[รีวิว] Honkai: Star Rail ช่วง Closed Beta

Honkai: Star Rail เป็นเกม Turn-Based RPG ที่ในตอนนี้ได้เปิดให้ทดลองเล่นแบบ Closed Beta เป็นที่เรียบร้อย โดยเกมนี้จะนำเสนอเรื่องราวที่น่าติดตาม เกมเพลย์ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยเกมดังกล่าวจะพาผู้เล่นไปผจญภัยในจักรวาลข้ามดวงดาว ถึงเวลากระโดดขึ้นรถไฟ Astral Express และสัมผัสกับความมหัศจรรย์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดของกาแล็กซีในการเดินทางครั้งนี้ที่เต็มไปด้วยการผจญภัยและความตื่นเต้น

และในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าเล่นเกม Honkai: Star Rail ช่วง Closed Beta แล้ว และก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ผู้อ่านได้ติดตามกันครับ

มีภาษาไทย แถมแปลได้ดีมากด้วย

ประเด็นแรกที่ผู้เขียนรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากในการเล่นเกม Honkai: Star Rail ก็คือการแปลภาษาไทยภายในเกมนี้ ซึ่งผู้เขียนคาดหวังไว้กับเรื่องนี้พอสมควร เนื่องจากเกมของ HoYoverse จะมีการแปลภาษาไทยให้เราได้ใช้งานกันอยู่แล้วในหลาย ๆ เกม ทำให้ผู้เขียนหวังว่า Honkai: Star Rail จะทำออกมาได้ดีไม่แพ้เกมที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ ซึ่งผลที่ออกมาก็คือ “ทำออกมาได้ดีมาก ๆ”

เท่าที่ผู้เขียนได้ลองเล่นดู และอ่านบทสนทนาต่าง ๆ โดยเทียบระหว่างภาษาอังกฤษ และภาษาไทยก็พบว่าแปลออกมาได้ถูกต้องทั้งหมด แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนประทับใจมากกว่าเดิมก็คือ การแปลประโยคภายในเกมไม่ได้แค่แปลผ่าน ๆ ให้เพียงแค่เกมนี้มีภาษาไทย แต่ทางผู้แปลได้ทำการบ้านมาดีมาก ๆ มีการใช้คำศัพท์ รวมไปถึงสำนวนต่าง ๆ ที่เป็นภาษาพูดมากกว่าการแปลความธรรมดา รวมไปถึงมีการใช้คำศัพท์แสลงด้วย เช่น หมดแพชชั่น เจ้าตัวแสบ เป็นต้น

และด้วยข้อมูลทั้งหมดนี้ทำให้ผู้เขียนมองว่าเกม Honkai: Star Rail เป็นอีกหนึ่งเกมที่ผู้เล่นสายเสพย์เนื้อหาจะต้องชื่นชอบเพราะว่าการแปลภาษาไทยภายในเกมนี้ได้เสริมอรรถถรสในการเล่นเกมให้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากผู้อ่านคนใดที่ไม่เสพย์เนื้อเรื่อง เอาแต่กด Skip บอกได้เลยว่า “คุณพลาดมาก” ครับ

เกมเพลย์สำรวจฉากก่อนเข้าต่อสู้ที่มีรายละเอียดลึกซึ้ง

ภายในเกม Honkai: Star Rail ผู้เล่นจะได้เข้าต่อสู้กับมอนสเตอร์ต่าง ๆ ภายในเกมเพลย์แบบ Turn-Based Strategy ซึ่งแตกต่างไปจากเกมอื่น ๆ ของค่ายนี้ ซึ่งในตอนแรกผู้เขียนแอบกังวลอยู่ว่าทางผู้พัฒนาจะทำออกมาได้ดีขนาดไหน ซึ่งผลงานของพวกเขาในครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้น่าประทับใจไม่แพ้เกมอื่น ๆ ที่มีเลยครับ

