รีวิว

[รีวิว] Halo: Infinite โลกเหนือจินตนาการของวีรบุรุษไร้พ่าย

Halo: Infinite การกลับมาอีกครั้งของสุดยอดเกม FPS ระดับตำนานในรูปแบบเน็กซ์เจ็น

เป็นเวลา 20 ปีที่ Halo ได้โลดแล่นบนโลกของวิดีโอเกมในฐานะผู้นำเกมแนวยิงปืนมุมกล้อง First-person พร้อมโลกสไตล์ไซไฟแบบล้ำๆ แต่มีเนื้อหาเข้าใจง่ายนั่นคือเรา! ตัวเอกจะต้องต่อสู้กับสงครามเอเลี่ยนต่างดาวในฐานะวีรบุรุษ ด้วยสูตรสำเร็จง่ายๆ แต่ก็สานต่อมาจนเป็นมหากาพย์หลากหลายตอน แถมยังมีคอนเทนต์แบบมัลติเพลเยอร์มันส์ๆ ให้เราได้เล่นกับเพื่อนอีก จึงไม่น่าแปลกใจที่ Halo ได้เป็นผู้จุดประกายเทรนด์เกม FPS และยังคงอยู่บนจุดสูงสุดถึงปัจจุบัน

Halo: Infinite เป็นการกลับมาอีกครั้งในรอบหลายปีหลังจากทิ้งช่วงยาวจาก Halo 5: Guardians และคราวนี้เองเราได้สวมบทบาทเป็น Master Chief คนเก่งอีกครั้งเพื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามครั้งใหญ่ในสเกลบิ๊กกว่าเดิม แต่แน่นอนว่าเมื่อเกมมีการเปิดศักราชใหม่สำหรับเครื่องเล่นเน็กซ์เจ็นแบบนี้ ย่อมต้องพบกับพัฒนาการมากมายเป็นธรรมดา และในวันนี้เองทางทีมงาน ก็ไม่พลาดขอนำความสนุกมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกันที่นี่อีกครั้ง ว่าแล้วอย่ามัวแต่รอช้า มาติดตามกันที่นี่เลยครับ

【ตำนานแห่งวีรบุรุษ】

เรื่องราวภายในเกมสืบเนื่องต่อจากเหตุการณ์ของ Halo 5 กันเลย และ Master Chief เองก็ได้รับการช่วยเหลือโดยนักบินคนหนึ่งหลังจากที่ทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้ว โดยเขาจะต้องสืบค้นเรื่องราวเบื้องหลังของ Cortana ที่อยู่ๆ ก็กลายเป็นฝั่งตัวร้ายและหยุดยั้งกลุ่ม The Banished ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนอยู่แล้วน่าจะรู้สึกว่านี่มันเหมือนกับการซอฟต์รีบู๊ตเรื่องราวเก่าๆ กลับมาหลังจากแคมเปญของเกมภาคก่อนหน้าไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่นัก และ Master Chief เองก็จะได้ผู้ช่วยคนใหม่เป็น AI ที่มีชื่อว่า Weapon ที่ดูแตกต่างจาก Cortana โดยสิ้นเชิง ด้วยท่าทีที่โก๊ะๆ ไม่ได้เป็นเหมือนกับเลขามือโปร สร้างอารมณ์ขำขันน่ารักๆ ได้ในบางครั้ง

จุดที่น่าสังเกตก็คือด้วยการเดินทางครั้งใหม่ที่ทำให้เหมือนว่า Master Chief, Weapon และนายนักบินสำเนียงอเมริกันใต้กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ทุกคนไม่รู้ว่าจะมีอะไรรออยู่ข้างหน้า ก็ทำให้ผู้เล่นใหม่สามารถติดตามเรื่องราวได้ง่ายขึ้นด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะแก๊งตัวละครเดิมๆ ต่างอยู่ในสถานภาพหายสาบสูญไม่ก็เท่งทึงไปกับสงครามแล้ว พวกเขาทุกคนต่างรับเหตุการณ์เบื้องหน้าไปพร้อมกับเราที่ถือจอย (หรือเมาส์และคีย์บอร์ดอยู่) อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นเดิมอาจจะเจอโมเมนต์ที่คิดถึงแอบสอดแทรกเอาไว้ และระหว่างทางก็จะมีไฟล์เสียงให้เราตามเก็บ ซึ่งจุดนี้จะช่วยปลดล็อคความสงสัยสำหรับคนที่ติดตามเหตุการณ์ไม่ทัน

