หมายเหตุ: ตัวเกมที่นำมารีวิวมีการอ้างอิงจากเวอร์ชั่น Xbox Series X|S ประสบการณ์ที่ได้รับอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานเลือกเล่น
นอกเหนือจาก GTA แล้ว อีกหนึ่งเกมโอเพนเวิลด์ที่ดูจะเป็นคู่ปรับหลักด้วยธีมและเกมเพลย์ค่อนข้างคล้ายกันคงหนีไม่พ้น Saints Row แต่ความพิเศษก็คือเนื้อหากับอาวุธต่างๆ ก็จะกาวมากกว่าชนิดที่ว่าแทบจะเหนือความจริงไปแล้ว ซึ่งแฟนๆ เองก็ชื่นชอบและให้การติดตาม แต่ก็มีหลายคนเหมือนกันที่แอบคิดถึงรากฐานเดิมแบบในเกมภาค 2 ที่เน้นย้ำเรื่องดราม่าการตบตีกันระหว่างแก๊งอาชญากรผสมผสานมุกโบ๊ะบ๊ะแบบเล็กน้อยแต่พองามด้วยเหมือนกัน ดังนั้นหลังจากมีการวนออกนอกอ่าวไทยกันมานาน ในที่สุด Deep Silver และ Volition จึงขอหวนกลับคืนสู่สามัญอีกครั้งในรูปแบบรีบู๊ตกับเกมภาคใหม่ล่าสุด!
และดูเหมือนว่าการรีบู๊ตครั้งนี้จะทำให้พวกเราได้รับโอกาสในการรีวิวโดย Ripples Asia และออกเดินทางใน Santo Ileso เห็นทีคงจะต้องแง้มๆ ให้เพื่อนๆ ฟังก่อนเลยว่านี่แหละคือ Saints Row ที่ทุกคนถวิลหา เพราะเกมมีการยกระดับเกมเพลย์ขึ้นมา เช่นเดียวกับกราฟิก และเนื้อเรื่องที่เข้มข้นชวนติดตามกันตลอดเวลา ปูทางให้ได้กลายเป็นนักบุญปีศาจสมกับชื่อเกม วันนี้เองพวกเราก็ไม่พลาดขอนำความประทับใจต่างๆ มาฝากทุกคนกันที่นี่อีกครั้ง ว่าแล้วก็เกริ่นกันมาเสียยาว ดังนั้นอย่ารอช้าขอชวนทุกคนหยิบอาวุธ ล้วงกระเป๋า สวมเสื้อข้างในกางเกง (ว่าไปนั่น) แล้วออกมามันส์กันได้เลย
【การเล่าเรื่อง】
แน่นอนว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่านี่คือการรีบู๊ตครั้งใหญ่ของซีรีส์ Saints Row ดังนั้น เนื้อหาในเกมจึงไม่ได้มีการสืบเนื่องจากภาคก่อนๆ และดูจะเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นกันเสียมากกว่า เกมบอกเล่าผ่านสายตาตัวละครเอกที่เราสร้างขึ้นมา ซึ่งเราและเพื่อนๆ ได้เข้ามาอยู่ในดินแดน Santo Ileso อันเป็นเหมือนสวรรค์ของคนบาปที่มีการปกครองโดยสามกลุ่มใหญ่ๆ นั่นคือ Los Panteros แก๊งอันธพาลเสื้อส้ม, The Idols แก๊งรักปาร์ตี้ และ Marshall ทหารรับจ้างไฮเทคที่ดูเหมือนจะเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ชีวิตเริ่มแรกของเราในฐานะทหารรับจ้าง แต่ดันไปจับพลัดจับผลูจนไม่ว่าฝ่ายไหนก็ล้วนอยากจะเชือดคอเรากันทั้งหมด จนเพื่อนทุกคนตัดสินใจว่าจะก่อตั้งอาณาจักรแห่งอาชญากรรมกันเองเสียเลย
