Switchรีวิวเกม

[รีวิว] Mario Kart 8 Deluxe: Booster Course Pass – Wave 1

Mario Kart 8 Deluxe: Booster Course Pass กับสนามแข่งขันใหม่ 48 แห่ง ในราคาแค่ครึ่งเดียว!

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เผลอแปบเดียว Mario Kart 8 ก็มีอายุใกล้จะครบ 10 ปีแล้ว โดยนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกบน Wii U ตัวเกมก็ยังมีสนามแข่งแค่เพียง 32 แห่ง ก่อนที่จะเปิดตัว DLC เสริมเข้ามารวมเป็น 48 แห่ง และมัดแพครวมขายกันอีกครั้งในเวอร์ชั่น Deluxe บน Nintendo Switch จนจากเกมภาคที่ทำรายได้ได้ไม่น่าประทับใจ ได้พุ่งทะยานเป็นเกมที่ขายดีที่สุดของเครื่องเล่นชนิดที่ว่าทุกคนต้องมีติดบ้านไว้เสิร์ฟความป่วงกันกับเพื่อนๆ

เวลาผ่านไป หลายคนก็คิดว่าเป็นอันสมควรแก่เวลาที่เกมภาคต่อจะเริ่มต้นวางขายเสียที แต่แล้วในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Nintendo ก็ได้ประกาศยืนยันว่าเกมนี้จะได้รับการอัปเดตสนามใหม่อีก 48 สนามหรือเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และล่าสุด DLC ชุดแรกก็มาถึงมือของพวกเราแล้ว ซึ่งในบทความนี้ ก็มีเรื่องราวน่าสนใจมาแบ่งปันในรีวิวนี้ด้วย แต่จะมีความประทับใจอะไรบ้างนั้นขอเชิญติดตามกันได้เลย

ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้!

【คืนชีพเกมดังสุดฮิต ให้ติดใจกว่าเดิม】

Mario Kart 8 Deluxe ถือเป็นเกมที่มีความสนุกและคุณภาพคับแก้วของมันอยู่ในตัวแล้ว เพราะถึงแม้ว่าเราจะไม่มีเพื่อนมาเล่นกันที่บ้านด้วยสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน แต่ระบบการเล่นแบบออนไลน์ที่เปิดเข้ามาเมื่อไหร่ก็มีคนอยู่เต็มห้องตลอด ทำให้เราพอมั่นใจได้เลยว่าเลือดยังคงไหลเวียนอยู่ในสุขภาพของเกมนี้แน่นอน (ว่าไปนั่น) แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องยอมรับว่าตัวเกมเวอร์ชั่นต้นฉบับวางขายมาตั้งแต่ปี 2014 และด้วยจำนวน 48 สนามหลักที่มาพร้อมกับเกมแม้ว่าจะฟังดูเยอะ แต่เอาจริงๆ เล่นกันแปบๆ ก็กลายเป็นว่าจำเลย์เอาต์กันได้หมดแล้ว

การเพิ่มสนามเข้ามาถึง 48 สนามด้วยราคาเพียงแค่ $24.99 หรือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเกมเต็ม จัดได้ว่าเป็นดีลที่คุ้มทุนและจะทำให้เราได้อยู่กับ Mario Kart 8 Deluxe กันไปอีกยาวๆ เพราะว่า Nintendo ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าตลอดระยะเวลาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ไปจนถึงสิ้นปี 2023 จะมีการปล่อยสนามใหม่เป็นระลอก ระลอกละ 8 สนามไปจนครบกำหนด ซึ่งจะเป็นสนามที่ได้รับการรีมาสเตอร์ใหม่จากประวัติศาสตร์เกม Mario Kart ตั้งแต่ยุคซูเปอร์แฟมิคอมมาจนถึงภาค Tour บนสมาร์ทโฟนเลย ใช่แล้ว! ฉากที่มาจากโลกแห่งความจริงอย่างมหานครโตเกียวหรือ ปารีสเมืองน้ำหอม จะถูกนำมาจัดให้เราได้สำรวจกันแบบเต็มตามากกว่าเกมภาค Tour ที่เป็นระบบขับอัตโนมัติแล้ว!

