XIII Remake เป็นการรีเมคเกม FPS ในปี 2003 และเป็นการดัดแปลงจากนวนิยายกราฟิกเบลเยี่ยม 5 เล่มที่มีชื่อเดียวกันโดย William Vance และนักเขียน Jean Van Hamme โดยเกมนี้ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น XIII ชายผู้ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับตัวตนของเขา และพยายามค้นหาความจริงเกี่ยวกับการก่อการสมรู้ร่วมคิดครั้งใหญ่ในเกมเพลย์ FPS กราฟิกเซลเฉดสดใส ที่จะพาคุณหวนคืนสู่อดีตอันหอมหวาน
และในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปติดตามเรื่องราวสุดเข้มข้นใน XIII Remake เรียบร้อยแล้ว และก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ผู้อ่านได้ติดตามกันครับ
อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 ระหว่างวันที่ 15 – 17 กันยายน 2565 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้
นำเสนอด้วยกราฟิกเซลเฉด ผสมผสานกับการเล่าเรื่องแบบนิยายภาพ
สิ่งแรกที่ผู้เขียนได้เห็นภายในเกมนี้ก็คือ กราฟิกแบบเซลเฉดที่หลาย ๆ เกมสมัยนี้นิยมใช้ ซึ่งเกม XIII Remake ก็ไม่พลาดที่จะใช้กราฟิกสไตล์นี้มาให้เราได้เล่นกันด้วย เพราะในเกมเวอร์ชั่นต้นฉบับก็ใช้กราฟิกสไตล์เซลเฉดเช่นนั้น ซึ่งก็เรียกได้ว่าเกมดังกล่าวไม่ได้ทิ้งกลิ่นอายของตนเอง แต่ได้ใช้การอัปเกรดเกมให้ดูดีมากยิ่งขึ้น โดยที่ยังคงความเป็นตัวเองไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าผู้เล่นที่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนในเวอร์ชั่นต้นฉบับจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน
สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกประทับใจมากขึ้นก็คือ การนำเสนอการเล่าเรื่องแบบนิยายภาพ ที่เราจะได้เห็นตัวละครพูดคุยกันโดยมีแถบข้อความปรากฎขึ้นราวกับเรากำลังอ่านหนังสือการ์ตูน รวมไปถึงมีการใช้การแบ่งช่องคล้ายกับหนังสือการ์ตูนที่เราพบเจอได้ในปัจจุบัน รวมไปถึงมีการใส่ตัวอักษรประกอบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกชอบการนำเสนอเกมในรูปแบบนี้มากยิ่งขึ้นก็คือ ระหว่างที่ผู้เล่นกำลังเล่นนั้น หลาย ๆ ครั้งจะปรากฏช่องการ์ตูนขึ้นมาที่ด้านข้าง เพื่อบอกว่าสถานการณ์โดยรอบนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง เช่นในขณะที่เรากำลังซ่อนตัวเราจะได้เห็นภาพของเจ้าหน้าที่โดนไล่ยิง หรือบางครั้งในขณะที่เรากำลังเปิดประตู จะปรากฏช่องการ์ตูนขึ้นมาเพื่อโชว์ให้เห็นว่ามีศัตรูกำลังวิ่งมาดักรอเราอยู่ที่ประตูบานดังกล่าว ซึ่งในเกมอื่น ๆ จะนำเสนอเป็นเสียงประกอบเท่านั้น และแน่นอนว่าองค์ประกอบนี้ทำให้เกมน่าสนใจขึ้นเป็นอย่างมาก
เกมเพลย์ที่หลากหลาย ศัตรูที่ฉลาดเกินไป หรือบางทีก็มึนเกินไป
ภายในเกม XIII Remake ไม่ได้มีแค่การถือปืนไล่ยิงศัตรูแบบแรมโบ้เท่านั้น แต่ภายในเกมนี้ยังจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ลอบสังหารศัตรูภายในฉากแบบเงียบ ๆ ด้วย รวมไปถึงในหลาย ๆ ครั้งผู้เล่นจะได้เน้นไปที่การสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเพื่อไขปริศนา และหาทางไปต่อให้ได้ เช่นการค้นหากุญแจที่ซ่อนอยู่ภายในห้องเป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าการผสมผสานเกมเพลย์ทั้ง 3 รูปแบบเข้าด้วยกันนี้ ทำให้เกมดังกล่าวมีรสชาติที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกลำบากในการเล่นอยู่พอสมควรก็คือ A.I. ของเกมที่ดีรับการปรับปรุงให้ดีขึ้น จนผู้เขียนรู้สึกเหมือนว่า A.I. มันจะฉลาดเกินไป ตัวอย่างที่ผู้เขียนพบเห็นได้ง่าย ๆ ก็คือการที่ผู้เล่นกำลังย่อตัวเดินไปเรื่อย ๆ ศัตรูกลับรู้ซะงั้นว่าเราอยู่ที่มุมไหน หรือในขณะที่เรากำลังมุดช่องระบายอากาศอยู่ ศัตรูจะวิ่งมาดักรอเราที่ทางออกทันที หรือแม้กระทั่งช่วงที่เรากำลังย่องไปหลังศัตรู เหมือนศัตรูจะรู้ตัวตลอดเวลา และจะชอบหันมาป๊ะกับเราอยู่เสมอ ทำให้การเล่นแบบลอบเร้นนั้นไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อย