จังหวะการเล่าเรื่องของ Saints Row ถือว่าดีมากๆ เพราะเราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครตั้งแต่ตอนที่เป็นทหารรับจ้างก๊อกแก๊ก เลื่อนขั้นขึ้นตำแหน่งไปเป็นหัวหน้ารักษาความปลอดภัยของ Marshall มีคอนเนกชั่นต่างๆ มาจนถึงตอนที่ต้องเดินทางบนหนทางสายใหม่ด้วยตัวเอง ทุกอย่างต้องบอกเลยว่าไหลลื่นและถ่ายทอดมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ไดอะล็อกต่างๆ ก็ดูเป็นการพูดคุยที่สมจริงไม่น้อย และที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือความกาวต่างๆ ได้หายไปเรียบร้อย ตอนนี้เหมือนเป็นการดูประวัติการก่อตั้งกลุ่มอาชญากรรม พร้อมเรื่องราวมุกตลกแบบที่ไม่เครียดจนเกินไป การกระทำของตัวละครทุกคนก็ดูสมเหตุสมผลดี ทุกคนรู้ว่าสิ่งที่ทำมันเกิดมาจากอะไรบ้าง
【เข้าสู่เกมเพลย์อย่างรวดเร็ว】
เป็นอะไรที่น่าชื่นชมไม่น้อยเพราะตัวเกมจับมือให้เราได้เข้าสู่การเล่นเกมในแบบแอ็กชั่นกันตั้งแต่ช่วงไม่กี่นาทีแรกพร้อมสอนเรื่องการควบคุมเป็นหลัก โดยเกมเพลย์ก็จะคล้ายกับของเดิมนั่นคือมุมกล้องบุคคลที่สาม พร้อมถืออาวุธรูปแบบต่างๆ และเรายังมีท่า Takedown ด้วย ซึ่งถ้ายิงปืนไปสักพักจะสามารถเติมเกจวงกลม จากนั้นพอวิ่งเข้าไปกดปุ่ม Y ปุ๊บก็จะมีแอ็กชั่นโค่นล้มศัตรูแบบเจ๋งๆ ฮาๆ ให้ดู เช่นเดียวกับระบบสกิลที่ติดตั้งได้ 4 แบบ ตรงนี้จะมีทั้งการจับศัตรูเข้ามายัดระเบิดใส่กางเกงแล้วโยนใส่ฝูงคู่ต่อสู้ และการใช้ท่าต่างๆ ให้เลือกติดตั้งตามสไตล์การเล่นของเรา นอกจากนั้นแล้วยังสามารถปรับแต่ง Perk แยกได้ด้วยผ่านแอปในมือถือที่เป็นเหมือนเมนูต่างๆ ตรงนี้ออกแบบให้ใช้ง่ายแต่ต้องระวังด้วยเพราะว่าไม่มีการ Pause เกม ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์
กันเพลย์ไม่ได้มีแค่การยิงปืน วิ่งๆ ทั่วไป แต่บางครั้งเราอาจจะได้ขับรถไปยิงไป มีความรู้สึกว่ารูปแบบการคอนโทรลค่อนข้างใช้ง่ายและไม่สับสน แถมระบบการขับรถเองก็ดีมากเพราะรถตอบสนองกับการเล่นของเราได้ดีไม่ต้องกลัวว่าจะเงอะงะ จะมีแอบรู้สึกแปลกๆ ตรงที่ฟิสิกส์ของเกมโดยรวมที่อาจทำให้เรามีชะงักบ้าง ตรงนี้จะขอให้รายละเอียดในหมวดต่อๆ ไป แต่ที่ ThisIsGame Thailand รู้สึกชอบเป็นพิเศษก็คงหนีไม่พ้นเวลาที่เราสามารถปีนขึ้นมาบนหลังคารถพร้อมกราดกระสุดใส่ศัตรูแล้วปีนกลับเข้าอย่างรวดเร็วได้ สังเกตว่าแม้จะไม่ได้ขายความป่วงเหมือนเมื่อก่อน แต่ยังมีรสชาติแบบนี้แซมๆ มาบ้างพอเป็นไฮไลต์ครับ
