หมายเหตุ: ตัวเกมที่ได้รับการรีวิวอ้างอิงมาจากเวอร์ชัน Nintendo Switch ประสบการณ์ที่ได้รับอาจแตกต่างกันตามแพลตฟอร์มของผู้ใช้งาน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศแห่งการต่อสู้ในงาน EVO 2024 ทาง SNK ก็ได้ฤกษ์เปิดม่านโชว์ SNK vs. Capcom: SVC Chaos ที่กลับมาวางจำหน่ายใหม่ในรอบ 20 ปีเสียที
เล่นเอาเช้าวันนั้นผมถึงกับตื่นเต้นตาสว่างกันตั้งแต่เปิดมือถือ แต่ยิ่งกรี๊ดสลบเข้าไปใหญ่เมื่อรู้ว่าโอ้โหพี่แกเปิดตัวปุ๊บ ขายในวันถัดมาเลย แน่นอนว่าคนที่โตมากับบรรยากาศร้านเกมก็พลาดไม่ได้ที่จะนำความประทับใจมาแบ่งปันเพื่อนๆ ในรีวิวนี้กัน ซึ่งจะเป็นไงบ้างขอเชิญติดตามเลยครับ
แม้จะเป็นเกมต่อสู้แต่มีเรื่องราวที่ดุดันมากกว่าที่เคย
หากพูดถึงเกมครอสโอเวอร์ของทั้งสองค่ายนี้ในผลงานเก่าๆ เริ่มจาก Capcom VS. SNK จะพบว่าเนื้อเรื่องและโทนของเกมนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงด้วยเรื่องราวที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่เคย เพราะเกมนี้มีฉากหลังเป็นโลกที่ถูกทำลายล้างและนักสู้ทั้งหมดได้ถูกดึงเข้ามาอยู่ในมิติแห่งความเป็นและความตาย และพวกเขาทั้งกว่า 30 คนต้องห้ำหั่นกันเองเพื่อหาผู้ชนะที่จะคืนสมดุลสู่โลกมนุษย์ เช่นเดียวกับรับพรวิเศษของ Athena และ Red Armorer สองเทพเจ้า
สังเกตจากแว๊บแรกจะพบว่าเกมดูดุดันไม่เกรงใจใครทีเดียว เริ่มตั้งแต่การปรับ ‘เลือด’ ใช่ครับ! เกมนี้มีการแสดงผลเลือดในบางท่าต่อสู้ด้วย แต่ก็ไม่ได้โหดเหี้ยมถึงขั้นฉีกเนื้อกันเป็นชิ้นๆ แบบ Samurai Shodown กระนั้นก็ยังถือว่าดูแปลกตา นอกจากนั้นแล้วฉากในการต่อสู้จะพบว่ามันดูรกร้าง เช่นเมืองที่ล่มสลายหรือในป่า ไม่ได้มีบรรยากาศของการแข่งขันเพราะเป็นโลกที่ไม่มีอะไรเหลืออยู่ เน้นแฟนตาซีล้วนๆ จุดนี้ในการวางจำหน่ายครั้งแรกอดแซวไม่ได้ครับว่าหลายปีก่อนหลายคนมองว่ามันดูชืดทีเดียวเมื่อเทียบกับสไปรต์ตัวละครที่สดใสของเกมจากฝั่ง Capcom
SNK vs. Capcom: SVC Chaos เป็นผลงานที่มีแฟนเซอร์วิสเพียบ
