[รีวิว] Overprime ช่วง CBT

Overprime เกม TPS MOBA กราฟิกอลัง ความมันส์ทะลุขีดจาก Netmarble

• ผู้พัฒนา : Netmarble F&C Team SoulEve
• ผู้จัดจำหน่าย : Netmarble F&C
• แนวเกม : Action, Free to Play, Sports, Strategy
• ขนาดไฟล์ : 20 GB
• ดูข้อมูลเพิ่มเติมบน steam คลิกที่นี่

Overprime เป็นเกม Team-based Action Shooting ที่มีจุดเด่นก็คือการผสมผสานเกมเพลย์แบบ TPS กับ MOBA ได้อย่างลงตัว โดยเกมนี้ ผู้เล่นในทีมสามารถเลือกฮีโร่ที่มีสกิลแตกต่างกันและประสานงานร่วมกันเพื่อชิงชัยชนะ Prime Battlefield ให้ได้ ดังนั้นการไล่ฆ่าศัตรูอย่างเดียวจึงไม่ใช่กุญแจแห่งชัยชนะ แต่เป็นเรื่องของกลยุทธ์ และการร่วมมือกันเคลียร์ภารกิจนั่นเอง

และในโอกาสนี้ผู้เขียนก็ได้มีโอกาสลองเล่นเกม Overprime ในช่วง Closed Beta มาแล้ว และก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ผู้อ่านได้ติดตามกันครับ

กราฟิกสวยงาม เอฟเฟกต์อลังการสะใจสายเสพย์กราฟิก

สิ่งแรกที่ไม่พูดถึงเลยไม่ได้ก็คือ กราฟิกภายในเกมนี้ที่ทำออกมาได้สวยงามอลังการสมกับที่พัฒนาด้วยขุมพลังของ Unreal Engine 4 ทำให้องค์ประกอบภายในเกมนี้ไม่ว่าจะเป็นเหล่าฮีโร่ทั้งหลาย มอนสเตอร์ต่าง ๆ ไปจนถึงสภาพแวดล้อมภายในเกมไม่ว่าจะเป็นพื้นดิน กำแพง ต้นหญ้า ต้นไม้ ล้วนทำออกมาได้สวยงามตระการตาราวกับเป็นเกม AAA โดยแท้ ซึ่งจุดนี้ผู้เขียนบอกได้เลยว่าสายเสพย์กราฟิกจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน

นอกจากองค์ประกอบด้านกราฟิกที่สวยงามแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ เอฟเฟกต์ที่ใช้ภายในเกมนี้ ล้วนทำออกมาได้ไม่ด้อยไปกว่าคุณภาพกราฟิกเลยแม้แต่นิด โดยจัดเต็มทั้งแสง สี ไปจนถึงรูปแบบของเอฟเฟกต์จากสกิลต่าง ๆ ที่ทำออกมาได้น่าตื่นตาตื่นใจ ทำเอาผู้เขียนประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะด้วยเอฟเฟกต์ที่อลังการยิ่งทำให้การเล่นเกมนี้มันส์มากขึ้นไปอีกจนปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Overprime คือเกมออนไลน์ที่ภาพสวยมากที่สุดเกมหนึ่งในตอนนี้

เกมเพลย์ TPS + MOBA ที่ลงตัว ถูกใจเกมเมอร์ชัวร์

เมื่อพูดถึงเกมเพลย์แล้วการผสมผสานระหว่างเกม TPS เข้ากับเกม MOBA เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะที่ผ่านมาเราจะได้เห็นเกมประเภท Team-based Action Shooting อยู่จำนวนมาก แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้แตกต่างไปจากเกมอื่น ๆ ที่มีในท้องตลาดก็คือ ความเป็น MOBA เต็มรูปแบบที่เปลี่ยนมุมมองเป็นแบบ TPS นั่นเอง

ภายในเกมผู้เล่นจะได้เลือกฮีโร่ที่มีความสามารถแตกต่างกันออกไป เข้าสู่สนามรบแบบ 3 เลนมาตรฐาน โดยแต่ละเลนก็จะมีป้อมปราการที่เราจะต้องทำลาย โดยเป้าหมายของเราก็คือการทำลายฐานทัพของศัตรูให้ได้ อย่างไรก็ตามระหว่างทางเราก็จะได้พบกับมอนสเตอร์ต่าง ๆ (หรือที่เราชอบติดปากเรียกว่า Creep หรือ Minion นั่นเอง) ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดนี้มันก็คือเกมประเภท MOBA แบบ 100% แต่มุมมองของการควบคุมจะเปลี่ยนไปเป็นแบบ TPS ที่ตัวละครจะมีทั้งตัวละครโจมตีระยะประชิด ไปจนถึงตัวละครที่โจมตีระยะไกล ทำให้การควบคุมของเราแปลกตาไปจากเดิม ซึ่งก็สร้างความแปลกใหม่ได้ไม่น้อย

