[รีวิว] Sifu (เวอร์ชั่น PS5) – อาตี๋เดือด ตะลุยแก๊งเถื่อน
Sifu เกมแอ็กชั่นผจญภัยที่พร้อมเติมเต็มประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหล คมชัด
Sifu เป็นเกมแอ็กชั่นผจญภัยจากผู้พัฒนา Absolver ที่ผู้เล่นจะได้ออกเดินทางเพื่อแก้แค้นให้กับเตี่ยที่โดนสังหารไปต่อหน้าต่อตา ผู้เล่นจะได้ออกเดินทางต่อสู้กับศัตรูเพื่อล้างแค้นในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ตรอกอันธพาล หรือบริษัทวายร้ายที่จะมีนักสู้รอปะทะอยู่ตามทาง ทว่าหากเราพลาดท่าไปก็จะต้องเสียเวลาในชีวิตด้วยเพราะตัวเอกจะแก่ขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามนอกจากกำปั้นแล้วยังมีอาวุธและวิธีพลิกแพลงการต่อสู้อื่น ๆ เช่น โยนศัตรูให้ตกจากหน้าผา และระบบ Skill เป็นต้น
ในโอกาสนี้ Sifu ได้เปิดให้ผู้เล่นได้สนุกกันบนแพลตฟอร์ม PlayStation ด้วย (ทั้ง PS4 และ PS5) และในวันนี้ผู้เขียนก็ได้มีโอกาสเล่นเกม Sifu บน PS5 แล้ว และก็ไม่พลาดที่จะมารีวิวประสบการณ์การเล่นเกมนี้บน PS5 ให้ผู้อ่านได้ติดตามกันครับ
อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 และเป็นการรีวิวในวันที่ 11-15 พฤษภาคม 2565 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีแพทช์ออกมาแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้
ปลดปล่อยกังฟูที่ลื่นไหล คมชัดแบบเต็มตาในระดับ 4K
ประเด็นแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ กราฟิกภายในเกมเวอร์ชั่น PS5 นั้นคมชัดมาก ๆ เพราะผู้เล่นจะได้เล่นเกม Sifu ในระดับ 4K ทำให้ทุกท่วงท่าที่เราจะได้เห็นบนหน้าจอนี้คมชัดทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นโมเดลตัวละครต่าง ๆ โมเดลของสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ต้นไม้ เป็นต้น รวมไปถึงพื้นผิวของฉากทั้งหมดตั้งแต่พื้นไปจนถึงเพดานเรียกได้ว่ามองได้ชัดเจนเต็มตา ไม่เสียอรรถรสเลยทีเดียว
นอกจากนี้ความลื่นไหลของเกม Sifu เวอร์ชั่น PS5 ก็ทำให้การปลดปล่อยท่วงท่าของกังฟูนั้นทำได้เนียนตาเป็นอย่างมาก และด้วยความที่เกม Sifu เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องจับจังหวะการโจมตีและทำการหลบหลีกหรือปัดป้องการโจมตีเพื่อช่วงชิงจังหวะความได้เปรียบ อีกทั้งในหลาย ๆ ครั้งศัตรูไม่ได้มาเพียงตัวเดียว แต่พวกมันพร้อมมารุมเรา 5-6 ตัวพร้อม ๆ กัน และศัตรูบางตัวจะมีจังหวะการโจมตีที่แปลกไปกว่าศัตรูตัวอื่น ๆ ที่ผู้เล่นจะต้องสังเกต จดจำ และจับจังหวะให้ดี และด้วยสาเหตุเหล่านี้เองทำให้ความลื่นไหลในการเล่นกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญไปโดยปริยาย ฉะนั้นการที่เกมเวอร์ชั่น PS5 สามารถส่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลให้ผู้เล่นได้ก็ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อยครับ
ปรับความยากได้ เล่นไม่ถนัดก็สนุกได้