แม้เกมนี้แต่เดิมจะถูกพัฒนาออกมาในช่วงที่ SNK เจอกับสถานการณ์วิกฤตครั้งใหญ่ แต่รายละเอียดที่ใส่มาให้เราได้ติดตามในเกมมันเยอะมากครับ ซึ่งถึงเราจะไม่เห็น Cameo ตามฉากแบบเกมเก่าๆ ทว่าก็สัมผัสถึงการพยายามใส่คอนเทนต์มาให้แบบคุ้มค่า เริ่มตั้งแต่ไลน์อัปตัวละครที่มีให้เลือกถึง 32 นักสู้ และมีตัวละครพิเศษที่เป็นร่างโหดอีก 4 นักสู้รวมเป็น 36 ถือว่าเยอะมากๆ และมีความหลากหลายในระดับหนึ่งเลยครับ เท่านั้นไม่พอถ้าว่าตามตรงผมชอบแคสต์นี้มากกว่าเกมเก่า
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าทีม SNK ทำการบ้านมาดีชนิดที่ว่า SNK vs. Capcom: SVC Chaos ผสมเกมหลายแฟรนไชส์มากทั้ง Rockman, Red Earth และ Metal Slug ยังเอามาใส่ คิดดู! จากปกติแล้วเกมครอสโอเวอร์ชุดนี้มักโดนสบประมาทว่านี่มันคือ Street Fighter VS. The King of Fighters ซึ่งเกมนี้ก็เช่นกัน แม้ตัวหลักๆ จะเป็นสองเกมข้างต้นเสียส่วนใหญ่ (จตุรเทพรวมเวก้ามาครบ) ทว่าพอมีตัวละครอื่นมาแซมมันโคตรฟินที่ได้เห็นนักสู้เหล่านั้นโผล่มาให้เราได้แลกหมัดกับพวกตระกูลไฟต์เตอร์ ความเจ๋งกว่านั้นคือ Darkstalker ไม่ได้ใช้ตัวเลือกหลักแบบเจ๊ Morrigan เพราะเอา Demitri มาเลย ส่วน Athena เป็นเวอร์ชันเทพธิดานุ่งน้อยห่มน้อย ไม่มีแล้วสาวพลังจิต
ความละเอียดลออในการทำงานยังรวมไปถึงการทำให้ทุกตัวละครมีความสัมพันธ์ต่อกันและกัน เพราะทั้ง 36 ตัวละคร (รวมแก๊งร่างโหด – ร่างที่สติหลุด) จะมีฉากพูดคุยตอนเริ่มสู้ – หลังสู้ ในแบบเฉพาะ ทำให้เราเห็นถึงความสนิทสนมของ Chun-Li และ Guile หรือบางคนอาจจะเจอกับ Iori ร่างมารโอโรจิที่พูดจาไม่รู้เรื่องพร้อมจะฟาดฟันคู่ต่อสู้อย่างเดียวจนถึงกับเหวอ ตรงนี้ขอปรบมือให้จริงๆ ครับ ว่าแล้วอดเสียดายไม่ได้ที่เกมน่าจะมีตัวละครมากกว่านี้
ระบบการเล่นเข้าใจง่าย แต่ฝึกจนเชี่ยวชาญได้ยาก
ความแตกต่างจากผลงาน Capcom VS. SNK ก็คือเกมนี้ไม่ได้ใช้ระบบทีมเหมือนกับเกมสองภาคนั้น แต่จะเป็นแบบเดียวกับภาค The Match of the Millenium ที่เป็นเวอร์ชัน SD ใน Neo Geo Pocket (ซึ่งก็ได้รับการพอร์ตมาแล้วเหมือนกัน) นั่นคือการต่อสู้แบบ 1v1 และด้วยความที่ภาคนี้เป็น SNK ที่ทำหน้าที่พัฒนา ดังนั้นผังปุ่มจะอ้างอิงจากเกม Neo Geo คือ ‘ต่อยเบา กับ ต่อยแรง’ และ ‘เตะเบา กับ เตะแรง’ นั่นหมายความว่าทีนี้ตัวละครฝั่ง Capcom เช่นแก๊ง Ryu, Chun-Li และ Ken จะต้องเรียนรู้ท่าต่อสู้กันใหม่เล็กน้อย ทั้งนี้ก็โชคดีที่มีเมนูสอนกดท่าที่ Pause ดูได้ตลอด