สำหรับขนาดของแผนที่ Santo Ileso จะว่าไปแล้วก็ใหญ่กว่าแผนที่เกม Saints Row ที่ผ่านมาอยู่เหมือนกัน ทว่าสภาพแวดล้อมอาจจะดูไม่ค่อยมีความหลากหลายแม้ว่าจะแบ่งออกเป็นแอเรียย่อยๆ หลายจุด แต่เราจะเห็นแค่เพียงดินแดง, เมืองเล็ก หรือเมืองใหญ่เป็นส่วนมาก อาจเป็นเพราะตัวฉากหลังมีการอ้างอิงมาจากแผนที่ของรัฐแคลิฟอร์เนียอยู่ตั้งแต่แรก และขนาดเมื่อเทียบกับเกมอย่าง GTA หรือ Red Dead Redemption ก็อาจจะไม่ยิ่งใหญ่เท่า อีกทั้งเมื่อตัวละครของเรามีความเร็วในการเคลื่อนที่ค่อนข้างไวอยู่แล้ว แปบๆ ก็อาจจะเดินจนสุดขอบฉาก กระนั้นแล้วก็ไม่ใช่ปัญหาหลักเพราะว่าตลอดทางก็จะมีแลนด์มาร์กน่าสนใจ หรือจุดร้านค้า รับภารกิจย่อยให้สำรวจกันตามทาง อย่างไรก็ตามในโหมด Co-op ตรงนี้ต้องขอโทษด้วยเนื่องจากว่าเกมยังไม่เปิดให้บริการจริงจึงยังไม่มีเพื่อนมาร่วมแจมกัน
【การปรับแต่งโคตรดี!】
ถัดมาที่ระบบสำคัญอย่างการสร้างตัวละคร ตรงนี้หลายคนน่าจะมีโอกาสได้ทดลองไปกับเดโมที่มีการปล่อยให้ก่อนหน้านี้แต่ขอย้ำอีกครั้งแล้วกันว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากๆ เพราะว่า Saints Row ให้เรามีอิสระกับการสร้างตัวตนแบบเต็มที่เลยตั้งแต่รูปแบบลูกตา, โครงหน้า, ร่างกาย หรือสีผิว ละเอียดไปจนถึงขั้นสีผมที่ปรับความมันเงาได้ และยังมีโทนเสียงหลายแบบ จากที่ลองดู ไม่ว่าจะโทนเสียงไหนก็ดูอินกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยกันหมดเลย ตามมาที่เสื้อผ้าก็มีหลากหลายให้เลือกสรรตามร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ในแผนที่
สำหรับการปรับแต่งแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่เรื่องการแต่งตัว แต่ด้วยระบบ Perk และสกิลที่ติดตั้งได้ตามที่ระบุไว้ข้างต้นก็ทำให้ประสบการณ์ของเรามีความแตกต่างกันไป แต่โดยมากไม่ค่อยเน้นย้ำการลอบเร้นเท่าไรหรอก ระเบิดกันตูมตามมากกว่า ท้ายที่สุด เรายังจะสามารถตกแต่งซ่องโจรของเราได้ด้วย จะเอาปืนใหญ่ไว้ด้านหน้า ด้านในมีความวายป่วงอย่างไรก็ฟรีสไตล์กันเลย
เปิดแอปในมือถือเข้าเมนูเปลี่ยนหน้าตาร่างกายได้ตลอด
【กราฟิก – เฟรมเรต】
กราฟิกในเกมพัฒนาขึ้นจากภาคก่อนอย่างก้าวกระโดดเพราะภาคนี้เองก็เป็นครั้งแรกที่ได้รับการรีบู๊ตให้มีความสดใหม่ อีกทั้งมีการออปติไมซ์เพื่อใช้งานบนเครื่องเล่นเกมเน็กซ์เจ็นเป็นครั้งแรกด้วย แต่ดูจากโทนโดยรวมถ้าเอาเข้าจริงก็ไม่ได้โดดเด่นขึ้นมามากเท่าไร และดูอิงไปกับ GTA V ในบางครั้งเหมือนกัน จะมีความรู้สึกแตกต่างก็เพราะว่าตัวละครของเราไม่ได้ดูมันเลื่อมแบบเมื่อก่อนแล้ว ถัดมาที่โหมดการตั้งค่าจะมีให้เลือกถึง 5 รูปแบบคือ 1080p เน้นเฟรมเรต / เน้นกราฟิก, 1440p เน้นเฟรมเรต / เน้นกราฟิก และ 2160p ส่วนตัวแล้วคิดว่า 1080p และ 1440p ไม่ได้มีความต่างกันมาก เราอาจจะเลือกเล่นเป็น 1440p แบบเน้นเฟรมเรต ภาพก็ดูสวยงามโอเคแล้ว และเฟรมก็ไม่ตกเลย ตรงนี้อยากยกนิ้วให้เพราะว่าทำการพัฒนามาได้ดีมาก ใครกลัวเรื่องเฟรมตกจากฉากระเบิดตูมตามขอบอกอย่าได้กังวลไป
