รีวิวเกม

[รีวิว] Avatar: Frontiers of Pandora

สวมบทเป็นชาวนาวี ดำดิ่งสู่โลกแพนโดราสุดสมจริง

ผู้เขียน : Youryu

Avatar: Frontiers of Pandora เป็นเกม Open-World RPG ใน Western Frontier ซึ่งเป็นหนึ่งในทวีปของ Pandora โดยเราจะสามารถสำรวจสถานที่ต่าง ๆ และออกล่าสัตว์ประหลาดหรือทำภารกิจได้อย่างอิสระ ที่บอกได้เลยว่าเกมนี้ถูกออกแบบมาสมกับชื่อภาพยนตร์ของ James Cameron มาก ๆ

และแน่นอนว่าผู้เขียนก็ได้มีโอกาสเข้าไปสำรวจโลกกว้างในเกมนี้มาแล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะมานำเสนอรีวิวเกมที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PC และถ้าหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยหลังจากที่รีวิวเผยแพร่ไปแล้วก็เป็นได้ครับ

โลกที่สวยงาม ออกแบบมาได้น่าตะลึง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากราฟิกภายในเกม Avatar: Frontiers of Pandora ทำออกมาได้ดีน่าประทับใจแบบสุด ๆ โดยเฉพาะในแง่ของสิ่งแวดล้อมภายในโลก Pandora ใบนี้ที่ถูกออกแบบได้ละเอียดยิบจนผู้เขียนรู้สึกตะลึงไปเลย เพราะไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหน คุณก็จะได้พบกับแมกไม้นานาพรรณที่บอกได้เลยว่าสวยงามจนน่าใจหายเลยทีเดียว

ที่สำคัญก็คือสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ไม่ได้ถูกทำออกมาแค่โชว์ความสวยเฉย ๆ แต่องค์ประกอบหลายอย่างในโลกใบนี้จะเปิดโอกาสให้เราได้มีปฏิสัมพันธ์ ซึ่งส่งผลต่อการเล่นเกมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเกี่ยวผลผลิตต่าง ๆ จากต้นไม้ หรือสัตว์ เพื่อใช้ในการคราฟ, ดอกไม้ที่จะระเบิดออกเมื่อเราโจมตีใส่หรือไปสัมผัสถูกแถมจะทำดาเมจได้ด้วย, ดอกไม้ที่เมื่อเวลาเราเข้าไปใกล้ก็จะหุบทันที, เถาวัลย์ที่ชื่อว่า Life Vine จะทำให้เราสามารถปีนขึ้นไปยังที่สูงหรือลงมาที่ต่ำได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงคุณสมบัติพิเศษของดอกไม้แต่ละชนิดที่ใช้ในการไขปริศนาเช่น การทำลายใบไม้ขนาดเล็ก เพื่อทำให้ใบไม้ขนาดใหญ่เปิดออกให้เราเดินผ่านไปได้ หรือการโจมตีที่ดอกตูมของ Life Vine เพื่อให้มันคลายเถาวัลย์ออกมาให้เราได้ใช้งาน เป็นต้น

อย่างไรก็ตามสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเราเข้าสู่ฐานของ RDA เพราะภายในฐานของ RDA นี้ผู้เล่นจะได้พบกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายไม่ว่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงชุดเกราะ และหุ่นจักรกลมากมาย ซึ่งภาพรวมแล้วหากจะให้พูดก็คือโลก Pandora จะเต็มไปด้วยพืชนานาพรรณ แต่พื้นที่ของ RDA จะเต็มไปด้วยเหล็ก เครื่องจักร และเทคโนโลยีมากมายราวกับเป็นคนละโลกเลยทีเดียว ซึ่งในจุดนี้ผู้เขียนบอกได้เลยว่าน่าประทับใจสุด ๆ

อย่างไรก็ตามหากผู้อ่านคนใดที่มีอาการ Motion Sickness ได้ง่ายก็อาจจะต้องระวังไว้หน่อยครับ เพราะผู้เขียนเองที่มีอาการในบางครั้งเมื่อเล่นเกม FPS พอมาเจอเกมนี้ที่กราฟิกละเอียดแบบสุด ๆ ทำเอาเมาจอง่าย ๆ เหมือนกัน