【เปิดโลก Zeta Halo บนแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น】

โลกของเกมนี้ถูกออกแบบมาให้เหมือนกับแผนที่ Open-world ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเหมาะเจาะกับการเป็นมหากาพย์ Halo ได้ถึงเพียงนี้ ผู้เล่นจะได้เดินทางผ่านสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่นทุ่งหญ้าที่เขียวขจีและมีความลับมากมายให้ค้นหา แต่คำว่า ‘เหมือนกับ Open-world’ มันก็เป็นแค่คำว่าเหมือนจริงๆ แต่แนวทางการเล่นยังคล้ายของเดิม เพียงแค่เพิ่มการคั่นกลางภารกิจ (ที่มักจะอยู่ในอาคารหรือทางแคบ) ด้วยฉากใหญ่ๆ นั่นเอง และตามทางเราก็อาจจะเจอป้อมศัตรู หรือเอเลี่ยนที่กำลังลาดตระเวนด้วย แน่นอนว่าสามารถวิ่งไปตบเกรียนกันได้ตามสะดวก เมื่อถึงจุดที่ต้องเข้าภารกิจหลัก (หรือถึงพอยต์) จะมีคำสั่งไปต่อ หรือไม่เกมก็อาจจะตัดเข้าให้ทันที

นอกเหนือจากป้อมของศัตรูแล้ว ผู้เล่นอาจจะเจอจุดที่เรียกว่า FOB ที่เป็นรังปฏิบัติการณ์ขนาดใหญ่ของเหล่า The Banished โดยด้านในจะมีศัตรูที่รอยำเรา แต่ก็มีพวกอาวุธต่างๆ ให้เราได้เก็บมาใช้เหมือนกัน เมื่อเคลียร์จบเรียบร้อยแล้วฐานนั้นจะถูกยึดกลับมาเป็นของมนุษย์ทำให้เราสามารถ Fast Travel หรือใช้เครื่องมือพิเศษต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นการเรียกยานพาหนะมาขี่เล่นได้ และอาจจะมีจุดเติมกระสุนปืนอยู่ด้วยเหมือนกัน

แต่เมื่อแผนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแบบนี้ ย่อมส่งผลกับรูปแบบการเล่นของเราแน่นอนครับ ผู้เล่นจะมีอิสระในการเลือกใช้อาวุธ ลองผิดลองถูกกับวิธีการบุกทะลวงหรือทำภารกิจต่างๆ เช่นการเลือกใช้สไนเปอร์ซุ่มยิงเหล่าทหารอิลีทจากที่ไกลๆ หรือจะสวมวิญญาณแรมโบ้ไปสาดกระสุนกันก็ไม่ขัด อย่างไรก็ตามแผนที่ของเกมนี้แบ่งออกเป็นส่วนๆ อยู่ดี บางครั้งเราอาจจะกลับมาบางจุดไม่ได้เหมือนกันนะ และปัจจุบันยังไม่สามารถรีเพลย์ภารกิจเนื้อเรื่องซ้ำได้ จะน่าเสียดายก็ตรงนี้แหละครับ

【เกมเพลย์แบบยิงกันมันส์กรุบ】

ในแง่ของเกมเพลย์ขอบอกเลยว่าสะใจคอแอคชั่นแบบร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอนเพราะว่า Master Chief ของเราจะได้จับปืนหลายสิบกระบอกตลอดการผจญภัยครั้งนี้ ทั้งอาวุธหนัก อาวุธเบา หรืออาวุธเอเลี่ยนที่หยิบมายิงกันได้ และศัตรูเองถึงแม้จะไม่ได้มีประเภทที่หลากหลาย หรือมีหลักการโจมตีที่เป็นแบบแผน แต่ถ้าหากพลาดท่าก็มีเจ็บเพราะว่ามันรุมกันเก่งมากขนาดเล่นในระดับความยากปานกลาง (ฮา) ส่วนตัวแอบมีวิ่งไปหลบด้วย ถ้าระหว่างเจออาวุธดีๆ บางอันเช่นปืนแกทลิ่งกันก็มีฮึกเหิมขึ้นมาทันที น่าสนใจตรงที่มุมกล้องจะยืดออกมาเป็นแนว 3rd-person แทนเวลาใช่ครับ

จุดเด่นของระบบโจมตีในโหมดแคมเปญหลักจะเน้นการประยุกต์สภาพแวดล้อมในการต่อสู้เสียส่วนมากครับ โดยอุปกรณ์ที่เราจะต้องใช้จนชินมือก็หนีไม่พ้น Grappleshot หรือปืนสลิงที่ใช้ยิงใส่หน้าผาหรือจุดสูงๆ ไว้ลอยตัว กระโดดโจมตีจากแนวสูง และมินิบอสต่างๆ ก็จะมีจุดอ่อนที่แตกต่างกันด้วย ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอพวกกี้กี้แล้วรู้สึกเบื่อ เพราะถ้าเบื่อก็มีไดอะล็อกฮาๆ ที่ชวนให้เราอยากเอากระสุนยัดปากมันอยู่ดี อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือ เราอาจเจอถังพลังงานที่หยิบขึ้นมาเพื่อโยนใส่แทนระเบิดตอนที่เราไม่มีระเบิดเหลือก็ได้ อันนี้พลิกแพลงตามความชอบได้เลย ส่วนการจู่โจมในพื้นที่ภายนอกบางคนอาจจะลองขับรถแล้วสละยานให้มันพุ่งไปชนฐานก็ได้