ระบบนี้ได้ถูกเพิ่มเข้ามาภายในเกมในช่วงหลังครับ โดยเกมเวอร์ชั่น PS5 ได้รับอานิสงส์ไปด้วย ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกระดับความยากของการเล่นเกมได้ทันทีตั้งแต่เริ่มเกม โดยหากจะพูดให้เข้าใจง่ายก็คือความยากของเกมตั้งแต่เริ่มจะอยู่ระดับปกติ (Disciple) ในขณะที่ผู้เล่นสามารถปรับให้ศัตรูนั้นอ่อนแอลงได้ในระดับง่าย (Student) และเพิ่มความโหดของศัตรูให้โหดสะใจขึ้นได้ในระดับยาก (Master) อีกด้วย
สำหรับผู้เขียนที่ได้ลองเล่นทั้ง 3 โหมดก็ยอมรับว่าระดับที่เล่นได้ลื่นไหลที่สุด และไม่ตึงมือจนเกินไปสำหรับผู้เล่นเริ่มแรกก็คือระดับ Disciple นั่นเอง เพราะว่าในระดับง่ายนั้นศัตรูก็อ่อนแอเกินไป ไม่ได้มีความท้าทายเท่าไหร่นัก ในขณะที่ระดับยากนั้นน่าจะเหมาะกับผู้เล่นที่เคยเล่นเกมนี้จบในระดับ Disciple อย่างน้อย 2 รอบ เพราะศัตรูโหดมาก ฉะนั้นการจดจำแพทเทิร์นการโจมตี รวมไปถึงไหวพริบในการปัดป้อง หลบหลีก และโจมตีต้องใช้ในระดับสูงเลยทีเดียว
เติมเต็มประสบการณ์การต่อสู้ให้ถึงขีดสุดด้วยคุณสมบัติของ DualSense
DualSense ถือได้ว่าเป็นคอนโทรลเลอร์ที่เป็นตัวชูโรงของ PS5 เลยก็ว่าได้ครับ และแน่นอนว่าเกม Sifu มาลง PS5 ทั้งทีจะไม่ใช้ระบบของจอย DualSense เลยก็คงไม่ใช่ ซึ่งในเกมนี้ผู้พัฒนาเกมได้ใช้องค์ประกอบของจอยออกมาได้ค่อนข้างดี
อย่างแรกเลยก็คือ การสั่นของจอยที่ละเอียดมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสั่นเบา ๆ แต่ถี่ ๆ ในช่วงคัทซีนที่มีฝนตกอยู่ รวมไปถึงทุกครั้งที่มีการปะทะกันของหมัดมวยจอยก็จะสั่นไปตามจังหวะการต่อสู้ด้วย ทำให้การเล่นเกมนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในฉากต่าง ๆ จะมีองค์ประกอบฉากจำนวนมากที่ถูกทำลายได้เพียงแค่เราเดินไปชน ซึ่ง DualSense ก็จะสั่นไปตามวัตถุที่ถูกทำลายด้วย
ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมเวอร์ชั่นนี้ที่ 8 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ
สุดท้ายนี้ ทีมงาน This is Game Thailand ต้องขอขอบคุณทาง Ripples ที่เอื้อเฟื้อเกมดีๆ เกมมันส์ๆ มาให้พวกเราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยนะครับ
บทสรุป
Sifu เวอร์ชั่น PS5 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่ผู้เล่นควรเล่นด้วยภาพที่คมชัด ลื่นไหล และเติมเต็มความมันส์ด้วยจอย DualSense อย่างไรก็ตามองค์ประกอบของ PS5 ที่ถูกนำมาใช้ภายในเกมนั้นก็ยังถือว่าไม่ได้แตกต่างไปจากเวอร์ชั่น PC เท่าไหร่นัก หากผู้อ่านคนใดที่มีเกมเวอร์ชั่น PC อยู่แล้วก็อาจจะไม่ต้องซีเรียสมากนักก็ได้ครับ - 8
8
คะแนน
เกมเพลย์แอ็กชั่นมันสะใจ ที่มาพร้อมกระบวนท่ากังฟูลื่นไหลสวยงาม งานระดับ 4k ระบบของจอย DualSense ที่ทำออกมาได้ดี แต่มุมกล้องหลาย ๆ ครั้งทำให้เกิดมุมอับ เล่นลำบาก ใตรเคยเล่นบน PC แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเงินมาซื้อบน PS5 อีกก็ได้ครับ