【ยังมีข้อติ】
ความแปลกประหลาดที่เราพบระหว่างการเล่นก็คือเรื่องของฟิสิกส์ในเกมที่บางทีก็ดูแปลกๆ ไปบ้าง โดยปกติแล้วเวลาเราขับรถสีกับวัตถุต่างๆ ก็อาจจะมีประกายไฟเกิดขึ้นใช่ไหมครับ แต่ Saints Row อาจจะมีการนำฟิสิกส์มาใช้ในระดับที่สุดขีดไปนิดนึง เพราะขนาดตัวละครเอกธรรมดาวิ่งไปมาแล้วสีกับจักรยาล เก้าอี้ตามฉาก ก็แอบมีประกายไฟเข้ามาด้วยเหมือนกัน ถัดมาในเรื่องความคึกคักของเมือง จริงอยู่ที่เราอาจเจอเหตุการณ์ต่างๆ แต่ความซับซ้อนของ AI ตัวละครคนเดินดินทั่วไปนั้นออกจะตื้นไปเล็กน้อย ชักปืนมายิงขึ้นฟ้าบางคนก็แทบจะไม่ไหวติงวิ่งหนีกันเลย
นอกจากนั้นก็จะเป็นเรื่องการเรนเดอร์ตรงนี้ไม่ทราบได้ว่าเป็นข้อติหรือเทคนิคการจัดสรรทรัพยากรในเกมดี คือถ้าเราอยู่ไกลๆ ฉากอาจจะมีการโหลดวัตถุไม่ครบ เช่นเสาธงที่จะมีแค่ธงแต่ไม่มีเสาจนกว่าจะเดินไปใกล้ๆ และเงาที่แว๊บไปมาบางครั้ง โดยรวมไม่เสียอรรถรสนอกจากเราจะไปเพ่งดูมัน
【บทสรุป】
Saints Row อาจไม่ใช่การกลับมาที่สมบูรณ์แบบชนิดที่ว่าเต็มร้อยให้ร้อย แต่อย่างน้อยก็เพิ่มรสชาติใหม่ๆ และเซอร์วิสแฟนๆ ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะคนที่คิดถึงความหลังในเกมภาคเก่าหลังจากเปลี่ยนแนวไปเป็นสไตล์ระเบิดภูเขาเผากระท่อมมากจนดูเวอร์เกินไปหลายภาค และเนื้อเรื่องที่น่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบก็ทำให้เราอยากจะรู้ว่าในอนาคตจักรวาลเกมภาครีบู๊ตนี้จะถูกสานต่อไปในรูปแบบไหน ที่แน่ๆ ก็คือในการคัมแบคครั้งนี้สอบผ่านทั้งในแง่ของคนเล่นเดิมและคนที่ไม่เคยติดตามมาก่อนก็สามารถสนุกกับตัวเกมได้แบบคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ ด้วยองค์ประกอบเกมโอเพนเวิลด์ทั้งภารกิจและความลับต่างๆ พร้อมด้วยระบบมัลติเพลเยอร์ออนไลน์
ท้ายที่สุดนี้ ขอขอบคุณทาง Ripples Asia และ Deep Silver อีกครั้งสำหรับโอกาสในการเข้ารีวิวเกม Saints Row ซึ่งแฟนๆ สามารถเล่นได้บน PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series X|S, Xbox One และ PC ให้เราได้สนุกกับเส้นทางแห่งการเป็นนักบุญคนบาปและเปิดมุมมองอีกมุมว่ากว่าอาชญากรหนึ่งคนจะเติบโตมาต้องผ่านอะไรกันบ้างจึงทำให้ชีวิตหักเหไปได้ถึงเพียงนี้
