ผู้เขียน – GantaroZX
หมายเหตุ: ตัวเกมที่ได้นำมารีวิวเป็นการใช้งานในรูปแบบ Performance Mode
‘พลังที่ยิ่งใหญ่ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง’ เป็นคำเปรยที่หลายคนโดยเฉพาะแฟนภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ต้องคุ้นหูกันจากหนังไอ้แมงมุม ซึ่งแน่นอนว่าในฐานะของฮีโร่แถวหน้าจาก Marvel ดังนั้นทุกการเคลื่อนไหวของหนุ่ม Peter Parker จึงมักต้องมีการจับตามองเสมอ โดยปีนี้ก็เป็นปีสำคัญสำหรับแฟนเกมเพราะว่าผลงานเด็ดจาก Insomniac Games ก็กำลังจะได้รับการวางจำหน่ายภาคต่อกันแล้วด้วย
ในวันนี้ ThisIsGame Thailand ก็ไม่พลาดได้รับโอกาสจากทาง Sony Interactive Entertainment ในการลองเล่นเกม Marvel’s Spider-Man 2 กันก่อนใครเพื่อนำมารีวิวเป็นความประทับใจแรกให้ทุกคนได้ติดตามเช่นเคย แต่จะมีอะไรที่น่าสนใจและแตกต่างไปจากภาคแรกบ้างนั้น ขอเชิญมาโหนใยแมงมุมกันเลยดีกว่า ซึ่งขอบอกแง้มๆ ก่อนเลยแล้วกันว่าสายเนื้อเรื่องจะต้องฟินกันยิ่งกว่าเดิมครับ
【เรื่องราวบทต่อไปของไอ้แมงมุม】
แน่นอนว่าเมื่อเป็นภาคต่อแบบนี้ เนื้อหาของเกมก็จะต่อเนื่องจากภาคแรก (และภาคสปินออฟอย่าง Miles Morales) เลย ซึ่งภาคนี้เรื่องราวนอกเหนือจากการรับบทเป็นฮีโร่ในเกมเพลย์หลักแล้ว ทั้ง Peter และ Miles จะได้เจอกับปัญหาในชีวิตประจำวันแต่ละอย่างผ่านคัตซีนเหมือนกัน แต่มาถึงตอนนี้หลายคนคงจะสงสัยว่าแล้วถ้าไม่ได้ติดตามกันจากภาคที่แล้วมาก่อน จะงงหรือสับสนหรือเปล่า คำตอบก็คือไม่ เพราะว่าก่อนเข้าเกมผู้เล่นสามารถชมวิดีโอที่เล่าเรื่องคร่าวๆ ได้แบบไม่กี่นาที แค่นี้ก็ทำความรู้จักกับสองฮีโร่ได้แล้วครับ
การผจญภัยครั้งใหม่ของทั้งคู่ยังคงอยู่ในพื้นที่หลักๆ นั่นคือมหานครนิวยอร์กซิตี้ แต่ Peter และ Miles สามารถเดินทางออกนอกแผนที่เดิมนั่นคือส่วนของแมนฮัตตันไปยังจุดอื่นๆ อย่างควีนส์ได้แล้วด้วย ซึ่งเราจะได้ห้อยโหนกันตั้งแต่เนื้อหาช่วงต้นเกมเลยครับราวกับว่าทีมงานต้องการโชว์ตัวอย่างให้ดูว่าภาคใหม่นี้เล่นใหญ่กว่าเดิม มีพื้นที่ให้สำรวจมากขึ้นกว่าเดิม และในส่วนรูปแบบการเล่าเรื่องจะยังคงโครงสร้างแนวทางเดิม นั่นคือให้ผู้เล่นสามารถไปตามจุดหลักในแผนที่เพื่อเริ่มคัตซีนหรือภารกิจอย่างอิสระครับ
กดปุ่ม R3 เพื่อตรวจสอบกิจกรรมรอบข้าง ทำเควสต์รองในพื้นที่ของเมืองแอเรียต่างๆ
【การควบคุม, Symbiote Suit และ การปรับแต่งสกิลหรือของเล่นใหม่อื่นๆ】
ในส่วนของการควบคุมหากใครเคยเล่นภาคเก่ามาแล้วก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่สำหรับคนที่เล่นบนเครื่องเล่น PlayStation 4 มาก่อนแบบผม อาจจะรู้สึกแปลกใจกับการจับจอย DualSense อยู่บ้างเหมือนกันเพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าภาคนี้ได้ถูกพัฒนามาเพื่ออุปกรณ์รุ่นใหม่เต็มที่ ดังนั้นเรื่องของระบบสั่นและลูกเล่นอื่นๆ ของตัวจอยจะใส่มาครบ เช่นการโหนใยแมงมุมด้วยปุ่ม R2 แม้จะเป็นคำสั่งเดิมเลยนะครับ แต่ก็จะมีความรู้สึกหนืดๆ เหมือนแรงต้าน ตรงนี้แล้วแต่คนชอบ หากใครไม่ชอบก็ปิดจากตั้งค่าตัวเครื่องเองเลยก็ได้ ผมรู้สึกว่ามันหนักๆ มือ เล่นไม่ค่อยสบายเท่าไรต้องยอมรับตรงๆ