【บรรยากาศที่คุ้นเคย ผสมผสานด้วยฉากที่ปรากฏในเกมภาคหลักครั้งแรก】

การเริ่มต้นสนาม 8 แห่งใน DLC ชุดแรก ถือว่า Nintendo เลือกไลน์อัปมาได้น่าสนใจมากเลยครับ เปิดตัวด้วยถ้วยรางวัลแรกคือ Golden Dash Cup มีการผสมผสานฉากจากเกม 4 ภาคแบบไม่ซ้ำนั่นคือ Tour, Mario Kart 7, Mario Kart 64 และ Mario Kart Wii ที่ล้วนเป็นภาคสำคัญด้วยกันทั้งสิ้น แต่การเลือกให้ Paris Promenade มาเป็นสนามแรกสุด ได้ทำให้คำถามในใจที่ว่า ‘แล้วฉากจากเกมภาค Tour ที่มักจะมีการแบ่งออกตามเวอร์ชั่นต่างๆ’ จะถูกเลือกเวอร์ชั่นมาแบบไหน? คำตอบก็คือปู่นินของเราจับทุกเวอร์ชั่นเข้ามาไว้ด้วยกันเลย โดยในสองแลปแรกผู้เล่นจะได้ขับรถชมหอไอเฟลและย่านการค้าท่ามกลางบรรยากาศสีนวลตา แต่ในแลปสุดท้าย จะมีการเปลี่ยนเส้นทางเดินรถให้เป็นการขับย้อนกลับแทน ถือเป็นกิมมิคใหม่ที่ถูกนำมาใส่เป็นครั้งแรกและน่าตื่นตาตื่นใจมากๆ ในมุมมองของคนที่เล่นภาคหลัก

ดูเส้นทางบนแผนที่ด้านขวาก็คือซับซ้อนมากกกก

ถัดมาที่สนามที่สองจะเป็น Toad Circuit ซึ่งเป็นสนามแรกจากเกมภาค Mario Kart 7 เหมือนกัน และความซิมเปิ้ลของมันแม้ว่าจะดูจืดชืด แต่ผมมองว่าเป็นการพักยกจากความหวือหวา เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ Choco Mountain ฉากยอดฮิตจากภาค 64 ที่ได้รับการแก้ไขฉากบางส่วนเช่นทางเนินที่มีหินตกก็จะเปลี่ยนเป็นบ่อน้ำและมีแอ่งกว้างให้เราใช้เครื่องร่อน ปิดท้ายด้วย Coconut Mall ด่านที่หลายคนเรียกร้องมากที่สุดก็ได้กลับมาใน DLC ชุดแรก เล่นเอาหายคิดถึง ก่อนจะมายังถ้วยรางวัลที่สองคือ Lucky Cat Cup ที่เป็นสัญลักษณ์กระดิ่งแมวคล้ายของญี่ปุ่นก็จะใส่ฉากสไตล์ญี่ปุ่นมาสองฉากคือ Tokyo Blur และ Ninja Hideaway นั่นเอง

ว่าแล้วผมขออนุญาตแนะนำฉากทั้งสองฉากนี้ก่อนเพื่อที่จะได้แบ่งฉากใหม่ – เก่าอย่างชัดเจน โดย Tokyo Blur ก็เป็นอีกหนึ่งฉากที่มีการแบ่งเวอร์ชั่นจากภาค Tour และยังใช้ระบบการเปลี่ยนเส้นทางตามแลป แต่รอบนี้จะเปลี่ยนกันทุกแลป ผู้เล่นจะได้ขึ้นทั้งทางด่วน ขับรถผ่านตึกเบียร์อาซาฮี หรือลอดใต้ศาลเจ้ากันแบบเต็มอิ่ม ขณะที่ Ninja Hideaway นั้นก็เป็นฉากจากภาค Tour เหมือนกัน แต่คาดว่าเป็นเพราะฉากนี้ไม่ได้อิงจากสถานที่โลกแห่งความจริงจึงไม่มีการกำกับภาคและมีเส้นทางเป็นแบบฉากแข่งขันตามปกติ ซึ่งลูกเล่นของด่านนี้มีทั้งการร่อน และทางลัดต่างๆ ให้เราได้สำรวจกันอย่างสนุกสนาน ปิดท้ายด้วย Shroom Ridge จากภาค Nintendo DS ที่ดูมีชีวิตชีวากว่าเดิมและเพลงประกอบแบบติดหู กับ Sky Garden ฉากจากภาคเกมบอยแอดวานซ์ที่ปรับสเกลจากพื้นเรียบๆ มาใส่ลูกเล่นเป็นการขี่รถขึ้นสู่เส้นทางบนก้อนเมฆที่ลาดยาวขึ้นฟ้าแล้วเหาะลงมาสวยๆ