ในแต่ละด่านนั้นผู้เล่นจะได้มีโอกาสสำรวจฉากต่าง ๆ ซึ่งภายในฉากนั้นก็จะมีสิ่งแวดล้อมให้ผู้เล่นได้มีปฏิสัมพันธ์จำนวนมากเช่น การทำลายสิ่งของบางอย่างเพื่อรับไอเทมที่ซ่อนอยู่ การเปิดหีบสมบัติเพื่อรับไอเทมพิเศษมากมาย รวมไปถึงการไขปริศนาเพื่อรับรางวัล หรือเพื่อค้นพบเส้นทางพิเศษที่มีสมบัติซ่อนอยู่

แต่ที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นการที่ผู้เล่นสามารถโจมตีศัตรูที่อยู่ในฉากได้เพื่อช่วงชิงจังหวะการโจมตีศัตรู ซึ่งหากผู้เล่นกดโจมตีศัตรูก่อน จะทำให้ผู้เล่นเข้าสู่การต่อสู้แบบ Turn-Based Strategy ด้วยการที่ตัวละครฝั่งผู้เล่นจะเริ่มโจมตีก่อน แต่ในทางกลับกันหากผู้เล่นไม่ได้กดโจมตีศัตรู และโดนศัตรูพุ่งเข้ามาหาก่อน ก็จะทำให้ผู้เล่นเข้าสู่การต่อสู้โดยการที่ตัวละครฝั่งศัตรูเป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน

นอกจากการโจมตีปกติแล้วผู้เล่นยังสามารถใช้สกิลในฉากสำรวจได้ โดยสกิลของตัวละครแต่ละตัวนั้นจะให้ผลที่แตกต่างกันออกไป เช่น Dan Heng เพิ่มพลังโจมตีก่อนเข้าต่อสู้ ฉะนั้นผู้เล่นสามารถกดใช้สกิลของตัวนี้ก่อน และค่อยกดโจมตีศัตรูเพื่อเข้าสู่ฉากต่อสู้ จะทำให้ผู้เล่นทำดาเมจได้รุนแรงยิ่งขึ้น March 7th ยิงธนูน้ำแข็งใส่ศัตรู ทำให้ศัตรูที่สถานะแช่แข็งเมื่อเข้าสู่หน้าจอการต่อสู้ ในขณะที่สกิลของ Himeko จะทำให้ศัตรูอ่อนแอต่อธาตุไฟ ทำให้ศัตรูโดนโจมตีด้วยธาตุไฟแรงขึ้น และตัวเอกของผู้เล่นสามารถฟื้นฟู HP นอกฉากต่อสู้ได้ ซึ่งสกิลเหล่านี้จะส่งผลต่อรูปแบบการต่อสู้ให้เหมาะสมกับทีมของผู้เล่นเอง และช่วยส่งเสริมการชิงความได้เปรียบในการต่อสู้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ภายในการสำรวจแต่ละครั้งจะมีการกำจัดการใช้สกิลเหล่านี้ด้วย ซึ่งผู้เล่นก็ต้องวางแผนการใช้สกิลเหล่านี้ให้ดีครับ

เกมเพลย์ Turn-Based Strategy ที่สนุกสนาน เล่นง่าย เพลินใจ

ในส่วนของการเล่นเกมเพลย์ Turn-Based Strategy เรียกได้ว่าผู้เล่นสามารถเข้าใจได้ง่ายมาก ๆ โดยมือใหม่ที่อาจจะไม่คุ้นชินกับเกมเพลย์แบบนี้ก็สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย และเมื่อเริ่มชำนาญแล้วก็จะยังคงมีความท้าทายให้ผู้เล่นได้สนุกสนาน พิสูจน์ฝีมือกันแบบเพลิน ๆ อีกด้วย

ภายในเกม Honkai: Star Rail ผู้เล่นยังคงมีโอกาสจัดตัวละครเข้าทีมเช่นเดิม โดยตัวละครภายในทีมจะมีได้มากถึง 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าตัวละครแต่ละตัวก็จะมีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป การจัดทีมของผู้เล่นจะต้องคำนึงถึงสไตล์การเล่น จุดแข็ง และจุดอ่อนของทีมตนเองเพื่อให้การต่อสู้ภายในเกมนี้ทำได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น