【โหมดมัลติเพลเยอร์ครบเครื่อง】

จุดเด่นของ Halo ทุกภาคต้องเป็นเรื่องของระบบมัลติเพลเยอร์ ซึ่งในรอบนี้เปิดให้เล่นกันแบบฟรีๆ ไม่มี Pay 2 Win โดยผู้เล่นจะได้สนุกกับโหมดการเล่นสุดคลาสสิกทั้งโหมดชิงธง โหมดยิงไม่เลือก หรือโหมดกระโหลก ที่ให้ทั้งสองทีมแย่งกันถือไอเทมลูกบอลให้ได้นานที่สุด หมุนเวียนให้เลือกเพลย์ลิสต์กันตามความชอบ ยิ่งมีการรองรับระบบครอสเพลย์ที่เรียบเนียนแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ไม่ต้องกลัวเหงาด้วย

สำหรับไอเทมภายในร้านค้าที่จะมีให้เลือกซื้อทุกชิ้นล้วนเป็นสิ่งของจำพวกเครื่องตกแต่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสีพิเศษ หมวก หรือชุดเกราะแบบใหม่ รวมไปถึงการสนับสนุนคอนเทนต์รูปแบบซีซัน จุดนี้ขอชื่นชม 343 Industries สำหรับแนวทางการปลดล็อคเพราะว่า Season Pass ของเกมนี้จะไม่มีวันหมดอายุ มีแค่เพียงระยะเวลาการขาย ผู้เล่นเพียงแค่ซื้อเอาไว้ปุ๊บ จากนั้นจะเล่นให้ปลดล็อคเลทสัก 3 – 4 ฤดูกาลก็ทำได้

【กราฟิกและเสียงประกอบ】

โลกของ Zeta Halo ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสวยงามด้วยกราฟิกคุณภาพสูง แต่ไม่ได้เน้นความสวยนิ้งสมจริงมากขนาดนั้น ซึ่งถ้าให้พูดก็เรียกได้ว่าระดับโอเค แต่น่าแปลกตรงที่แม้ว่าอนิเมชั่นท่าทางตัวละครจะลื่นไหล 60FPS แต่สีหน้า การพูดจะขยับที่ 30FPS ชวนให้รู้สึกแปลกประหลาดไปนิด หากใครไม่ซีเรียสก็อาจจะไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องเสียงประกอบจัดว่าเด็ดทั้งเสียงของปืนที่มีความแตกต่างกัน เช่นปืนที่เป็นกระสุนประเภทลำแสง หรือกระสุนทั่วไปก็จะมีความแตกต่างกัน ให้ความรู้สึกแบบ ‘จิ้วๆ’ กับตูมตาม ตบท้ายด้วยเสียงพากย์ทุกคนให้อารมณ์ร่วมได้ดีไม่ล้น โดยเฉพาะ Weapon ที่เป็น AI หญิงโก๊ะๆ ผู้มีร่างต้นเป็น Cortana และให้เสียงพากย์คนเดียวกันเธอก็รับบททั้งสองตัวละครที่มีบุคลิกแตกต่างกันได้อย่างน่าชื่นชม

【บทสรุป】

Halo: Infinite ยังคงมาพร้อมกับประสบการณ์ที่ทุกคนคาดหวัง ปูทางไปยังอนาคตของซีรีส์อีกนานๆ และต้องยอมรับว่าทำได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างเกมจากรูปแบบ Linear ที่พื้นที่เล็กๆ ให้เราได้ออกไปข้างนอก สนุกกับโลกไซไฟบนแผนที่ขนาดใหญ่แม้ว่าจะมีจุดที่ต้องเข้าไปอยู่ในอาคารค่อนข้างบ่อย (อีกมุมหนึ่งรู้สึกว่าได้ฟีลจากเกมภาค 3 คืนมา) พ่วงมาด้วยความสนุกของโหมดมัลติเพลเยอร์ที่เปิดให้เล่นกันได้ฟรีๆ แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือระบบ Co-op ในโหมดเนื้อเรื่องที่ตอนนี้เองยังไม่สามารถเปิดให้เล่นได้ ทว่าก็มีการสัญญาแล้วว่าจะอยู่ในรูปแบบอัปเดตเสริมในอนาคต

ท้ายที่สุดนี้ พวกเราขอขอบคุณ Microsoft สำหรับตัวเกม Halo: Infinite เพื่อนำมารีวิวให้แฟนๆ ได้ติดตามกัน ซึ่งผู้ที่สนใจก็สามารถติดตามการผจญภัยของ Master Chief กันได้แล้ววันนี้ทั้งบนอุปกรณ์ Xbox Series X|S, Xbox One เช่นเดียวกับ PC โดยในโหมดการเล่นแบบมัลติเพลเยอร์ยังรองรับการเชื่อมต่อไฟล์ความคืบหน้าและครอสเพลย์ได้ด้วย 

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save