แต่ในทางกลับกัน A.I. ศัตรูกลับมึนเอาง่าย ๆ เมื่อสู่ช่วงดวลปืน โดยเราจะได้ยินศัตรูตะโกนบอกว่า Alert แทบจะตลอดราวกับว่าพวกมันถูกสอนมาให้พูดอยู่แค่คำเดียวเวลาเจอผู้เล่น ในขณะเดียวกันจังหวะการยิงปืนของศัตรูก็แอบทำงงอยู่ไม่น้อย เพราะว่าเราจะได้เห็นศัตรูยืนเอาปืนจ่อผู้เล่นนิ่ง ๆ อยู่บ่อยครั้ง จนทำให้ผู้เล่นสามารถเอาปืนจ่อหัวพวกมันได้ง่าย ๆ ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่า A.I. เกมนี้แอบแปลก ๆ อยู่ไม่น้อย
ภาพรวมการ Remake ที่ทำได้ดี แต่ยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน น่าจะทำได้ดีกว่านี้
ต้องยอมรับว่าเมื่อพูดถึงเกม Remake เราก็คาดหวังว่าเกมจะถูกยกเครื่องสร้างใหม่ให้กลายเป็นเกมที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่ในส่วนของกราฟิกที่ดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเกมเพลย์ต่าง ๆ และองค์ประกอบปลีกย่อยอีกมากมาย ซึ่งเกม XIII Remake นี้เป็นอีกเกมที่ผู้เขียนรู้สึกว่าอยู่ในระดับ Remaster เท่านั้น เพราะนอกเหนือจากกราฟิกที่ดีขึ้นในระดับหนึ่ง (แต่ก็ยังไม่ดีเพียงพอเท่ากับเกมสมัยนี้) องค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมนั้นยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร
ตัวอย่างที่ผู้เขียนได้สัมผัสเองเช่น การยิงปืนใส่ศัตรูที่เมื่อเรายิงใส่ศัตรูแล้ว แทนที่ศัตรูจะมีอาการบางอย่างเกิดขึ้นเช่น ถอยหลังเล็กน้อย หรือมีอาการสะดุดบ้าง (หรืออย่างน้อยมีเจ็บหัวไหล่แบบหนังไทยบ้างก็ได้) แต่ A.I. เกมนี้กลับยืนนิ่งเฉยราวกับไม่มีเกิดอะไรขึ้นเลย ซึ่งจุดนี้เองทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่า Impact ของการยิงปืนนั้นลดลงไปอย่างมาก นอกจากนี้ผู้เล่นยังได้เห็นภาพแปลก ๆ ภายในเกมอีกมากมาย เช่นการถือปืน 2 มือปีนขึ้นลงบันไดลิงแบบชิลล์ ๆ , การที่ผู้เล่นยืนอยู่ห่าง ๆ ก็รูดบัตรเปิดประตูได้ รวมไปถึงสะเดาะกุญแจแบบ Bluetooth ซึ่งทำให้ผู้เขียนยังไม่กล้าเรียกเกมนี้ว่าเป็นเกม Remake จริง ๆ
เนื้อเรื่องที่เข้มข้น ที่สามารถชดเชยจุดอ่อนได้ แต่ก็ไม่ทั้งหมด
แม้ว่าเกมนี้จะมีแผลอยู่เยอะก็ตาม แต่สิ่งที่ผู้เขียนต้องขอยกนิ้วให้จริง ๆ ก็คือการถ่ายทอดเนื้อหาที่เข้มข้นออกมาได้ดีเพราะเกมนี้ได้ดัดแปลงจากนวนิยายกราฟิกเบลเยี่ยม 5 เล่มที่มีชื่อเดียวกันโดย William Vance และนักเขียน Jean Van Hamme ซึ่งภายในเกมนี้ผู้เล่นจะได้เล่นเป็น XIII ชายผู้ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับตัวตนของเขาที่ฟื้นขึ้นมาบนชายหาด และพยายามค้นหาความจริงเกี่ยวกับการก่อการสมรู้ร่วมคิดครั้งใหญ่ ติดตาม XIII ในการค้นหาตัวตนของเขาผ่านเนื้อเรื่องที่น่าตื่นเต้น
ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 6.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ
ดท้ายนี้ ทีมงาน This is Game Thailand ต้องขอขอบคุณทาง Ripples ที่เอื้อเฟื้อเกมดีๆ เกมมันส์ๆ มาให้พวกเราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยนะครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…
เว็บไซต์ทางการ : https://www.microids.com/game-xiii
บทสรุป
XIII Remake เรียกได้ว่าเป็นเกมที่จะพาผู้เล่นหวนไปสู่อดีตที่แท้จริงด้วยกราฟิกที่สวยงามขึ้น แต่ยังองค์ประกอบที่ทำให้เอ๊ะอยู่ไม่น้อย ซึ่งผู้เขียนแอบมองว่าหากเป็น Remake จริง ๆ น่าจะทำออกมาได้ดีกว่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างมาก ฉะนั้นหากผู้อ่านคนใดกำลังลังเลว่าจะซื้อเกมนี้มาเล่นดีหรือไม่ อยากให้มองข้ามเรื่องเกมเพลย์หรือเรื่องจุกจิกไป และเสพย์เนื้อเรื่องที่เข้มข้นก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าในระดับหนึ่งครับ - 6.5
6.5
คะแนน
กราฟิกที่สดใสสวยงาม มีโหมดออนไลน์ให้ได้เล่นแก้เบื่อ เนื้อเรื่องน่าติดตาม แต่หลาย ๆ องค์ประกอบยังทำออกมาได้ไม่ดีนักและศัตรูพูดแต่คำว่า Alert จนเบื่อ...