That Time I Got Reincarnated as a Slime ISEKAI Chronicles เป็นเกมจากไลท์โนเวลและอนิเมะดัง ‘เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว’ ที่มาในแนววางแผนสวมบทบาทผสมผสานแอ็กชั่น
ตัวเกมจะให้ผู้เล่นได้เข้าร่วมกลุ่มสหพันธ์จูร่าเทมเพสต์ กับ Rimuru สร้างสรรค์อาณาจักรในฝันที่สัตว์ประหลาดจะได้อยู่ร่วมกัน ใช้เวลาทั้งความเศร้าและรอยยิ้ม เคลียร์ภารกิจต่าง ๆ ของชาวเมืองให้ป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยความสุข นอกจากนี้ยังมีการเดินทางออกไปผจญภัยในดันเจี้ยนที่เป็นมุมกล้อง Side-scrolling สองมิติ ผสมผสานกราฟิก 8-bit ให้อารมณ์เรโทรเมื่อใช้ท่าไม้ตาย
และในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสร่วมผจญภัยและสร้างเมืองจูร่าเทมเพสต์กับ Rimuru แล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ
อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 และถ้าหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยหลังจากที่รีวิวเผยแพร่ไปแล้วก็เป็นได้ครับ
รีวิว That Time I Got Reincarnated as a Slime ISEKAI Chronicles
- กราฟิกสวยงาม เอฟเฟกต์ดี โมเดลตัวละครที่ลงตัว
- แอ็กชั่นแบบ Side Scrolling ตีกันนัว
- เรื่องราวที่คุ้นเคย พร้อมเนื้อหาเสริมสอดแทรกที่ลงตัว
- ระบบสร้างเมืองที่เข้าใจง่าย
- สรุปรีวิว That Time I Got Reincarnated as a Slime ISEKAI Chronicles
- ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม
กราฟิกสวยงาม เอฟเฟกต์ดี โมเดลตัวละครที่ลงตัว
กราฟิกของเกมนี้จัดว่าโดดเด่นมากเลยทีเดียว ด้วยความคมชัดของภาพและการใช้สีสันที่สดใสจัดจ้าน ทำให้เกมดูมีชีวิตชีวาและสอดคล้องกับธีมการ์ตูนได้อย่างลงตัว เอฟเฟกต์สกิลต่าง ๆ ก็อลังการสมกับเป็นเกมแอ็กชั่นที่เน้นความมันส์ มีความอลังการและมีความสะใจในแต่ละท่วงท่าที่ตัวละครใช้สกิลออกมาให้เราได้ชม แม้ว่าจะมีบางจังหวะที่อาจพบเฟรมเรตตกบ้างเล็กน้อย ซึ่งก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสนุกในการเล่นมากนัก โดยรวมแล้วกราฟิกของเกมนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเกินคาดทีเดียว
นอกจากนี้ หนึ่งในจุดเด่นของเกมนี้คือการออกแบบตัวละครที่น่าสนใจ โดยแทนที่จะทำเป็นตัวละครขนาดสมจริงหรือเป็นตัวละครขาสั้นหัวโตแบบจิบิไปเลย ทางผู้พัฒนาเกมได้นำโมเดลตัวละครทั้งสองแบบนี้มาผสมผสานเข้ากัน จึงกลายเป็นโมเดลตัวละครที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความสมจริงและความน่ารัก กลายเป็นความสมจริงที่น่ารักแบบคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
แอ็กชั่นแบบ Side Scrolling ตีกันนัว
ฉากแอ็กชั่นในเกมนี้เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว แม้ตัวเกมจะนำเสนอรูปแบบการเล่นแบบเดินด้านข้าง (Side Scrolling) แต่ระบบการต่อสู้กลับมีความลึกและน่าสนใจอย่างไม่คาดคิด การได้กดปุ่มโจมตีต่อเนื่องเพื่อปลดล็อคคอมโบสุดมันส์นั้นตอบโจทย์คอเกมแอ็กชั่นได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ตัวเกมยังมอบความอิสระในการปรับแต่งรูปแบบการต่อสู้ให้เข้ากับสไตล์ของผู้เล่นด้วยการติดตามสกิลมากมาย แถมยังมีท่าไม้ตาย รวมไปถึงท่าโจมตีเสริมจากตัวละครสนับสนุนที่ผู้เล่นสามารถจัดเข้าทีมได้ ยิ่งประกอบเข้ากับการที่ตัวละครแต่ละตัวจะมีท่าโจมตี รวมไปถึงสกิลที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมนี้ค่อนข้างที่จะมีความหลากหลาย และเพลิดเพลินได้ไม่ค่อยซ้ำจำเจสักเท่าไหร่