แต่ความสนุกของเกมจะอยู่ที่การใช้ท่าไม้ตาย โดยนำเสนอระบบเกจท่าไม้ตายเพียงอย่างเดียวคือ Groove Power ที่จะเพิ่มเกจไปเรื่อยๆ ระหว่างที่เราต่อสู้ตามเลเวล 1, 2 และ Max ที่ใช้ท่าไม้ตายก็จะเสีย 1 เลเวล อย่างไรก็ตามเมื่อถึง Max แล้วจะสามารถปลดล็อกความสามารถในการแคนเซิลท่าต่างๆ ได้ เราจึงพบว่าเป็นเกมที่เอื้อต่อการทำคอมโบแบบไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวมากแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะกันไม่ได้เสียทีเดียว และท้ายที่สุดจะมีท่าไม้ตายที่เรียกว่า Exceed เป็นท่าพิเศษที่ออกมาได้ตอนพลังเหลือน้อย
อย่างไรเสียปัญหานั้นจะอยู่ที่บาลานซ์ที่ผมคิดว่าไม่ค่อยโอเค โดยกลุ่มตัวละครลับแถวหน้าเช่น Rockman Zero หรือ Goenitz มันโหดจนเกินไปราวกับปรับสมดุลมาแค่ 24 นักสู้หลัก เพราะท่าบางท่าเล่นกินฮิตบ็อกซ์กันแบบครึ่งหน้าจอ ใจนึงก็หัวร้อนอีกใจก็ฮา ซึ่งถ้าเล่นขำๆ ก็พอได้ และคนที่เล่นแบบแคชวลอาจจะไม่คิดอะไรมากด้วยซ้ำ แต่ถ้าเข้าสู่วงการ Competitive อาจจะต้องวางกลยุทธ์กันสักหน่อยเพราะกิมมิคเกมนี้ถึงจะเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ทว่าด้วยธรรมชาติของเกมต่อสู้มันคือการลองใจคนอยู่แล้วนั่นเอง
ปรับปรุงใหม่พร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติม
เกมนี้เป็นการพอร์ตในรูปแบบที่ได้รับการสนับสนุนแบบเต็มตัวจากทั้งสองฝั่ง โดย CAPCOM เองก็ได้ทำอาร์ตเวิร์กใหม่เป็นภาพปกของเกมมาให้ ขณะเดียวกัน SNK ก็ดูแลการจัดจำหน่ายและการปรับปรุงคุณภาพโดยรวม เริ่มจากหน้าเมนูใหม่ที่ใช้งานได้ง่ายขึ้นและแบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจนว่ากลุ่มโหมดออนไลน์ – ออฟไลน์ ซึ่งส่วนออนไลน์มีล็อบบี้ให้รองรับผู้เล่นมากถึง 8 คน ให้ทำทัวร์นาเมนต์ย่อมๆ ได้ในตัว (โคตรเจ๋ง) แถม Rollback Netcode ยังช่วยให้การเล่นมันราบรื่นมากๆ
ความดีงามก็คือตัวละครลับทั้ง 12 คนนั้นสามารถปลดล็อกได้ตั้งแต่ต้น ไม่ต้องไปวิ่งควายจนปวดหัวเพราะก่อนหน้านั้นแน่นอนว่าโคตะระหัวร้อนกับการปลดล็อก Athena และ Red Armorer โดยกดปุ่ม L (L1 หรือ LB บน PS5 – PC) กับตัวละครแถวหน้าสุดของแต่ละฝั่ง ท้ายที่สุดก็จะมีโหมดแกลอรี่ที่โชว์ภาพอาร์ตเวิร์กของตัวละครในความละเอียดสูงทั้งหมด รวมไปถึงภาพของฉากหลังแต่ละฉากด้วย พ่วงด้วย Achievements ให้ปลดล็อกกันยาวๆ