นอกเหนือจากระบบด้านบนแล้ว ภายในเกมนี้ยังมีระบบการซื้อไอเทมเพื่อใช้กับตัวละครอีกด้วย แน่นอนว่าระบบนี้ก็มาจากเกม MOBA เช่นกัน โดยผู้เล่นจะสามารถซื้อไอเทมได้ที่ฐานทัพ ไอเทมแต่ละชนิดก็สามารถต่อยอดการผสมผสานกลายเป็นไอเทมที่แข็งแกร่งขึ้นได้ ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกซื้อได้ตามใจ แต่ถ้าหากผู้เล่นคนใดไม่มั่นใจว่าควรจะซื้อไอเทมอะไรบ้าง ตัวเกมก็จะมีระบบแนะนำไอเทมคนซื้อให้เราได้ใช้งานอีกด้วย

นอกจากนี้อีกองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้ผู้เขียนค่อนข้างประทับใจก็คือ สนามรบแห่งนี้ถูกทำออกมาเป็น 3 มิติ นั่นแปลว่าภายในแผนที่นี้จะมีในองค์ประกอบของคำว่าสูงหรือต่ำด้วย และจุดนี้เองทำให้เกิดความหลากหลายในการเล่นมากยิ่งขึ้น เพราะนั่นแปลว่าตัวละครที่โจมตีระยะไกลสามารถแอบส่องยิงมาจากพื้นที่ที่สูงกว่าได้ อีกทั้งตัวละครหลาย ๆ ตัวไม่สามารถกระโดดขึ้นที่สูงในบางจุดได้ ทำให้ต้องเดินอ้อมเพื่อที่จะไปโจมตีศัตรูที่อยู่ด้านบน โดยองค์ประกอบนี้ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดแทคติกการเล่นที่หลากหลาย และท้าทายมากยิ่งขึ้น 

โดยสรุปแล้วเกมเพลย์ของเกมนี้เป็นการผสมผสานระหว่าง MOBA และ TPS ออกมาได้ลงตัวเป็นอย่างมาก แม้ว่าตอนแรกผู้เล่นหลาย ๆ คนอาจจะต้องปรับตัวอยู่พอสมควร แต่บอกได้เลยว่าหากเล่นจนชินมือแล้ว เกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่เล่นได้เพลิน จนลืมเวลาเลยทีเดียว

ตัวละครให้เลือกเล่นจำนวนมาก แถมมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป

อีกองค์ประกอบหลักที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือตัวละครฮีโร่ที่มีให้เลือกใช้งาน โดยในช่วง CBT นี้มีตัวละครให้เลือกเล่นมากถึง 15 ตัวด้วยกัน นั่นแปลว่ารูปแบบการผสมผสานฮีโร่ที่ใช้ได้ในแต่ละทีมนั้นมีมากมายหลายร้อยแบบเลยทีเดียว โดยฮีโร่แต่ละตัวก็จะมีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันออกไป ให้ผู้เล่นได้เลือกใช้งาน 

ฮีโร่แต่ละตัวก็จะมีบทบาทที่แตกต่างกัน โดยในเกม Overprime จะมีทั้งหมด 5 บทบาท ได้แก่ ตัวละครสายป้องกัน (Tanker) ตัวละครสายโจมตีระยะประชิด (Warrior) ตัวละครสายโจมตีระยะไกล (Ranger) ตัวละครสายสนับสนุน (Support) ตัวละครสายลอบสังหาร (Assassin) และตัวละครสายเวทมนตร์ (Caster) โดยตัวละครแต่ละตัวก็จะมีเลนที่เหมาะสมในการเล่นแตกต่างกัน โดยเลนภายในเกมนี้ก็จะแบ่งเหมือนเกมโมบ้าทั่วไปได้แก่ เลนบน (Solo) เลนกลาง (Mid) เลนล่าง (Duo) และป่า (Jungle)

นอกจากนี้ตัวละครแต่ละตัวก็จะมีสกิลที่แตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น Cynthia ตัวละครสาย Caster ที่จะมีความสามารถในการทำดาเมจอย่างเป็นกลุ่มต่อเนื่อง และสามารถเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับศัตรูเพื่อทำดาเมจเพิ่มเติมได้ Scud ที่สามารถโจมตีระยะไกลได้ และมีสกิลในการยิงขีปนาวุธ และการโจมตีเป็นเส้นตรงโดยไม่สนใจสิ่งกีดขวาง เป็นต้น ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น เพราะตัวละครภายในเกมนี้อย่างที่ได้แจ้งไว้ว่ามีมากกว่า 15 ตัวเลยทีเดียว (และในอนาคตก็จะมีการอัปเดตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน) ฉะนั้นบอกได้เลยว่ามันส์สะใจผู้เล่นอย่างแน่นอนครับ