[รีวิว] Rabbids: Party of Legends กระต่ายซ่า ท้าประลองดินแดนไซอิ๋ว

Rabbids: Party of Legends เกมปาร์ตี้สุดมันส์ที่มีมินิเกมให้เล่นมากถึง 50 แบบ ที่จะท้าให้ผู้เล่นทำท่าตลก ๆ ล้มคู่ต่อสู้ อวดท่าเต้นแปลกประหลาด และอีกมากมาย ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมได้สูงสุดสี่คนในการเล่นแบบ Local ทั้งแบบ 2 ต่อ 2 หรือ Free-for-All โดยผู้เล่นสามารถสร้างเพลย์ลิสต์แบบกำหนดเองของมินิเกมที่ชื่นชอบ และระดับความยากของ AI ก็สามารถปรับแต่งได้ ทำให้เกมนี้เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย และสนุกสนานสำหรับทั้งครอบครัว

และในวันนี้เกม Rabbids: Party of Legends ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการบน Switch แล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ผู้อ่านได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน Nintendo Switch ระหว่างวันที่ 26 – 28 กรกฎาคม 2565 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

กราฟิกสวยงาม เล่นได้ลื่นไหลไม่มีอาการกระตุก หรือเฟรมเรตตกเลย

กราฟิกภายในเกมนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว โดยกราฟิก 3 มิติภายในเกมนี้ รวมไปถึงดีไซน์ตัวละคร และฉากต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามหาเทียบกับเกมอื่น ๆ แล้ว คุณภาพของกราฟิกภายในเกมนี้ผู้เขียนคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจที่สุดก็คงเป็นเฟรมเรตของเกมที่ไม่มีตกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ทำให้การเล่นเกมนี้ลื่นไหลน่าประทับใจมาก ๆ เพราะเกมนี้เป็นเกมปาร์ตี้ที่เน้นความลื่นไหล และต่อเนื่อง หากระหว่างเล่นเกิดอาการเฟรมเรตตกก็คคงมีหัวร้อนไม่น้อยเลยทีเดียว

ผจญภัยในแดนไซอิ๋ว กับกระต่ายสุดป่วน

Rabbids: Party of Legends เป็นเกมที่ใช้ธีมของไซอิ๋ว โดยเรื่องราวภายในเกมนี้จะพูดถึงเหล่าแรบบิดส์ (Rabbids) ที่กำลังเล่นเครื่องซักผ้าแล้วถูกส่งไปยังโลกแห่งความโกลาหลในตำนานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายจีนคลาสสิกเรื่องไซอิ๋ว (Journey to the West) ในเกมปาร์ตี้แบบผู้เล่นหลายคนนี้ แรบบิดส์ต้องเล่นผ่านความโกลาหลและหาทางกลับบ้านให้ได้

โดยธีมของเกมนี้ส่งผลถึงตัวละครที่มีมากกว่าเรื่องราว แต่ยังทำให้ตัวละครภายในเกมถูกสรรค์สร้างออกมาโดยมีไซอิ๋วเป็นต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็น พระถังซัมจั๋ง , เห้งเจีย , ตือโป๊ยก่าย , ซัวเจ๋ง , ปีศาจวัวกระทิง เป็นต้น แต่ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือมีบางตัวละครที่ถูกออกแบบเพื่อล้อเลียนตัวละครจากนิยายเรื่องนี้ด้วย เช่น พระถังซัมจั๋งเวอร์ชั่นฮิปฮอปที่แสนจะ Swag เป็นต้น

นอกจากนี้ในด่านมินิเกมแต่ละด่านของเกมยังมีการอ้างอิงมาจากนิยายเรื่องไซอิ๋วด้วย ตัวอย่างเช่น มินิเกมที่ผู้เล่นจะถูกฝังอยู่ในหิน หน้าที่ของเราก็คือชนศัตรูคนอื่น ๆ ให้ร่วงลงไปจากแท่น และอยู่เป็นคนสุดท้ายให้ได้ ซึ่งมินิเกมนี้ก็ล้อเลียนฉากที่เห้งเจียเกิดจากหินนั่นเอง หรือแม้กระทั่งมินิเกมที่ผู้เล่นจะได้แข่งขันถอนเสาขึ้นจากวังใต้บาดาล ซึ่งมินิเกมนี้ก็เชื่อมโยงกับไซอิ๋วตอนที่เห้งเจียบุกวังบาดาล และได้กระบองวิเศษมาเป็นอาวุธคู่กาย และมินิเกมอื่น ๆ อีกมากมายที่มีการใช้องค์ประกอบจากไซอิ๋วมาผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์อื่น ๆ เช่น ใช้พัดเหล็กพัดบอลให้เข้าประตูอีกฝั่ง , กระโดดลงปล่องภูเขาไฟ โดยผู้เล่นจะต้องวาดรูปร่างให้ตรงกับหินที่ปรากฏขึ้นมาเพื่อที่จะไม่โหม่งชนกับหินเหล่านั้น รวมไปถึงผ่านด่านทดสอบของเซียนต่าง ๆ อีกมากมาย