การควบคุมตัวละคร Na’vi ที่ให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่

อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนมองว่าอาจจะเป็นประเด็นเล็กแต่ค่อนข้างน่าสนใจก็คือ การควบคุมตัวละครของเราที่เป็นชาว Na’vi ซึ่งต้องบอกก่อนว่าตัวละครของเรานั้นมีความแตกต่างจากมนุษย์ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นความสูงที่สูงกว่ามนุษย์ธรรมดากว่าเท่าตัว ส่งผลให้หลาย ๆ พื้นที่ที่เราคิดว่าเดินเข้าไปได้สบาย ๆ กลับต้องก้มตัวค่อย ๆ เดินเข้าไป นอกจากนี้การกระโดดของตัวละครของเราที่สามารถย่อตัวค้างเพื่อทำให้กระโดดได้สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยในการสำรวจโลกด้วยการเดินเท้าได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าองค์ประกอบเหล่านี้ส่งผลให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างแน่นอน ซึ่งผู้เล่นอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อย แต่รับรองว่าเมื่อชินแล้วคุณจะสนุกไปกับการสำรวจโลกภายในเกม Avatar: Frontiers of Pandora อย่างแน่นอน

เกมเพลย์พื้นฐานที่คุ้นเคย ทำให้เข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องปรับตัวมาก

Avatar: Frontiers of Pandora เป็นเกม FPS ที่ใช้องค์ประกอบค่อนข้างคล้ายคลึงกับเกมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมเพลย์ Shooting ที่มีอาวุธให้เลือกใช้งานหลัก ๆ อยู่ 2 ประเภทก็คืออาวุธของชาว Na’vi ซึ่งเป็นธนู หรืออาวุธของมนุษย์ที่เป็นปืน แน่นอนว่าความแตกต่างหลักก็คือรูปแบบการเล่นนั่นเอง ซึ่งธนูจะมุ่งเน้นให้ผู้เล่นลอบเร้นสังหารศัตรู แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ถือปืนก็คือช่วงเวลาที่ผู้เล่นจะได้สาดกระสุนใส่ศัตรูนั่นเอง

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเกมนี้จะมุ่งเน้นให้ผู้เล่นลอบเร้นเป็นหลักโดยเราสามารถคราฟหัวลูกธนูเพื่อใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไปได้ อีกทั้งการปะทะกันซึ่ง ๆ หน้านั้นเราค่อนข้างจะเสียเปรียบอยู่พอสมควร เพราะขนาดผู้เขียนทดลองเล่นเกมในระดับ “ง่าย” อยู่สักพักหนึ่งก็พบว่าเมื่อเราเลือกการเดินหน้ายิงเลือดจะลดฮวบ ๆ เป็นน้ำไหลเลยทีเดียว ทำให้สุดท้ายผู้เขียนเลือกที่จะวิ่งหลบมุมกลับไปลอบเร้นเหมือนเดิมดีกว่า

นอกจากนี้เกมยังมีระบบ Na’vi Sense ที่เปรียบเสมือนระบบนำทางภายในเกม โดยระบบนี้จะช่วยบอกเราว่าจุดสำคัญที่อยู่ในละแวกนั้นมีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการบอกจุดหมายปลายทางที่เราต้องไปให้ถึง, ไอเทมที่วางอยู่ รวมไปถึงศัตรูต่าง ๆ ซึ่งระบบนี้เป็นอีกหนึ่งระบบที่ผู้เล่นจะได้ใช้งานเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ในป่าเพราะโลกที่ละเอียด ทำให้เรามองหาไอเทม หรือศัตรูได้ยากพอสมควร

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่คล้ายกับมินิเกมเล็ก ๆ ก็คือ การแฮ็กระบบนั่นเอง โดยมินิเกมนี้ก็ไม่ยาก เพียงแค่ผู้เล่นไปถึงเป้าหมาย กดใช้ไอเทม เลื่อนวงกลมให้ตรงกับที่กำหนด จากนั้นหน้าจอเล็ก ๆ ก็จะขึ้นมาให้ผู้เล่นได้ควบคุมไอคอนของเราไปยังเป้าหมาย (คล้าย ๆ กับเกมเขาวงกต) ให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งโดยรวมแล้วก็ถือว่าทำออกมาได้ดี ให้เราได้ผ่อนคลายลงได้บ้าง (มั้ง) นอกจากนี้เกมดังกล่าวยังมาพร้อมกับระบบการคราฟต์ไอเทม, ทำอาหาร, ซื้อ-ขายอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงการอัปเกรดสกิล และการปรับแต่งอาวุธ ซึ่งถือได้ว่าเป็นระบบที่คุ้นเคยกันดีครับ