นอกจากนี้การอัปเกรดตัวละครถือว่าเข้าใจได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ผู้เล่นเลือกตัวละครที่ต้องการพัฒนาเข้าทีม แล้วออกไปผจญภัย เมื่อสำเร็จภารกิจก็จะได้รับแต้มมาอัปเกรดตัวละครผ่านแผงอัปเกรดที่เข้าใจได้ไม่ยาก เหมาะสำหรับทั้งผู้เล่นใหม่และผู้เล่นเก่าที่ไม่ต้องการเสียเวลากับระบบที่ซับซ้อน ทำให้จุดนี้ผู้เขียนมองว่าเป็นข้อดีตรงที่ผู้เล่นใหม่ก็เข้าถึงได้ ผู้เล่นเก่าก็ไม่ต้องใช้เวลาศึกษามากจนเกินไป
อย่างไรก็ตามแม้แอ็กชั่นจะสะใจ และระบบอัปเกรดจะเรียบง่าย แต่ตัวเกมกลับมีปัญหาเรื่องความลื่นไหลในการควบคุมตัวละคร ผู้เล่นจะสังเกตเห็นความหน่วงของปุ่มค่อนข้างชัดเจน เช่น หลังจากกดโจมตี ตัวละครจะต้องใช้เวลาพักหนึ่งก่อนจะสามารถทำแอ็กชั่นอื่น ๆ ต่อได้ ทั้งการใช้สกิล หรือการหลบหลีก ซึ่งส่งผลให้การต่อสู้ขาดความต่อเนื่องและคล่องตัว หากแก้ไขปัญหานี้ได้ เกมจะสนุกและน่าตื่นเต้นมากขึ้นอย่างแน่นอน ในขณะที่ปัญหาอีกประเด็นหนึ่งคือ AI ของตัวละครที่ร่วมทีมมาด้วยนั้นค่อนข้างด้อยประสิทธิภาพ แทบจะไม่ได้ช่วยเหลือผู้เล่นในการต่อสู้เท่าไหร่นัก ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมคนเดียวมากกว่าเกมที่เน้นการทำงานร่วมกันของทีม ซึ่งเป็นจุดที่น่าผิดหวังพอสมควร
เรื่องราวที่คุ้นเคย พร้อมเนื้อหาเสริมสอดแทรกที่ลงตัว
สำหรับแฟน ๆ ของซีรีส์ เกิดใหม่ทั้งทีก็กลายเป็นสไลม์ไปซะแล้ว ก็ต้องบอกว่าเกม That Time I Got Reincarnated as a Slime ISEKAI Chronicles ถือเป็นการเติมเต็มที่ยอดเยี่ยม เนื้อเรื่องหลักสามารถสรุปเนื้อหาจากไลท์โนเวลและอนิเมะได้อย่างครอบคลุม แต่ไม่ได้ตัดหัวใจสำคัญของเนื้อเรื่องออกไปเสียทั้งหมด ทำให้ผู้เล่นที่เคยติดตามเข้าใจเรื่องราวได้ง่ายขึ้น อีกทั้งตลอดการเล่นเกมนี้ยังมีการสอดแทรกเนื้อหาบางอย่างเพื่อให้เนื้อหาภายในเกมนี้มีความแตกต่างจากอนิเมะไปบ้าง และเพื่อให้คอนเทนต์บางอย่างเนียนไปกับฟีเจอร์ของเกมที่ผู้พัฒนาเกมต้องการให้เกิดขึ้นภายในเกมนี้ แม้ว่าอาจจะไม่ได้เนียนกริ๊บเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ไม่ขัดหูขัดตาเกินไป อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
นอกจากนี้เกมดังกล่าวยังมาพร้อมเนื้อหาใหม่ที่เข้มข้นน่าติดตามเข้ามาอีก 2 ส่วน ได้แก่ การแก้แค้นของก๊อบลิน (Goblin’s Revenge Arc) และ ประเทศแห่งศาสนา (Religious Nation Arc) ซึ่งเนื้อหาทั้ง 2 นี้เป็นการตอกย้ำความเป็นแฟนเซอร์วิสสำหรับแฟนพันธุ์แท้ได้เป็นอย่างดี และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเกมนี้คือเสียงพากย์ ที่ใช้เสียงพากย์จากอนิเมะชุดเดิม ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนได้กลับไปพบกับตัวละครที่ชื่นชอบอีกครั้ง เสียงพากย์ที่คุ้นเคยช่วยเสริมอรรถรสในการเล่นเกมได้แบบสุด ๆ
อย่างไรก็ตาม การนำเสนอเนื้อเรื่องบางส่วนยังคงเป็นที่น่าเสียดาย การใช้ภาพนิ่งของตัวละครพร้อมข้อความแทนการใช้คัทซีนแบบเคลื่อนไหวในหลายฉาก ซึ่งไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลกลใดจึงใช้วิธีการประหยัดงบการนำเสนอการพูดคุยของตัวละครผ่านกรอบภาพตัวละครและตัวอักษรแบบเกมยุคเก่าซะอย่างงั้น เรียกได้ว่าน่าเสียดายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งการกระทำนี้ทำให้บรรยากาศของเกมดูขาดความตื่นเต้นและน่าสนใจไปบ้าง โดยเฉพาะในฉากสำคัญ ๆ ที่ควรจะมีการนำเสนอที่ดึงดูดใจมากกว่านี้
ระบบสร้างเมืองที่เข้าใจง่าย
