[รีวิว] Razer Hammerhead HyperSpeed (PlayStation)
หูฟังไร้สายฟีเจอร์ครบ ชูจุดเด่นในเรื่องของไฟ RGB
สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายจากแบรนด์ Razer แต่อาจจะเบื่อแล้วกับโทนสีดำตัดเขียวที่ใช้งานกันมายาวนาน ตอนนี้ทางแบรนด์ได้มีการเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ในชื่อ Razer Hammerhead HyperSpeed PS รุ่นพิเศษที่ทำออกมาเพื่อให้เข้ากับเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 ส่งผลให้มีการเลือกใช้งานสีขาวสลับกับน้ำเงิน พร้อมฟีเจอร์ ANC และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน จะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้างเราไปดูกันเลย
Design
การออกแบบของ Razer Hammerhead HyperSpeed PS ทำออกมาได้น่าสนใจด้วยความที่ได้รับการปรับเปลี่ยนโทนสีให้เหมาะกับ PlayStation 5 ส่งผลให้จากเดิมโทนสีดำตัดกับเขียวได้ถูกให้กลายมาเป็นขาวตัดกับน้ำเงินแทน ทำให้ส่งผลให้มีความมินิมัลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นปกติที่เราสังเกตเห็นได้นอกเหนือจากโทนสีที่ใช้งาน ยังรวมไปถึงโลโก้ Razer ตรงตัวเคสซึ่งถูกแทนที่ด้วยโลโก้ PlayStation แทน ขณะที่ตัวหูฟังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้ในแต่ละข้างไปจากเดิม ซึ่งในส่วนนี้พอที่จะเข้าใจได้ว่าเป็นการแสดงความเป็นตัวตนเดียวที่พอจะบ่งบอกได้ว่ากำลังใช้งานหูฟังของทาง Razer อยู่นั่นเอง
ตัวหูฟังมีขนาดเล็กและค่อนข้างที่จะน้ำหนักเบาเพียง 53 กรัม ส่งผลให้เราสามารถที่จะสวมใส่เพื่อใช้งานสบายเวลาที่เล่นเกมหรือฟังเพลงเป็นเวลานานได้เป็นอย่างดี พร้อมไฟแสดงผล RGB ที่งสองด้านบริเวณโลโก้ Razer
มาพร้อมกับจุกหูฟังซิลิโคนที่สามารถเปลี่ยนได้ด้วยกัน 3 ขนาด เราสามารถที่จะเลือกใช้งานได้ว่าแบบใดที่เหมาะกับตัวเราและควรที่จะทำตั้งแต่ช่วงแรกที่ใช้งาน เนื่องจากสิ่งนี้ค่อนข้างที่จะสำคัญและหากเลือกไม่ดีจะส่งผลต่ออาการบาดเจ็บขณะใช้งานได้
นอกจากนี้ตัวหูฟังยังรองรับมาตรฐาน IPX4 หมายความว่าเราสามารถที่จะใช้งานได้แบบไม่ต้องเป็นกังวลมากนักว่าจะเป็นรอย เหงื่อและน้ำที่กระเด็นเข้ามาใส่ไม่ใช่ปัญหาหนัก ใช้งานระหว่างการออกกำลังกายได้
Razer Hammerhead HyperSpeed PS มาพรอ้มกับเคสที่ออกแบบมาได้กระทัดรัดและพกพาสะดวก อาจจะไม่ได้เป็นเคสที่เล็กที่สุดแต่สามารถที่จะใส่ไปในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงได้โดยที่ไม่รู้สึกกวนใจ ด้านหน้ามีไฟแสดงสถานะ LED ที่คอยบอกสถานะการชาร์จและแบตเตอรี่ได้ในตัว
การเชื่อมต่อของหูฟังสามารถที่จะทำได้สองรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Bluetooth 5.2 และ Wireless 2.4GHz ซึ่งการเชื่อมต่ออย่างหลังจะต้องทำผ่านดองเกิลที่ให้มาภายในกล่องด้วยเทคโนโลยี HyperSpeed เราสามารถเชื่อมต่อ USB-C ของดองเกิลเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพีซีหรือคอนโซลอย่าง PlayStation 5 ได้เพื่อเชื่อมต่อสัญญาณแบบไม่มีสะดุดพร้อมความหน่วงที่ต่ำ