กราฟิกและเพลงประกอบ
อย่าลืมว่าเกมต้นฉบับคือการพัฒนาให้กับเครื่องเล่น Neo Geo ที่มีเทคโนโลยีย้อนกลับจากเดิม 10 ปี (ณ ตอนนี้ก็ 30 ปี) ดังนั้นจะไม่ได้เป็นเกมที่สามารถพูดว่า ‘ความละเอียดระดับใด’ เพราะงานกราฟิกทั้งหมดเป็นสไปรต์สองมิติ แต่แม้ภาพจะดูเก่าๆ มืดๆ ดำๆ ฉันใดก็ดีจุดเด่นของ Neo Geo คืออนิเมชันคุณภาพสูงเช่นการขยับตัวที่ดูพริ้วไหวสวยงาม แต่ปฏิเสธได้ยากว่าฉากหลังที่มันชืดอยู่แล้วก็อาจจะไม่ได้ทำให้ดูโดดเด่น รวมไปถึงเพลงที่แค่ปลุกเร้าสัญชาตญาณนักสู้แต่ไม่ได้ติดหูหรือดนตรีจากตัวละครคลาสสิกมาเป็นกิมมิคแต่อย่างใด
กระนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีความพิเศษเลย เพราะ SNK vs. Capcom: SVC Chaos ได้ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ย้อนยุคกันด้วยตัวเลือกปรับแต่งกราฟิก เช่นใครที่อยากได้ภาพจำลองเหมือนเล่นผ่านจอ CRT สามารถเลือกคำสั่งสแกนไลน์ให้ภาพมีเส้นตัดเป็นพิกเซลเม็ดๆ ได้ สามารถปรับระดับได้สามขั้น เช่นเดียวกับการปรับหน้าจอให้ฉายแบบเต็มฉาก หรือยืดภาพก็ได้ แต่ถ้าต้องการความเพอร์เฟกต์จริงๆ ก็แสดงผลที่สัดส่วน 4:3 ที่เป็นตัวเลือกเริ่มต้นดีกว่า สามารถใส่กรอบให้กับจอแทนพื้นที่ดำๆ ได้ด้วยนะ
บทสรุป
SNK vs. Capcom: SVC Chaos เคยเป็นเกมที่ผมตื่นเต้นมากที่สุดในมุมมองของเด็กประถมเมื่อเปิดตัวครั้งแรก และหลังจากนั้นผมเฝ้ารอมานานว่าเมื่อไรเราจะได้เห็นการโคจรมาพบกันของสองค่ายนี้ในแบบเกมต่อสู้อีก จนกระทั่งภาคพอร์ตครั้งนี้มาถึง แม้มันจะเป็นการนำเกมภาคเก่ามา แต่ด้วยคอนเทนต์ที่มี (เชิงเซอร์วิส) และความนอสตาลเจียที่คิดถึงมันก็ทำให้ตัดสินใจหยิบเกมนี้มาเป็นเจ้าของได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญยังเพิ่มโหมดออนไลน์ให้ใช้งานอย่างแพร่หลาย อีกทั้งเป็นการนำเสนอประสบการณ์สู่คอนโซลรุ่นใหม่ด้วย ดังนั้นจากที่เคยหาเล่นได้ยากตอนนี้ก็อยู่ในมือเรียบร้อย
ใครที่สนใจขอบอกว่าปัจจุบันเกมเปิดให้เล่นแล้วบน Steam เช่นเดียวกับ Nintendo Switch และ PlayStation 5 ในราคา 810 บาท เอาจริงก็อาจรู้สึกว่าราคาสูงไปสักนิดกับอายุของเกมที่ค่อนข้างเก่า กระนั้นมันก็คือความสนุกและเป็นโอกาสที่เราได้จะได้แสดงการสนับสนุนการครอสโอเวอร์ของสองเจ้าพ่อเกมตู้ยุคทองนั่นเอง