【กราฟิก และข้อจำกัดที่มองข้ามไม่ได้】

ฉันใดก็ดี สิ่งที่เป็นประเด็นตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเห็นทีจะเป็นอะไรไปไม่ได้ครับนอกเสียจากเรื่องของกราฟิก ที่มีการเพ่งเล็งว่าถูกนำมาจาก Asset ของเกมภาค Tour ด้วยแนวทางศิลป์ที่ถูกลดสเกลความสมจริงมาจนเหมือนกับภาพเขียนการ์ตูนหรือดินน้ำมันมาแปะกัน ตรงจุดนี้ลางเนื้อชอบลางยา เพราะว่าในความเป็นจริงการแข่งขันจะผ่านไปด้วยเวลาที่ค่อนข้างเร็วจนเราแทบจะไม่ได้สังเกตรายละเอียดรอบข้าง และสีสันที่ดูสดใสนั้นก็เข้ากับโทนของเกมได้ดีกว่าด้วยเหมือนกันตามมุมมองของผมเองนะ

แต่จุดที่ต้องวิจารณ์คือการแก้ไขรายละเอียดฉากบางฉาก ยกตัวอย่างเช่น Coconut Mall ที่เปลี่ยนจากบันไดเลื่อนมาเป็นทางเลื่อนขึ้นที่ดูราบเรียบแทนที่จะเป็นขั้นเหมือนภาคก่อนๆ และในส่วนของอุปสรรคช่วงท้ายที่จะเป็นรถสัญจรไปมา ก็เปลี่ยนเป็นโมเดลรถนิ่งๆ ที่เราชนไปก็เหมือนกับของแข็งธรรมดา เอาเข้าจริงดูแล้วมันไม่ค่อยเมคเซนส์เท่าไหร่ นอกจากนี้ฉาก Sky Garden ก็มีการตัดเส้นทาง ให้กลายเป็นทางตรงแบบโล่งๆ ด้วยเหมือนกันเพราะอิงมาจากเวอร์ชั่นของภาค Tour ตรงนี้ดูน่าเสียดายไม่น้อยเลย

【แนวทางใหม่ที่ควรจะเป็นในอนาคต】

จากสนามทั้ง 8 แห่งที่ได้เพิ่มเข้ามาใน DLC ชุดแรกนี้ ทำให้เราพอจินตนาการได้ว่าในอนาคต ฉากที่มีการรีมาสเตอร์อาจจะอิงมาจากเกมภาค Tour ที่ถูกลดรายละเอียดไป แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น Nintendo อาจจะเลือกฟังเสียงของผู้เล่นที่ต้องการความตั้งใจในการออกแบบสนามแข่งรถได้มากกว่านี้ เพราะถ้าหากจะอิงจากเกมมือถือจริงๆ ฟังก์ชั่นหลักอย่างการขับรถต้านแรงโน้มถ่วงที่ถือเป็นจุดเด่นประจำภาคจะถูกตัดทอนไปโดยสิ้นเชิงทั้งๆ ที่ภาพโปรโมท DLC ชุดนี้มันมีรูปของพวกตัวละครกำลังขี่รถโหมดนี้กันอยู่! นอกจากนั้นแล้ว หากเป็นไปได้เราก็คาดหวังว่าตัวละครใหม่ๆ หรือคอสตูมพิเศษจากเกมภาค Tour ก็น่าจะมีเพิ่มเข้ามาให้เราได้ใช้งานบ้างเหมือนกันนะ

【บทสรุป】

ท้ายที่สุดแล้ว Mario Kart 8 Deluxe: Booster Course Pass อาจจะไม่ใช่ส่วนเสริมที่สมบูรณ์แบบ แต่มันก็เป็นเครื่องต่อชีวิตให้เกมภาคนี้ได้ไปต่อกันยาวๆ และยังเป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้กลับมาสนุกกับสนามแข่งขันเก่าๆ รวมไปถึงสนามแข่งจากโลกแห่งความจริงที่มีแค่เพียงในภาค Tour ด้วย ซึ่งจุดเริ่มต้นของ DLC ในชุดแรก ก็ทำหน้าที่แนะนำภาพรวมของสนามอีก 40 แห่งที่เหลือได้เป็นอย่างดี และทำให้เราอดใจรอที่จะติดตามกันต่อไปไม่ไหวแล้ว

สำหรับใครที่อยากเล่น ขอแนะนำว่า Booster Course Pass เปิดราคาที่ $24.99 โดยจะเป็นการซื้อสนามแข่งครบทั้งหมดไม่มีแบ่งขาย แต่ผู้เล่นที่มีสิทธิ์สมาชิก Nintendo Switch Online Expansion Pack จะสามารถดาวน์โหลดชุด DLC นี้ได้ฟรีในฐานะส่วนหนึ่งของบริการ เริ่มต้นตั้งแต่ 18 มีนาคม 2022 เป็นต้นมา และยังมีการเริ่มต้นอัปเดตเข้าสู่ห้องออนไลน์ให้เล่นแล้วเหมือนกัน อย่าลืมไปลับฝีมือกันบน Mario Kart 8 Deluxe นะครับ

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save