ในภาพรวมการออกแบบของ Razer Hammerhead HyperSpeed PS ทำออกมาได้น่าประทับใจ แน่นอนว่าไม่ได้ต่างไปจากรุ่นปกติที่มีวางจำหน่ายมาก่อนหน้า แต่ด้วยโทนสีที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ใครที่ชื่นชอบโทนขาวและมี PS5 อยู่กับตัวแล้ว เหมาะมากที่จะนำไปใช้งานคู่กัน
Experience
หลังจากที่ได้ใช้งาน Razer Hammerhead HyperSpeed PS ต้องยอมรับว่าเป็นหูฟังอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้รอบด้าน แม้ว่าหากเราดูจากตัวแบรนด์จะต้องคิดว่าเน้นการเล่นเกมเป็นหลัก ส่วนความบันเทิงด้านอื่นอาจจะไม่ได้เด่น แท้จริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลยเนื่องจากสามารถทำได้ดีไม่แพ้กัน
การเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์อื่นทำได้ไม่ยากเพียงแค่เปิดเคสและนำหูฟังออกมา ตัวหูฟังจะเข้าสู่โหมดจับคู่ทันทีจากนั้นที่อุปกรณ์ปลายทางของเราเพียงแค่เปิด Bluetooth และเลือกจับคู่กับตัวหูฟังเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ ระยะเวลาการจับคู่ถือว่าทำได้ค่อนข้างที่จะเร็วไม่ต้องเปิดและปิดหลายรอบ
จากที่ได้ทดลองใช้งานด้วยการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth พบว่าไม่มีอาการสะดุดหรือหน่วงจากการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหรือหยุดเพลงจาก YouTube สามารถที่จะกดแล้วเสียงเพลงหยุดทันที แตกต่างจากหูฟังรุ่นอื่นที่อาจจะมีอาการหน่วงเล็กน้อยก่อนที่จะหยุดหรือเล่นเพลง อย่างไรก็ตามการสั่งการด้วย gesture จะแตกต่างจากหูฟังรุ่นอื่นเล็กน้อย
ปกติเวลาที่เราแตะที่ด้านนอกของตัวหูฟังหนึ่งครั้งทันทีในหูฟังรุ่นอื่นอาจจะทำการหยุดหรือเล่นทันที แต่สำหรับ Razer Hammerhead HyperSpeed PS จะต้องกดและค้างไว้ประมาณ 0.5 วินาทีถึงจะเป็นการหยุดหรือเล่นเพลง ในจุดนี้นับว่าเป็นจุดที่ส่วนตัวค่อนข้างที่จะชอบเพราะไม่ต้องกังวลว่าเผลอไปแตะแล้วเพลงหยุดเองในบางสถานการณ์
อย่างไรก็ตามระบบการเซ็นเซอร์ที่เอาไว้ตรวจสอบว่าเรากำลังใช้งานหูฟังอยู่หรือไม่ ไม่ได้มีมาภายในหูฟังรุ่นนี้ฉะนั้นหากเราถอดหูฟังออกขณะที่ฟังเพลงอยู่ เพลงจะยังคงเล่นต่อไปไม่ได้หยุดทันทีเมื่อถอดหูฟัง เช่นเดียวกันหากเราสวมหูฟังขณะที่เพลงไม่ได้เล่นอยู่ เมื่อสวมแล้วจะต้องกดปุ่มเล่นหรือแตะที่ตัวหูฟังเพื่อที่จะเล่นเพลงที่ต้องการ
ขณะที่การเชื่อมต่อผ่าน Wireless 2.4GHz ต้องมีการเชื่อมต่อดองเกิล USB-C เข้าไปกับตัวอุปกรณ์ที่ต้องการใช้งานเสียก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ เมื่อเสียบแล้วตัวหูฟังจะจับสัญญาณให้เองไม่ต้องไปทำการตั้งค่าใด ๆ อย่างเช่นเสียบเข้ากับ PS5 เพื่อใช้งานหูฟัง จากการทดสอบหากเป็นการเชื่อมต่อเข้ากับดองเกิลจะมีระยะที่ไกลและความหน่วงที่ต่ำกว่าแบบ Bluetooth ประมาณหนึ่ง
