รีวิวเกม

[รีวิว] LIVE A LIVE เกมในตำนานที่ถูกชุบชีวิตกลับมาใหม่ให้อลังการยิ่งกว่าเดิม

ร้อยเรียง 7 เรื่องราวออกมาได้กลมกล่อมแต่จัดจ้าน

LIVE A LIVE เกม Turn-Based RPG เป็นเกมเพลย์ที่โดดเด่นด้วยการต่อสู้แบบตาราง 7 x 7 พร้อมกับทักษะความสามารถของตัวละครที่มีให้เลือกใช้มากมาย แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องราวของ 7 ตัวละครที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ในทุก ๆ ตอนจะมีบางอย่างเชื่อมโยงถึงกัน และเมื่อผู้เล่นเติมเต็มเรื่องราวทั้ง 7 จนสมบูรณ์ ผู้เล่นจะได้พบกับเรื่องราวที่ 8 ที่จะเฉลยทุกสิ่ง

และในวันนี้เกม LIVE A LIVE ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการบน Switch แล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ผู้อ่านได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 27 กรกฎาคม 2565 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

ชุบชีวิตเกมเก่าด้วยกราฟิก HD-2D ทำให้เกมสดใหม่ราวกับเป็นเกมยุคโมเดิร์น

มาจนถึงจุดนี้คงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าการที่ Square Enix ทุ่มทุนไปกับการพัฒนากราฟิกแบบ HD-2D นั้นคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะรองรับการพัฒนาเกมใหม่ ๆ อย่าง Octopath Traveler หรือ Triangle Strategy ให้ดูแปลกตาแล้ว พวกเขายังสามารถใช้กราฟิกสไตล์นี้ในการชุบชีวิตเกมยุคเก่าให้กลับมาสดใหม่ราวกับเป็นเกมยุคโมเดิร์นได้แบบสุด ๆ ซึ่งเกม LIVE A LIVE ก็เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบสำหรับต้นแบบในการชุบชีวิตเกมด้วยกราฟิก HD-2D เพราะหากผู้อ่านคนใดไม่ทราบมาก่อนว่าเกมนี้เคยวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 1994 ก็คงคิดว่าเป็นเกมใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาในยุคนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าความสวยงามของกราฟิกภายในเกมทำออกมาได้ประทับใจเป็นอย่างมาก

นอกเหนือจากความสวยงามที่ปฏิเสธไม่ได้แล้ว ในส่วนของเอฟเฟกต์ประกอบภายในเกมนี้ก็ทำออกมาได้อลังการไม่แพ้กับบรรยากาศภายในเกมเลยแม้แต่น้อย และเกม LIVE A LIVE มีตัวละครจำนวนมากให้เราได้เล่น โดยตัวละครแต่และตัวก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่กังฟู , วิชานินจา , พลังจิต และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้เอฟเฟกต์ในเกมถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะยกระดับความมันส์ในการเล่นเกมนี้ให้ถึงขีดสุด แน่นอนว่า LIVE A LIVE เวอร์ชั่น Remake ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ

เกมเพลย์ Turn-Based ที่มาพร้อมระบบตาราง 7 x 7 ที่โดดเด่น

LIVE A LIVE เป็นเกมเพลย์ที่แตกต่างไปจากเกม Turn-Based RPG เกมอื่น ๆ อยู่ไม่น้อย เพราะแทนที่เกมนี้จะใช้รูปแบบการยืน 2 ฝั่งแล้วผลัดกันโจมตี เกมนี้จะโยนตัวละครทุกตัวเข้าสู่สนามรบแบบตาราง 7 x 7 ซึ่งผู้เล่นสามารถเคลื่อนที่ตัวละครไปที่ใดก็ได้เพื่อหาจังหวะโจมตี หรือฟื้นฟูพลัง โดยทุกครั้งที่เดิน เกจ Active Time Battle (ATB) ก็จะเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย และเมื่อผู้เล่นโจมตีศัตรู ก็จะทำให้เกจ ATB ของศัตรูเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นอกจากนี้การโจมตีของผู้เล่นก็จะมีหลากหลายแบบแตกต่างกันออกไปซึ่งก็สอดคล้องกับการที่ตัวละครเดินไปไหนมาไหนบนสนามรบได้ โดยท่าโจมตีบางท่าโจมตีได้แค่แถวทแยง ท่าโจมตีบางท่าโจมตีได้แค่แนวตรง ท่าโจมตีบางท่าไม่สามารถโจมตีระยะประชิดได้ จะต้องอยู่ห่างศัตรู 2-3 ช่อง เป็นต้น นอกจากนี้ศัตรูยังมีการชนะทางแพ้ทางด้วย หากเราโจมตีด้วยท่าที่ศัตรูแพ้ทางก็จะทำดาเมจได้มากขึ้น แต่ถ้าโจมตีด้วยท่าที่ศัตรูต้านทานได้ ก็จะทำให้ทำดาเมจได้เบาลงมาก ๆ และด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ทำให้การต่อสู้ภายในเกมนี้ค่อนข้างที่จะต้องใช้สมองวางแผนในการต่อสู้อยู่ไม่น้อย เพราะการวิ่งเข้าไปโจมตีศัตรูเฉย ๆ ก็อาจทำให้ตัวละครเราสู่สุคติได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว

7 ตัวละคร 7 รสชาติ ที่ผสมผสานได้ลงตัวราวกับโต๊ะจีนชั้นยอด

หากจะให้พูดถึงจุดเด่นที่สุดของเกม LIVE A LIVE ก็คงหนีไม่พ้น ตัวละครที่มีให้เลือกเล่นมากถึง 7 ตัวละคร (และอีก 1 ตัวละครลับเมื่อเล่นทั้ง 7 ตัวละครจบแล้ว) โดยตัวละครทั้ง 7 ตัวนี้ก็เรียกได้ว่าเหมือนกับอาหารชั้นยอด 7 จานที่อยู่บนโต๊ะจีนให้เราได้เลือกทาน โดยตัวละครทั้ง 7 ตัวนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งความสามารถของตัวละคร เช่น Pogo ตัวละครยุคดึกดำบรรพ์ที่มีความสามารถในการ ดมกลิ่น , Akira ตัวละครในยุคอนาคตอันใกล้ที่มีความสามารถในการ อ่านใจ , Oboromaru นินจาจากยุค Edo ที่สามารถพรางตัวได้ , Masaru นักสู้ในยุคปัจจุบันที่สามารถเรียนรู้สกิลหลังจากโดนโจมตีได้ โดยตัวละครแต่ละตัวจะต้องใช้ความสามารถของพวกเขาในการฝ่าฟันด่านของตนเอง

นอกจากนี้องค์ประกอบของฉากต่าง ๆ ของทั้ง 7 ตัวละครก็เรียกว่าทำออกมาได้แตกต่างกันอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ตัวละคร Sundown ที่จะมีเรื่องราวอยู่ในธีมคาวบอย ซึ่งเราก็จะได้ผจญภัยในกลิ่นอายทะเลทราย พร้อมกับการดวลปืน และดนตรีแบบคาวบอย , Shifu จอมยุทธ์จีนที่เราจะได้เห็นเมืองแบบจีนโบราณ และป่าไผ่ที่สวยงาม พร้อมดนตรีแบบจีน ๆ ให้เราได้ฟังกันเพลิน ๆ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวละครทั้ง 7 จะมีความแตกต่างกันอย่างมาก แต่พวกเขาทั้งหมดก็มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่นั่นก็คือ การต่อสู้แบบตาราง 7×7 และกราฟิก HD-2D ทำให้ทุกด่านนั้นเหมือนกับอาหารคนละเมนูที่อยู่บนโต๊ะจีนที่ให้รสชาติค่อย ๆ คละเคล้ากันไปจนกลายเป็นมื้ออาหารรสเลิศนั่นเอง

สำหรับรีวิวนี้ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

บทสรุป

ผู้เขียนยังคงยืนยันว่า LIVE A LIVE เวอร์ชั่น Switch เป็นเกมที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นเก่าที่อยากจะเติมเต็มความรู้สึกในวัยเด็ก หรือผู้เล่นใหม่ที่ไม่เคยรู้จักเกมนี้มาก่อนก็สามารถสนุกไปกับเกมนี้ได้ อีกทั้งเรื่องราวภายในเกมนี้ยังน่าติดตามอีกด้วย! - 9

9

คะแนน

องค์ประกอบของตัวละครทั้ง 7 ที่แตกต่างกันอย่างลงตัว กราฟิก HD-2D ที่ทำให้เกมนี้ดูทันสมัยราวกับเป็นเกมยุคใหม่ เกมเพลย์ที่โดดเด่นด้วยระบบตาราง 7 x 7 ที่ทำให้การเล่นเกมนี้ต้องวางแผนมากกว่า Turn-Based ทั่วไป แต่มีเฟรมเรตตกในบางช่วงและบางด่านเกมจบเร็วมาก

User Rating: Be the first one !

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save