ตัวละครอย่างที่ได้ระบุไว้ข้างต้น Peter กับ Miles สามารถสลับตัวละครกันได้ตลอดเวลาตามความต้องการตราบใดที่ยังไม่ได้เข้าสู่ภารกิจ ซึ่งผู้เล่นที่กำลังเดินชิลในเมืองก็อาจจะเจอเหตุการณ์ผู้ร้ายให้เราเข้าไปสู้เพื่อเก็บแต้มมาอัปเกรดความสามารถได้ และสกิลของทั้งคู่จะไม่เหมือนกันหมดทุกอย่าง โดยผังอัปเกรดแบ่งออกเป็นสามผังหลักคือผังรวม และผังแยกสกิลที่เป็นทักษะเฉพาะตัว เช่น Miles Morales ที่เน้นย้ำการต่อสู้ด้วยพลังไฟฟ้าคล้ายของเดิม ขณะที่ผังสกิลรวมจะเป็นท่าทั่วๆ ไป นอกจากนี้ก็จะมีของเล่นใหม่อื่นๆ เช่น โดรนจู่โจมที่ใช้งานได้ด้วยปุ่ม R1 หรือจะเป็นเครื่องร่อนก็มี ส่วนนี้คือของที่แชร์กันได้
นอกจากผังอัปเกรดความสามารถ จะมีชุดให้เลือกเปลี่ยนทั้งลวดลาย และสีสัน
อีกหนึ่งไฮไลต์ก็คือชุด Symbiote Suit ที่เพิ่มการโจมตีสุดระห่ำเข้ามาให้กับ Peter Parker โดยเฉพาะ ตรงนี้จะเกี่ยวข้องกับส่วนเนื้อเรื่องดังนั้นเลยไม่ขอลงรายละเอียดว่ามาจากไหน แต่จะพบว่าลักษณะการต่อสู้นั้นมีความแปลกใหม่ไปจากเดิมมากทีเดียวครับ และต้องชื่นชมในส่วนของการสร้างคาแรกเตอร์ของ Peter Parker ระหว่างที่ใช้ Symbiote Suit เพราะว่าจะได้ยินโทนเสียงการพูดที่ดุดันและไม่เป็นมิตรสักเท่าไร เป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ใส่มาแล้วให้ความอิน
【แอ็กชันยังตูมตามเหมือนเดิม】
ถัดมาเรื่องของแอ็กชันในเกมพวกเราก็ไว้ใจ Insomniac Games ได้เสมอจริงๆ ครับเพราะว่าเน้นความรวดเร็วฉับไวเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือความอลังการในฉากต่อสู้ต่างๆ หากเป็นฉากสำคัญๆ เราจะพบว่าเกมมีความเป็น Cinematic เข้ามาแบบเท่ๆ ชนิดที่ว่าโดนศัตรูต่อยกระเด็นยังดูเท่ (ฮา) ซึ่งเรื่องการกำกับมุมกล้องต่างๆ ตรงนี้ไม่น่าห่วงสักเท่าไรอยู่แล้วเพราะมีชั่วโมงบินสูง ใครที่ชอบความบู๊ไม่ต้องกลัวว่าจะชืด ได้จิกเบาะกันตลอดการเล่น
【เป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย】
จุดนี้จะว่าเป็นจุดแข็งหรือจุดอ่อนก็ไม่อาจทราบได้ เพราะเป็นแก่นเนื้อเรื่องที่แอบแฝงไว้แบบเดิมเป๊ะๆ แต่ในแง่คุณภาพและการถ่ายทอด ยังคงอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม เรื่องนั้นก็คือการนำเสนอเกี่ยวกับการเติบโตของ Miles และ Peter นั่นเอง ซึ่งเราจะได้เห็นมุมที่เป็นชีวิตประจำวันของพวกเขามากขึ้นอย่างชัดเจนเลย เช่น Peter ที่แม้จะเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานแล้วจริงๆ แต่ไม่กี่เดือนก่อนเขาก็ยังเป็นไอ้หนุ่มเหลาเหย่อยู่กับคุณป้าดังนั้นจึงมีความเดียงสาอยู่บ้าง ขณะที่ Miles ก็คือนักเรียนมัธยมปลายที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยมหาวิทยาลัย
