนวนมาก เพียงแต่จุดพีคที่สุดก็คือ Episode เหล่านี้จะไม่ปรากฏออกมาตามลำดับ ทุกอย่างจะเป็นการสุ่มขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นได้ทำอะไรบ้างในแต่ละวัน หรือผู้เล่นอาจจะเผลอไปปลดล็อคบางอย่างผ่านการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ทำให้ผู้เล่นได้พบเจอกับ Episode ที่ไม่เรียงลำดับ แต่กลับไม่ขัดความรู้สึกแต่อย่างใด แถมยังทำให้ผู้เขียนได้ลุ้นด้วยว่าเนื้อหาที่จะได้เจอต่อไปนั้นจะเป็นอย่างไร ทำให้เกมนี้ซึ่งเป็นเกมที่เรียบง่าย เล่นสบาย กลับกลายเป็นเกมที่ทำให้เราได้ลุ้นตลอดเวลาด้วยเช่นกัน
เกมเพลย์สุดชิว ราวกับผู้เล่นได้ไปพักร้อนกับชินจังจริง ๆ
เกมนี้ไม่ได้เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องรีบเร่งทำภารกิจใดภารกิจหนึ่งให้สำเร็จ แต่เป็นเกมที่จะเปิดให้ผู้เล่นได้ออกใช้ชีวิตได้อย่างชิว ๆ ตลอด 7 วันที่วนเวียนไร้สิ้นสุดนี้ โดยในแต่ละวันผู้เล่นจะได้มีโอกาสในการตกปลา , จับแมลง , เก็บผัก และพบเจอกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะคอยเซอร์ไพรส์เราอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผู้เล่นจะได้มีโอกาสบันทึกข้อมูลสิ่งเหล่านี้ลงในสมุดบันทึกของผู้เล่น แถมยังสามารถเลือกบทบรรยายภาพได้ด้วย ถึงแม้จะไม่มีประโยชน์ต่อเกมเพลย์เท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าเป็นกิมมิกเล็ก ๆ ที่น่ารักน่าหยิกไม่น้อย
นอกจากนี้เมื่อผู้เล่นปลดล็อคสถานที่ไปเรื่อย ๆ รวมไปถึงปลดล็อคเนื้อเรื่องไปเรื่อย ๆ ก็จะมีภาระงานอื่น ๆ ให้ได้ทำเพิ่มเติม เช่น การเก็บผักและนำไปขายหรือมอบให้กับร้านค้า , การช่วยสำนักพิมพ์ของเมืองด้วยการถ่ายภาพหาข่าวใหม่ ๆ มาให้กับสำนักพิมพ์นี้ , การตามหาวัตถุดิบต่าง ๆ ให้กับร้านค้าภายในเมือง ซึ่งการกระทำเหล่านี้จะทำให้ชินจังได้รับเงินเล็ก ๆ น้อยมาใช้งานด้วย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้เล่นจะต้องระวังก็คือ ชินจังไม่ใช่เทพ เขาเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งเท่านั้น ทำให้ตัวละครนี้มีเกจความหิวควบคุมไว้ หากผู้เล่นให้ชินจังออกท่องเที่ยวมากจนเกินไปจนเกจความหิวลดลงจนหมด ก็จะถูกพากลับมาบ้าน และทำให้เวลาในวันนั้นของชินจังหายไปถึงครึ่งวันเลยทีเดียว ซึ่งผู้เล่นสามารถหาซื้อขนมให้ชินจังกินเพื่อประทังความหิวได้เช่นกัน
ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ
บทสรุป
ผู้เขียนยอมรับเลยว่าเกม Shinchan: Me and the Professor on Summer Vacation -The Endless Seven-Day Journey- เป็นเกมที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้ผู้เขียนได้ไม่น้อยเลยทีเดียวในแง่คุณภาพของเกมที่ทำออกมาได้ดีไม่แพ้เกมอื่น ๆ ที่มีในตลาดตอนนี้ อีกทั้งยังเป็นเกมฟิลล์กู๊ดที่ผู้เล่นสามารถค่อย ๆ เล่นได้ ไม่ต้องรีบเร่งราวกับผู้เล่นได้ออกไปท่องเที่ยวกับชินจังจริง ๆ ทำให้เกมนี้เป็นเกมที่เหมาะสมกับเกมสไตล์แคชชวล เล่นสบาย เป็นอย่างมาก - 9
9
คะแนน
ระบบเกมที่หลากหลายให้ผู้เล่นได้ใช้งานแบบไม่ต้องเร่งรีบ ระบบ Episode ที่ไม่เรียงลำดับ แต่กลับไม่ขัดใจแต่อย่างใด แต่อาจจะไม่เหมาะสมกับผู้เล่นที่ชอบเล่นเกมตื่นเต้นเท่าไหร่นัก แต่ถ้าใครชอบเกมที่เรียบง่ายสบาย ๆ เกมนี้คือคำตอบครับ