รีวิวเทคโนโลยี

[รีวิว] Razer DeathAdder V3 เมาส์เกมมิ่งที่หนักเพียง 50 กรัม

สำหรับคนที่ชื่นชอบในความเบา จะใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมแบบจัดเต็มได้ไม่มีปัญหา

หลังจากที่ได้ส่ง Razer DeathAdder V3 Pro ออกมาให้เราได้รู้จักกันไปเมื่อปีก่อน มาในครั้งนี้ทาง Razer ได้ทำการปล่อยเมาส์สำหรับเกมเมอร์รุ่นใหม่ในรุ่นเริ่มต้นอย่าง Razer DeathAdder V3 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาพร้อมกับจุดเด่นที่ใครหลาย ๆ คนคาดไม่ถึงว่าเมาส์สำหรับเล่นเกมจะทำได้อย่างน้ำหนักที่เบาเพียง 50 กรัมเท่านั้น แต่ไม่ได้ตัดทอนสเปคสำหรับการใช้งานไป

Design

สำหรับ Razer DeathAdder V3 มาพร้อมกับการออกแบบไม่ได้ต่างจากรุ่นพี่ในรุ่น Pro เท่าไหร่นัก แต่สำหรับใครที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็ต้องบอกว่า ทาง Razer ได้มีการใส่ลูกเล่นในการออกแบบใหม่เข้าไปให้กับตระกูล DeathAdder V3 ในรุ่นก่อนแล้วเป็นการออกแบบที่ทำให้การจับถนัดมือมากยิ่งขึ้น พร้อมกับส่วนโค้งด้านบนที่ช่วยให้การใช้งานสบายกว่าเดิม

ปุ่มสำหรับการใช้งานเป็นแบบมาตรฐานที่เราสามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งานแต่ละปุ่มได้ผ่านซอฟต์แวร์ Razer Synapse ปุ่มด้านข้างมีมาให้ทั้งหมด 2 ปุ่มที่บริเวณด้านซ้ายของเมาส์

ไล่ลงมาบริเวณโลโก้ของ Razer เป็นแบบสลักลงลวดลายเอาไว้ ที่หากเรานำนิ้วไปสัมผัสจะพบว่าเป็นแบบพิมพ์นูนขึ้นมา แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีไฟแสดงผลภายในเมาส์รุ่นนี้ ซึ่งหากรุ่น Pro ไม่มีรุ้นนี้มีคงฟังดูขัดแย้งไม่น้อย ฉะนั้นถือว่าถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว

พลิกมาดูที่ด้านล่างของตัวเมาส์ Razer DeathAdder V3 มาพร้อมกับปุ่มปรับค่า DPI ที่รองรับสูงสุด 30,000 DPI และมีส่วนที่สัมผัสกับพื้นผิวต่าง ๆ ด้วยวัสดุ PTFE ไม่ต้องมองหาตัวปรับสัญญาณใด ๆ ว่าอยู่ที่จุดไหน เนื่องจากว่าตัวเมาส์เป็นแบบมีสายเต็มรูปแบบ ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแต่อย่างใด

การปรับเปลี่ยนดีไซน์ที่ได้มาตั้งแต่รุ่น Pro ส่งผลให้การใช้งานเมาส์รุ่นนี้ที่มีการปรับน้ำหนักลงมาให้เหลือเพียงแค่ 50 กรัม จากเดิม 63 กรัมทำให้ช่วยการจับและใช้งานค่อนข้างที่จะเข้ามือกับผู้ใช้งานอย่างมาก และด้วยการออกแบบ ergonomic ที่ถูกหลักทำให้เวลาใช้งานไม่รู้สึกมีอาการเกร็งหรือตึงในมือข้างที่ใช้งาน

สายที่ใช้งานเป็นแบบถักหรือเราจะเรียกตามที่ทาง Razer แนะนำมาคือ Razer Speedflex ที่จะช่วยลดแรงต้านที่ไม่จำเป็นของสายทั่ว ๆ ไปที่อาจไปสัมผัสกับพื้นผิวแล้วเกิดแรงต้านที่ไม่จำเป็นออกมาได้

หากจะมีจุดให้ต้องตั้งข้อสังเกตคงเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงอย่างการที่เมาส์ถูกออกแบบมาให้ใช้งานมือขวาเท่านั้น และน้ำหนักที่เบาอาจจะไม่เหมาะกับเกมเมอร์สายดุดันที่ต้องการแรงต้านเวลาสะบัดเมาส์หรือเลื่อนไปมามากนัก

Experience

แม้ว่าจะเป็นรุ่นปกติที่ตัดคำว่า Pro ออกไปแล้ว แต่ประสิทธิภาพในแง่ของการใช้งานเราอาจจะไม่ได้รู้สึกต่างกันมากนัก ด้วยความที่ Razer DeathAdder V3 มาพร้อมกับการใช้งานเซ็นเซอร์ Razer Focus Pro 30K ตัวเดียวกันกับที่ใช้งานในรุ่นก่อน ทำให้เวลาเราลากเมาส์ไม่มีอาการขาดช่วงแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันในส่วนของสวิตซ์ที่ใช้งานเป็นรุ่นที่ 3 เข้าไปแล้วของทางค่ายหรือจะบอกว่าคือรุ่นล่าสุดที่มีการใช้งานกันในตอนนี้แล้ว ฉะนั้นวางใจได้ว่าจะไม่เจอปัญหาการกดเมาส์แล้วไม่ตอบสนองทันที เพราะที่ลองมาไม่ว่าจะเป็นการกดสั้น ๆ หรือกดลากยาวล้วนแล้วแต่ทำได้ต่อเนื่องไม่มีติดขัด

