แนวการปั้น Necromancer ให้พร้อมลุยทั้ง PVP และ PVE ใน Diablo Immortal

ถึงเวลาปลุกศพให้สะเทือนสนามรบ
ดาวน์โหลดเกมได้ที่นี่

หากคุณสงสัยว่า Necromancer จะฉายแสงบนสนามรบแบบ PVP และ PVE ได้หรือไม่ ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านได้ลองมาติดตามบทความนี้ดูครับ เพราะในวันนี้ผู้เขียนได้นำแนวการปั้นให้พร้อมลุย PVP และ PVE มาให้ผู้อ่านได้ทดลองนำไปใช้งานกัน
ต้องบอกก่อนว่าคลาส Necromancer ของ Diablo Immortal มีความยืดหยุ่นอย่างมาก แม้ว่าจะมีความคล่องตัวต่ำ แต่คลาสนี้ก็ชดเชยด้วยสกิลที่หลากหลาย โดยเฉพาะสกิลที่ปลุกศพขึ้นมาช่วยต่อสู้ ซึ่งสกิลของคลาสนี้ครอบคลุมหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีระยะไกล รวมไปถึงสกิลซัพพอร์ต เป็นต้น

ค่าสถานะที่ดีที่สุดของ Necromancer
Intelligence – ค่าสถานะนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ Necromancer เพราะมันทำให้ผู้เล่นโจมตีได้แรงขึ้นอย่างมาก
Fortitude – จะช่วยเพิ่มเกราะให้ผู้เล่น แต่สิ่งนี้ไม่สำคัญเท่าค่าสถานะนี้จะช่วยให้ผู้เล่นเจาะเกราะศัตรูได้ดีขึ้น
Vitality – ช่วยเพิ่มความถึกทนให้คลาสนี้ยืนได้นานขึ้น

สกิลที่ดีที่สุดของ Necromancer
Soulfire (สกิลหลัก) – ปล่อยลูกไฟเวทมนตร์ใส่ศัตรูที่ระเบิดและสร้างความเสียหาย 25% ของความเสียหายพื้นฐานแก่ศัตรูที่ได้รับผลกระทบจากการระเบิด โดยสกิลนี้จะยืดหยุ่นกว่า Bone Spear ซึ่งสามารถเจาะศัตรูได้ 2 ตัวในคราวเดียว แถม Soulfire จะมีประโยชน์อย่างมากเมื่อเจอศัตรูจำนวนมากพร้อม ๆ กัน
สกิลสำคัญทั้ง 4 สกิล
สกิลที่ 1 – Command Skeletons (ปลดล็อคเมื่อเลเวล 1) – ออกคำสั่งให้นักรบโครงกระดูกสี่คนโจมตีศัตรู
สกิลที่ 2 – Corpse Explosion (ปลดล็อคเมื่อเลเวล 3) – ทำให้ร่างของศัตรูที่ตายแล้วระเบิด
สกิลที่ 3 – Wraith Form (ปลดล็อคเมื่อเลเวล 15) – ให้การเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น 50% ในช่วงเวลาสั้น ๆ
สกิลที่ 4 (เลือกสลับใช้งาน) – Bone Armor (ปลดล็อคเมื่อเลเวล 41) – มอบบัฟป้องกันให้กับคุณและพันธมิตรใกล้เคียง
สกิลที่ 4 (เลือกสลับใช้งาน) – Command Golem (ปลดล็อคเมื่อเลเวล 50) – เรียกโกเลมขนาดใหญ่ที่สร้างความเสียหายมหาศาล
จากเซ็ตสกิลด้านบนนี้จะทำให้ผู้เล่นเอาชีวิตรอดจากศัตรูได้เป็นอย่างดี โดยมีข้อแนะนำก็คือหากเลเวล 15 ผู้เล่นไม่ซีเรียสเรื่องความคล่องตัวก็สามารถข้าม Wraith Form และโฟกัสไปที่ Bone Armor และ Command Golem แทน ในขณะที่อีกแนวทางหนึ่งก็คือผู้เล่นสามารถข้าม Bone Armor หากคุณไม่ต้องการลงทุนในทักษะการป้องกัน
Command Skeletons และ Soulfire เป็นสกิลหลักที่ผู้เล่นจะต้องใช้งานตลอดทั้งเกม อีกทั้งสกิล Corpse Explosion นั้นทรงพลังอย่างมาก (แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการใช้งานเล็กน้อยก็ตาม) โดยสกิลส่วนใหญ่จะมีประโยชน์ในสถานการณ์ PVE อย่างมาก

Gem ที่ดีที่สุดสำหรับ Necromancer
Chained Death – เพิ่มการโจมตีให้กับศัตรูทุกตัวที่ผู้เล่นโจมตี
Freedom and Devotion – ขยายระยะเวลาที่ซัมมอนของผู้เล่นที่อยู่ในสนามรบ
Bloody Reach – เพิ่มพลังของการโจมตีระยะไกลของผู้เล่น และยังมีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะสโลว์
Follower’s Burden – จะบัฟการโจมตีของผู้ติดตามของผู้เล่น รวมไปถึงลดดาเมจที่พวกมันจะได้รับด้วย