ฟีเจอร์ที่ให้มาภายในหูฟังรุ่นนี้ยังมีในเรื่องของ Active Noise Cancellation ที่จะทำให้ตัดเสียงรบกวนภายนอกเวลาที่ใช้งานได้ค่อนข้างที่จะดี หรือหากต้องการรับเสียงข้างนอกเข้ามาด้วยเผื่อว่าอยู่ในที่ทำงานและเพื่อนร่วมงานเรียก เราสามารถเปิดโหมด Ambient เพื่อที่จะรับรู้ถึงเสียงภายนอกได้ดียิ่งขึ้น จากที่ทดสอบหากเปิด ANC เสียงภายนอกที่จะเข้ามาอยู่ที่ราว 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่หากเปิด Ambient จะมีเสียงเข้ามาและรับรู้ได้อยู่ที่ราว 60 เปอร์เซ็นต์
การปรับแต่งหูฟังสามารถที่จะทำได้ผ่านการใช้งานแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดได้จาก Play Store และ App Store ในชื่อ Razer Audio ภายในเราสามารถที่จะทำการปรับแต่งโหมดการใช้งานได้ไม่ว่าจะเป็น ANC และ Ambient รวมไปถึงการตั้งค่าการแสดงผลของไฟ RGB ที่ทำได้หลากหลายและปรับแต่งสีที่ต้องการได้ แน่นอนว่าการ Remap คำสั่ง gesture ทำได้เช่นเดียวกันตามความถนัดเวลาที่ใช้งานจริง
แบตเตอรี่จากที่ได้ทดสอบเปิดเพลงผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth และปิดไฟ RGB แต่เปิดโหมด ANC และ Ambient สลับกันไป ระดับเสียงอยู่ที่ราว 30 เปอร์เซ็นต์ พบว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นาน 8 ชั่วโมงโดยประมาณ และต้องบอกก่อนว่าแบตเตอรี่แต่ละข้างแยกออกจากกันชัดเจน ขณะที่หากใช้งานร่วมกับเคสตามตัวเลขพบว่าใช้งานได้อยู่ที่ราว 30 ชั่วโมงโดยประมาณ การเปิดไฟ RGB จะลดอายุแบตเตอรี่ลงมาตามลำดับ
Conclusion
โดยสรุป Razer Hammerhead HyperSpeed PS เป็นหูฟังที่ยังคงเอาไว้ซึ่งประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อไร้สายที่ใช้งานได้ทั้งผ่าน Bluetooth และ Wireless ที่มีความหน่วงต่ำ มีโหมด ANC และ Ambient ที่ใช้งานได้จริงในสถานการณ์ที่จำเป็น พร้อมแบตเตอรี่อึด ใช้งานได้เต็มเวลาทำงาน ด้วยราคา 5,490 บาท หากใครที่มองหาหูฟังทางเลือกจากแบรนด์ Razer ในโทนสีที่ต่างไปจากเดิมแต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพต้องลอง
ข้อดี
– การเลือกใช้งานโทนสีใหม่ที่แปลกตาแต่คงไว้ซึ่งความมินิมัลในตัว
– การเชื่อมต่อที่มีค่าความหน่วงต่ำรองรับทั้ง Bluetooth 5.2 และ Wireless 2.4GHz ด้วยเทคโนโลยี HyperSpeed
– รองรับการใช้งานการควบคุมแบบ gesture ผ่านหูฟัง ไม่ต้องเสียเวลาหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาปรับ
– น้ำหนักเบาพร้อมใช้งานวัสดุที่ทนทานรองรับมาตรฐาน IPX4
– มีไฟ RGB ภายในตัวใช้งานที่ไหนล้วนโดดเด่นเหนือกว่าใคร
– แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 8 ชั่วโมงพร้อมรองรับการชาร์จผ่านเคสที่ทำให้ใช้ได้นานถึง 30 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
– หากต้องการเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลหรือสีของไฟ RGB จะต้องทำผ่าน Razer Audio บนสมาร์ทโฟนเท่านั้น
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Razer แห่งประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง Razer Hammerhead HyperSpeed PS มาให้เราได้ทำการทดสอบใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ [คลิก]