ในส่วนของค่าที่เหนือกว่ารุ่นพี่ในตัว Pro คงหนีไม่พ้นการที่มีค่า Polling Rate สูงถึง 8000Hz มากกว่าค่าปกติที่เราคุ้นชินกันไปไกลพอตัวถึง 8 เท่า หากเทียบกันรุ่น Pro ที่ค่ายืนพื้น 1000Hz และปรับได้สูงสุด 4000Hz ก็ต้องบอกว่านี่เป็นตัวขายอีกอย่างที่เมาส์รุ่นนี้มีมาให้ และใช้งานได้จริงเวลาเล่นอีกด้วย

การปรับแต่งค่าต่าง ๆ ภายใน Razer Synapse คงต้องยอมรับว่าทำได้น้อยเนื่องจากการที่ไม่มีไฟ RGB ภายในตัวทำให้ตัดลูกเล่นหลัก ๆ ที่ปรับแต่งได้ไปแล้วหนึ่งเรื่อง ที่เราทำได้มีเพียงแค่การปรับปุ่มที่ต้องการใช้งาน การตั้งค่า DPI, Polling Rate เท่านั้น ส่วนการตั้งค่าอย่าง Smart Tracking ที่เป็นการบอกว่าเมาส์จะมีระยะการทำงานของเซ็นเซอร์ที่ระดับใดมีมาให้ตั้งค่าเช่นกัน ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ไม่ได้ถูกใส่มาให้ในเมาส์รุ่นนี้

จากที่ได้ลองใช้งานมาต้องยอมรับว่าหากใครที่มองหาในเรื่องของน้ำหนักเมาส์ที่ต้องเบาเป็นหลัก พกใส่กระเป๋าเดินทางไปไหนแล้วไม่เป็นภาระ Razer DeathAdder V3 นี่แหละตอบโจทย์อย่างมาก การใช้งานเล่นเกมพบว่าไม่ได้มีจุดใดให้ต้องติกัน เราสามารถที่จะทดสอบลากเมาส์และศูนย์เล็งภายในเกมเคลื่อนไปตามที่เราลากได้อย่างถูกต้อง เช่นเดียวกับการกดยิงที่เมาส์ไม่ได้มีอาการหลอนและแสดงผลลัพธ์ผิดพลาดออกมา

ที่แอบขัดใจคงหนีไม่พ้นเรื่องของการที่นำตำแหน่งของปุ่มตั้งค่า DPI พื้นฐานไปอยู่ที่ด้านล่างของตัวเมาส์ แน่นอนว่าเราสามารถที่จะปรับปุ่มอื่น ๆ ที่ด้านบนให้ทำงานแทนได้ แต่ไหน ๆ จะให้มาแล้วทั้งทีก็น่าจะใส่มาที่ด้านบนเลยจะดีกว่า เนื่องจากไฟด้านล่างไม่ได้ตามขึ้นมาให้เราได้เห็นด้วยว่าใช้งานที่ค่า DPI เท่าไหร่ หากไม่สังเกตตอนกดปุ่มแล้วหน้าจอเด้งขึ้นมาว่าอยู่ที่ค่าเท่าไหร่ก็จะไม่ทราบกันเลย

Conclusion

สรุปแล้ว Razer DeathAdder V3 เป็นเมาส์ที่ทางผู้เขียนค่อนข้างที่จะชื่นชอบในความเบาและการจับที่ถนัดมืออย่างมาก แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเมาส์เพื่อสุขภาพโดยตรงแต่การที่ได้เห็นเมาส์สำหรับการเล่นเกมถูกออกแบบมาให้จับถนัดและสบายเวลาใช้งาน เป็นอะไรที่น่าประทับใจทีเดียว ในแง่ของประสิทธิภาพไม่ได้หายไปไหนและอาจจะดีขึ้นอีกด้วย สิ่งที่ขาดไปอย่างไฟ RGB ก็ต้องพิจารณากันเอาอีกทีว่ารับได้หรือไม่ ด้วยราคา 2,690 บาท นับว่าเหมาะอย่างมากกับสิ่งที่ได้รับ

ข้อดี

– การออกแบบที่คิดมาเป็นอย่างดีให้ผสมกันระหว่างการเล่นเกมและความสบายเมื่อได้ใช้งาน

– น้ำหนักที่เบาเพียง 50 กรัมจนไม่อยากจะเชื่อว่าคือเมาส์สำหรับเล่นเกม

– ประสิทธิภาพโดยรวมที่ไม่ได้ถูกลดทอนลงไปจากเดิม

– Polling Rate ระดับ 8000Hz

– รองรับการปรับแต่งผ่าน Razer Synapse

ข้อสังเกต

– ไม่มีไฟ RGB ให้ปรับแต่งอาจไม่ถูกใจเกมเมอร์สายแสงสี

– ฟีเจอร์การปรับแต่งที่หายไปบางส่วน

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Razer แห่งประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง Razer DeathAdder V3 มาให้เราได้ทำการทดสอบใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

รายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : [คลิก]

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save