ในการต่อสู้พื้นฐานนั้นผู้เล่นจะได้ใช้การโจมตีที่มีทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ก็คือการโจมตีปกติธรรมดา และการโจมตีพิเศษ ซึ่งการโจมตีพิเศษนี้จะส่งผลแตกต่างกันไป เช่นตัวละครบางตัวสามารถโจมตีศัตรูเป็นกลุ่มได้ ในขณะที่ตัวละครบางตัวจะโจมตีศัตรูตัวเดียว แต่รุนแรงมากขึ้น หรือแม้กระทั่งตัวละครบางตัวอาจจะใช้สกิลเพื่อป้องกันเพื่อนร่วมทีมจากการโดนทำดาเมจก็ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นไม่สามารถใช้ท่าโจมตีพิเศษได้ต่อเนื่องเสมอไป เพราะการโจมตีพิเศษจะต้องใช้แต้มพิเศษ ซึ่งจะลดลงทุกครั้งที่ใช้ท่าโจมตีพิเศษ โดยการเติมแต้มนี้ก็ง่ายมาก เพียงแค่ผู้เล่นโจมตีธรรมดา แต้มดังกล่าวก็จะเพิ่มขึ้นมาอัตโนมัติแล้วครับ

นอกจากนี้ตัวละครแต่ละตัวก็ยังมีท่าไม้ตายให้ใช้งานกันด้วย โดยจุดเด่นของระบบท่าไม้ตายภายในเกมนี้ที่แตกต่างไปจากเกมอื่น ๆ ก็คือผู้เล่นไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงเทิร์นของตัวละครดังกล่าวก่อนจึงจะใช้ท่าไม้ตายได้ เพราะผู้เล่นสามารถแซงคิวได้ทันทีเพียงแค่กดใช้งานท่าไม้ตาย ทำให้ระบบท่าไม้ตายภายในเกมนี้เป็นมากกว่าการโจมตีแรง ๆ ให้จบไป แต่เปรียบเสมือนระบบพลิกสถานการณ์ที่อาจจะช่วยให้ผู้เล่นกลับมาเป็นผู้ชนะการต่อสู้ได้ในขณะที่เพลี่ยงพล้ำอยู่

และด้วยระบบทั้งหมดนี้ทำให้การวางแผนการต่อสู้นี้ค่อนข้างน่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งสำหรับผู้เขียนมองว่าเกมเพลย์ Turn-Based Strategy ของเกมนี้สนุกไม่แพ้เกมอื่น ๆ เลยทีเดียว

ระบบอื่น ๆ ที่จะเติมประสบการณ์การเล่นเกมนี้ให้สมบูรณ์แบบ

ภายในเกมนี้ยังมีระบบต่าง ๆ ที่รอให้ผู้เล่นได้สัมผัสอีกจำนวนมาก โดยระบบเหล่านี้ก็จะคอยเติมเต็มความสนุกในการเล่นเกม รวมไปถึงความเกลืออีกด้วย! ซึ่งผู้เขียนขออนุญาตยกตัวอย่างระบบที่ผู้เขียนได้ใช้งานในช่วงต้นเกมอยู่ค่อนข้างบ่อย

ระบบกรวยแสง – ระบบนี้ทำหน้าที่คล้ายกับระบบอุปกรณ์ภายในเกมอื่น ๆ ซึ่งผู้เล่นสามารถสุ่มหากรวยแสงได้จากระบบกาชา (จะพูดถึงในย่อหน้าต่อไป) โดยกรวยแสงนี้จะคอยส่งเสริมให้ตัวละครนั้นแข็งแกร่งขึ้นไปในทิศทางที่ต้องการ อย่างไรก็ตามกรวยแสงนี้ไม่ได้ถูกใช้งานได้กับตัวละครทุกตัว เพราะตัวละครแต่ละตัวก็จะมีกรวยแสงที่ใช้ได้แตกต่างกัน โดยผู้เล่นจะต้องติดตั้งให้ถูกเพื่อเปิดความสามารถของกรวยแสงเหล่านี้ แม้ว่าในตอนนี้ผู้เขียนจะสุ่มได้กรวยแสงที่ซ้ำค่อนข้างเยอะ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าในอนาคตจะมีกรวยแสงให้ผู้เล่นได้เลือกใช้งานมากกว่านี้อย่างแน่นอน