สำรวจโลกกว้างจากมุมสูงเหนือฟ้าด้วย Ikran

เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของเกมเลยก็ว่าได้ครับ เพราะการสำรวจโลกด้วย Ikran (สิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ประเภทมีปีกขนาดยักษ์) เป็นสิ่งที่ยกระดับความอลังการของเกมให้สูงขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งการที่เกมมี Ikran ให้เราได้ใช้ในการเดินทางนั้นทำให้การท่องโลก Pandora สะดวกสบาย และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นจากการที่เราได้เห็น Pandora ในมุมสูงยิ่งทำให้มั่นใจได้มากขึ้นว่าการออกแบบโลกที่ Ubisoft ทำขึ้นภายในเกมนี้มันยิ่งใหญ่มาก ๆ นอกจากนี้ เราสามารถใช้ Ikran เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้น เพราะภายในเกมนี้โลกถูกออกแบบมาให้มีมิติมุมสูงมากขึ้นด้วยเกาะลอยฟ้า

สิ่งที่น่าสนใจมากขึ้นก็คือ Ikran ไม่ได้มีประโยชน์แค่การเดินทางเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเกมเพลย์การต่อสู้ด้วย เพราะในหลาย ๆ ครั้งเราจะต้องทำภารกิจทำลายอุปกรณ์ที่อยู่บนฟ้าของ RDA ซึ่งหากเราไม่ใช้ Ikran ก็จะขึ้นไปไม่ถึง รวมไปถึงการต่อสู้บนฐานที่อยู่บนพื้นดินหลาย ๆ ครั้งเราสามารถกระโดดลงมาจากที่สูงเพื่อเรียก Ikran ให้มารับเราก่อนบินขึ้นฟ้าซึ่งเราอาจจะใช้ในการเอาตัวรอด หรือหากพื้นที่สูงเพื่อให้ได้เปรียบในการต่อสู้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้แล้วทำให้ Ikran กลายเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบภายในเกมที่สำคัญแบบปฏิเสธไม่ได้เลยทีเดียว

สรุปรีวิว

โดยรวมแล้วหลายคนอาจจะมองว่าเกมเพลย์นี้ส่งผลให้ Avatar: Frontiers of Pandora กลายเป็นเกมแฟรนไชส์ของ Ubisoft ที่แค่เปลี่ยนธีมไปเฉย ๆ แต่ถ้าจะให้มองกันแบบแฟร์ ๆ ก็ต้องยอมรับว่าประเภทของเกมนั้นก็ต้องมีเกมเพลย์ที่เป็นหัวใจหลัก ซึ่งเกมเพลย์หัวใจหลักเหล่านี้ก็คงไม่ได้มีความแตกต่างกันเท่าไหร่นัก แต่ในองค์ประกอบโดยรวมแล้วเกมนี้ก็ได้สร้างความโดดเด่นของตัวเองออกมาได้ดีในระดับที่น่าประทับใจ

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 8.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

– สร้างตัวละครตตัวเองได้ในระดับนึง

– โลกที่กว้างใหญ่ ทำออกมาได้สวยงาม

– เกมเพลย์พื้นฐานที่เข้าใจง่าย เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว

– การควบคุมตัวละครที่ให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่

– ระบบการขี่ Ikran ที่ทำออกมาได้ดี

– นำเสนอคำว่า Avatar ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ

ข้อสังเกต

– โลกที่ละเอียดทำให้บางครั้งมองหาเป้าหมายเล็ก ๆ ได้ยากไปหน่อย

– โลกที่ซับซ้อนพอสมควร ทำให้แอบหลงทางในหลาย ๆ ครั้ง

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Ubisoft ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อเกมได้ที่  :  [คลิก] และตัวแทนจำหน่ายในไทย

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save