ความแตกต่างก็คือทั้งคู่ได้เจอกับความสูญเสียครั้งใหญ่รวมไปถึงเคยก้าวข้ามอุปสรรคมาแล้ว แต่พื้นที่เล็กๆ ในใจของพวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์ทั่วไปที่อาจจะไม่ชินหรือประสากับโลกที่อยู่ตรงหน้ามากนัก และยิ่งต้องมาแบกรับหน้าที่ ‘อันใหญ่ยิ่ง’ ด้วย ดังนั้นจากเดิมที่มุมการเป็นฮีโร่นี้พวกเขาดูจะมีความเดียวดายอยู่บ้างแม้ต้องปั้นตัวเองเป็นสายหมาป่าเดียวดาย แต่เมื่อ Peter และ Miles รู้ว่าทั้งคู่คอยเฝ้าระวังหลังและมีคนที่ไว้ใจอยู่ด้วยกัน ก็ทำให้เขากล้าข้ามผ่านปัญหาต่างๆ ได้และคอยเสริมกำลังกันและกัน อาทิ Peter ที่มีความเป็นอาจารย์ – เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นจากการที่ต้องคอยโค้ช Miles ซึ่งเคสหลังนี้จะเห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวดูพึ่งพาได้มากขึ้นหากมองจากมุมมองเพื่อน หรือคนทั่วไป ที่ไม่ใช่ในฐานะสไปเดอร์
【กราฟิกสวยงามมาก】
Marvel’s Spider-Man 2 มาพร้อมกับการรองรับภาพความละเอียดระดับสูง 4K และเฟรมเรตสูงสุด 60FPS เหมือนเดิม โดยสามารถเลือกปรับ Performance และ Fidelity ซึ่งโหมดการแสดงผลทั้งคู่ให้ภาพที่ 4K ทั้งหมด แต่สำหรับโหมด Performance ที่เน้นเฟรมเรตจะเป็น 4K แบบอัปสเกลจากความละเอียดพื้นฐานที่ 1440p ส่วน Fidelity จะเป็น 4K แท้พร้อมฟิลเตอร์พิเศษรวมไปถึง Ray-tracing แต่เฟรมจะอยู่ที่ 30FPS เท่านั้น จากการเล่นไม่พบอาการกระตุกให้อารมณ์เสียแต่อย่างใดครับ อ้อ! และยังมีโหมดถ่ายรูปให้หาช็อตเจ๋งๆ เช่นกันครับ
【ภาษาไทย】
ภาคนี้ถือเป็นภาคแรกของซีรีส์ และเป็นเกมแรกของสตูดิโอ Insomniac Games ที่ให้การสนับสนุนคำบรรยายภาษาไทย ซึ่งจะเป็นซับไตเติ้ลแบบฝังมากับตัวเกม ดังนั้นจะต้องปรับเมนูเครื่อง PlayStation 5 ให้เป็นภาษาไทยถึงจะมีการแสดงผลขึ้นมา คุณภาพการแปลส่วนไดอะล็อกถือว่าโอเค มีจุดผิดเรื่องการสะกดคำและแปลคำที่รวบรัดไปบ้าง แต่ใส่อารมณ์มาได้ไม่แย่เท่าไร นอกจากนั้นจะมีเรื่องตัวหนังสือตกขอบ และชื่อภารกิจที่ผิดบริบทในบางแห่ง คาดว่าจะสามารถแก้ไขผ่านอัปเดตในอนาคตได้เนื่องจากเป็นปัญหาทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม ThisIsGame Thailand ไม่ได้นำมาพิจารณารวมกับคะแนนครับ
【บทสรุป】
ต้องบอกเลยว่า Marvel’s Spider-Man 2 เป็นเกมภาคต่อที่ทุกคนรอคอยและเปี่ยมไปด้วยคุณภาพที่คาดหวังเลย ซึ่งเนื้อหาภายในเกมนั้นอาจจะไม่ได้ถึงขั้นกับเป็นมหากาพย์นัก ทว่าด้วยโทนของเรื่องและแก่นที่ถูกนำเสนอก็ทำให้เกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมฮีโร่ที่หลายคนไม่ควรพลาดโดยเฉพาะใครที่ติดตามไอ้แมงมุมอยู่เพราะเราจะได้เห็นมิติด้านอื่นๆ ชัดเจนกว่าเดิม กล่าวคือเป็นการนำเกมภาคแรกที่มีมาตรฐานสูงมาต่อยอดใหม่ด้วยจุดที่สามารถเสริมได้ให้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม และโบนัสอื่นๆ ไม่ต้องห่วงเพราะว่ามีมาให้ติดตามปลดล็อกอีกมาก เห็นแบบนี้อยากบอกอีกครั้งว่า Miles และ Peter เด่นแบบไม่มีใครยอมใคร แถมประเด็นความหลากหลายของ Miles ยังใส่มาครบ ทั้งแฟนสาวที่เป็นผู้มีความต้องการพิเศษและคนรอบข้างจากต่างวัฒนธรรม เพียงแค่เรื่องวัฒนธรรมอาจจะไม่ได้โฟกัสมากเหมือนภาคสปินออฟของตน