ระบบกาชา สุ่มหาตัวละคร – แน่นอนว่าเกมของ HoYoverse จะขาดระบบสุ่มกาชาไปไม่ได้เลยจริง ๆ ครับ โดยภายในเกม Honkai: Star Rail ก็ยังคงมีระบบสุ่มกาชาให้ผู้เล่นได้เกลือกัน… โดยการสุ่มนี้จะมีทั้งสุ่มได้ตัวละคร และสุ่มได้กรวยแสง (อารมณ์เหมือนสุ่มภายในเกม Genshin Impact ที่สุ่มได้ทั้งตัวละครและอาวุธควบคู่กันไป) ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็เกลือไม่เปลี่ยนแปลงจริง ๆ ครับ (ฮา…) อย่างไรก็ตามหากผู้เล่นสุ่มได้ตัวละครซ้ำ ก็จะได้รับ Eidolon มาอัปเกรดตัวละครให้แข็งแกร่งขึ้นครับ

ดันเจี้ยน Simulated Universe – ระบบตะลุยดันเจี้ยนที่ผู้เล่นจะได้รับรางวัลหากผ่านด่านได้ตามที่กำหนด โดยภายในดันเจี้ยนนี้ผู้เล่นจะได้พบเจอกับมอนสเตอร์ที่รอสอยหน้าเราจำนวนมาก แต่เมื่อผู้เล่นสามารถผ่านแต่ละชั้นได้ก็จะได้รับรางวัล และในบางชั้นก็จะมีการแตกบัฟพิเศษเพื่อให้ตัวละครของผู้เล่นแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย

สรุปรีวิว

Honkai: Star Rail เป็นอีกหนึ่งเกมที่ทาง HoYoverse ทำออกมาได้ดีสมภาคภูมิจริง ๆ ครับ โดยผู้เล่นชาวไทยที่เป็นแฟนเกมของบริษัทนี้บอกได้เลยว่าฟินน์สุด ๆ แน่นอน ในขณะที่ผู้เล่นใหม่ที่กำลังจะเข้ามาในจักรวาลของ HoYoverse ก็สามารถกระโดดเข้ามาสนุกสนานกันได้แบบไม่ต้องคิดมากด้วยการแปลไทยที่สวยงาม เกมเพลย์ที่สนุกสนาน และแน่นอนว่าในอนาคตจะมีคอนเทนต์ให้ได้เล่นกันอีกเพียบอย่างแน่นอน

จุดเด่น

– กราฟิกสวยงามเช่นเดิม

– ดีไซน์ตัวละครทำออกมาได้ดีมากทั้งตัวละครฝั่งผู้เล่น และฝั่งศัตรู

– การแปลภาษาไทยที่ต้องยกนิ้วให้ 2 โป้ง!

– เกมเพลย์สำรวจ และ Turn-Based Strategy ที่ทำออกมาได้ลงตัว

– รายละเอียดที่รอให้ผู้เล่นได้สนุกสนานอีกจำนวนมาก

จุดสังเกต

– บทสนทนาค่อนข้างเยอะ ผู้อ่านที่ไม่เสพย์เนื้อหาอาจจะเบื่อได้ (แต่แนะนำให้อ่านเนื้อหานะครับ สนุกแน่นอน)

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

 Facebook : https://www.facebook.com/HonkaiStarRail.TH/ 

 Website : https://hsr.hoyoverse.com/th-th