มินิเกม 50 ด่าน เล่นได้จุใจ สะใจสายปาร์ตี้ เล่นได้ทั้งครอบครัวแน่นอน

ผู้เขียนได้เกริ่นเรื่องของมินิเกมไปบ้างในหัวข้อก่อนหน้านี้แล้ว โดยในหัวข้อนี้ผู้เขียนจะเจาะลึกลงในประเด็นของมินิเกมอีกสักหน่อยครับ โดยเกมนี้ผู้เล่นสามารเลือกเล่นได้ 2 โหมดก็คือ โหมดเนื้อเรื่อง (Adventure Mode) และโหมดปาร์ตี้ (Party Mode) โดยผู้เล่นจะสามารถปลดล็อคมินิเกมได้เรื่อย ๆ ผ่านการเล่นเกมทั้ง 2 โหมด

มินิเกมภายในเกมนี้ (ณ เวลานี้) มีมากถึง 50 ด่านด้วยกัน โดยมินิเกมทั้งหมดนี้เรียกว่าใช้ประโยชน์จาก Joy Con แบบสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขยับจอยไปในทิศทางต่าง ๆ เพื่อเคลื่อนที่ , การใช้ปุ่มคอนโทรลเลอร์ต่าง ๆ เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ , การใช้ระบบ Gyroscope เพื่อวาดภาพบนอากาศ หรือเพื่อเล็งเป้าหมายที่บินไปมา และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยผู้เขียนขออนุญาตยกตัวอย่างมินิเกมให้ผู้อ่านได้เห็นกันคร่าว ๆ ตามข้อมูลด้านล่างนี้เลยครับ

เกมแรกที่ผู้เล่นจะถูกฝังอยู่ในหินกลม ๆ หน้าที่ของผู้เล่นก็คือ การควบคุมตัวละครของเราให้กลิ้งไปชนตัวละครอื่น ๆ ให้ตกจากแท่น และอยู่รอดเป็นคนสุดท้ายให้ได้ โดยแท่นที่เราอยู่นั้นจะค่อย ๆ พังทลายลงทีละเล็กทีละน้อยเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง

เกมต่อมาคือมินิเกมที่เราจะต้องจับคู่กับอีกคนหนึ่ง โดยคนหนึ่งมีหน้าที่โยนพริกให้กับผู้เล่นฝั่งตนเอง และโยนหินใส่ฝั่งศัตรู ในขณะที่ผู้เล่นอีกคนหนึ่งจะต้องทำหน้าที่วิ่งไปกินพริกที่ผู้เล่นคนแรกโยนมา และหลบเลี่ยงหินที่ถูกโยนมาจากอีกฝั่งด้วย

เกมต่อมาคือเกมถอนพระบองวิเศษขนาดยักษ์ที่ผู้เล่นจะต้องกดปุ่มบน Joy Con จากนั้นก็เหวี่ยงจอยขึ้นพร้อมกับปล่อยปุ่มคอนโทรลเลอร์นั้น ๆ เหมือนกับเรากำลังดึงของบางอย่างขึ้นมาจากพื้น

มินิเกมเต้นดิสโก้ที่ผู้เล่นจะต้องขยับ Joy Con ไปตามทิศทางของลูกศรที่กำหนด และต้องให้ตรงจังหวะสไตล์เกม Rhythm นั่นเอง

มินิเกมต่อมาก็คือมินิเกมที่เราจะได้ใช้องค์ประกอบที่เรียกว่า Gyroscope ในการเล็งคัมภีร์ที่ลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นผู้เล่นจะต้องกดปุ่มคอนโทรลเลอร์เพื่อยิงคัมภีร์นั้นให้โดนเพื่อเก็บแต้ม

มินิเกมเสิร์ฟลูกพีชให้องค์แม่ที่ผู้เล่นจะต้องขยับ Joy Con ไปในทิศทางตามเส้นทางที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามผู้เล่นจะต้องระวัง ยิ่งขยับแรงมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ตัวละครวิ่งเร็วมากขึ้น ซึ่งมีโอกาสที่ตัวละครจะวิ่งตกทางเดิน หรือหากวิ่งเร็วเกินไป จานลูกพีชที่เราถืออยู่นั้นจะร่วงลงมาได้

เกมพัดเหล็กฟุตบอล ที่ผู้เล่นจะได้ใช้พัดเหล็กในการพักลูกบอลที่โยนลงมากลางสนามให้เข้าประตูอีกฝั่ง โดยในหลาย ๆ ครั้งลูกบอลจะไม่ได้ถูกโยนลงมาเพียงลูกเดียว บางทีก็มา 2 หรือ 3 ลูกด้วยกัน!

จากตัวอย่างมินิเกมด้านบนนี้เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยมาก ๆ ของเกมทั้งหมดครับ เพราะมินิเกมที่มีให้เล่นภายในเกมนี้ผู้เขียนก็ได้บอกไปแล้วว่ามีมากถึง 50 เกม นั่นแปลว่ายังมีเกมอื่น ๆ อีกมากมายที่สนุกสนาน รอให้ผู้เล่นได้สนุกกันอีกมากมาย นอกจากนี้ มินิเกมทั้งหมดนี้ก็บอกได้เลยว่าเป็นมินิเกมที่เข้าใจง่าย และเล่นได้ไม่ยากเลย โดยก่อนที่จะเริ่มเล่นมินิเกมทุกครั้งก็จะมีบทสอน และตัวอย่างให้เราได้ชมกันด้วย ทำให้เกมนี้ถือได้ว่าเป็นเกมครอบครัวที่แท้จริงครับ

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 8 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

ดท้ายนี้ขอขอบคุณ Ubisoft ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวกันในครั้งนี้ครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

สั่งซื้อเกมได้ที่ : https://www.ubisoft.com/en-us/game/rabbids/party-of-legends