ระบบสร้างเมืองภายในเกมนี้เป็นอีกหนึ่งระบบที่ผู้เขียนตั้งหน้าตั้งตารอพอสมควร เพราะตามเนื้อเรื่องของซีรีส์เราก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า Rimuru ของเราคือเจ้าเมือง ทำให้การสร้างเมืองเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์หลักที่เราจะได้ใช้งานภายในเกมนี้ โดยภายในเกมนี้ผู้เล่นสามารถเลือกสร้าง สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ภายในเมืองของเราได้ในพื้นที่ที่กำหนดให้ โดยเราจะต้องใช้ทอง และวัตถุดิบที่ได้จากการผจญภัยมาใช้ในการสร้างอาคารเหล่านี้ โดยสิ่งปลูกสร้างแต่ละชนิดนั้นจะส่งผลต่อค่าสถานะของตัวละครแตกต่างกันออกไป ทำให้ผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องวางแผนการสร้างเมืองให้เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของตัวเอง
อย่างไรก็ตามความลึกของการสร้างเมืองกลับถูกนำเสนอออกมาได้ค่อนข้างตื้นเขิน เพราะนอกเหนือจากการสร้างเมืองและเพิ่มค่าของตัวละครแล้วรายละเอียดอย่างอื่นก็ไม่ได้มีมากเท่าไหร่นัก (นอกเหนือจากอาคารบางอย่างที่แปลกตา ตัวอย่างเช่นอาคารสไตล์ญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ดึงมาจากความทรงจำของ Rimuru) อีกทั้งการสร้างสิ่งปลูกสร้างตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างจำกัดความสร้างสรรค์ของผู้เล่นอยู่พอสมควร ทำให้ผู้เขียนรู้สึกขัดใจอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะผู้เขียนเองก็แอบคาดหวังให้เราสามารถวางแผนการสร้างเมืองในพื้นที่เปล่า ๆ ได้ตามที่เราต้องการ
แต่ในทางกลับการหากเรามองถึงความง่ายในการเข้าถึงระบบดังกล่าว เพราะต้องยอมรับว่าผู้เล่นบางคนอาจจะไม่ใช่เกมเมอร์ตัวยง พวกเขาอาจเป็นแค่แฟนอนิเมะหรือแฟนไลท์โนเวลที่อยากลองเล่นเกมนี้ดูบ้าง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าระบบนี้เข้าถึงได้ง่ายมาก ๆ ไม่ต้องใช้เวลาในการศึกษาระบบสักเท่าไหร่นัก ส่งผลให้เกมนี้เข้าถึงผู้เล่นได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะน่าเสียดายเล็กน้อยที่ระบบนี้น่าจะมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่านี้อีกระดับหนึ่งแต่ก็พอยอมรับในจุดนี้ได้ครับ
สรุปรีวิว That Time I Got Reincarnated as a Slime ISEKAI Chronicles
สรุปแล้วเกมนี้ถือว่าเป็นเกมอีกหนึ่งเกมจากการ์ตูนที่ทำออกมาได้น่าพึงพอใจ ไม่ได้แย่จนเกินไป แต่ก็ไม่ได้ดีเด่นหากมองในฐานะเกมทั่ว ๆ ไป แต่ในทางกลับกันหากเรามองว่าเกมนี้เปรียบเสมือนเกมสำหรับผู้เล่นที่อาจจะไม่ใช่เกมเมอร์ตัวยง อาจเป็นเพียงแค่คนที่ชอบอนิเมะหรือไลท์โนเวลที่อยากมาเสพย์ความสนุกในสื่อบันเทิงแบบอื่น ๆ เท่านั้น ก็ถือว่าเกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 7.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ
จุดเด่น
– กราฟิกที่สวยงาม เอฟเฟกต์โดนใจ โมเดลตัวละครที่แปลกตา
– ตัวละครที่ขนมาครบถ้วน
– แอ็กชั่น Side Scrolling ตีกันนัวสะใจ
– ระบบการพัฒนาตัวละครที่เข้าใจได้ง่าย
– มีระบบการสร้างเมืองให้ได้ใช้งาน
– มีเนื้อเรื่องใหม่แกะกล่องให้ได้เล่น
– เนื้อเรื่องในเกมสรุปเนื้อเรื่องหลักจากอนิเมะได้ครอบคลุม
จุดสังเกต
– เกมเพลย์แอ็กชั่นที่ไม่ลื่นไหลอย่างมาก
– การนำเสนอฉากสนทนาแบบยุคเก่าที่น่าจะใช้ฉากแบบคัทซีนมากกว่า
– AI ไม่ค่อยฉลาดสักเท่าไหร่
– ระบบการสร้างเมืองที่เรียบง่าย ไม่น่าสนใจอย่างที่ควรจะเป็น
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…
ใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อเกมได้ที่ : [คลิก]
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ เกี่ยวกับเกมได้ที่ gamerculture.co
