[รีวิว] Knockout City ดอดจ์บอลยุคใหม่ที่ไม่ธรรมดา

หมายเหตุ: ตัวเกมเวอร์ชั่นนี้ได้รับการรีวิวโดยอ้างอิงจากเวอร์ชั่น PC และใช้คอนโทรลเลอร์ DualShock 4 ในการเล่น

ปัจจุบันมีเกมแนวกีฬามากมายให้เราเล่นไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล เทนนิส หรือเบสบอลที่เข็นมาขายกันเป็นรายปี แต่หนึ่งในประเภทกีฬาที่ห่างหายจากวงการเกมไปนานมากทั้งที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเด็ก (หนวด) ไม่ใช่น้อยเห็นทีคงจะเป็นดอดจ์บอลที่เป็นความสนุกวัยเด็กในการได้โยนลูกบอลกระแทกฝ่ายตรงข้ามจนหัวร้อนกันเล่นๆ

Knockout City ที่เล็งเห็นโอกาสก็ไม่พลาดนำเอาความสนุกยุคคลาสสิกกลับมาเนรมิตใหม่ด้วยกราฟิกและเกมเพลย์อันทันสมัยและกลายเป็นข้อพิสูจน์ที่ว่ากีฬานี้ยังไม่ตกรุ่น และวันนี้ ThisIsGame ก็ได้รับโอกาสจาก EA Games ในการรีวิวตัวเกมให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกันด้วย แต่จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นก็คงต้องมาร่วมตัดสินกันข้างล่างนี้เลย

【ดอดจ์บอลแบบ Powered Up!】

โดยทั่วไปแล้วเกมกีฬามักจะฉายภาพของสนามเกือบทั้งหมดให้เราได้เห็นภาพรวมของสถานการณ์ แต่สำหรับ Knockout City ได้เลือกใช้มุมกล้องบุคคลที่สามแบบตามติดตัวละครของเราเหมือนว่าอยู่ในสมรภูมิแบทเทิล 3v3 กันเลย (เพียงแค่เปลี่ยนจากอาวุธมาเป็นลูกบอล) ผู้เล่นจะได้เดินเหินในสภาพแวดล้อมสามมิติที่มีอุปสรรคต่างๆ ตามฉากไม่เหมือนกันเช่นลูกตุ้มเหล็กที่เหวี่ยงไปมา หรืออาจจะไปแข่งกันกลางเมืองให้เราวิ่งหลบหลีกรถและไล่ปาบอลอัดคู่ต่อสู้ในเวลาเดียวกัน ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้จึงทำให้มุมกล้องแบบเดิมๆ ไม่สามารถใช้งานได้และเราต้องตื่นตัวกับอุปสรรคที่อยู่ตรงหน้ามากกว่าที่จะต้องมาพะวงหลังหรือผู้เล่นที่อยู่อีกฟากหนึ่ง

ลูกบอลจะมีจุดเกิดตามมุมต่างๆ ของสนามให้เราวิ่งไปรับ โดยหลังจากเจอคู่ต่อสู้ก็จะสามารถชาร์จ (เล็งอัตโนมัติ) ก่อนปาใส่ ส่วนใครที่โดนเล็งก็ได้สังเกตตัวละครเราให้ดีว่ามีเป้าล็อคมาหรือเปล่าไม่เช่นนั้นต้องรีบกดปุ่มรับหากพลาดไปก็มีเสีย HP แต่เกมไม่ได้มีแค่การปาบอลอัดกันอย่างเดียวเพราะได้เพิ่มเกมเพลย์ที่ลื่นไหลมากขึ้นด้วยการกระโดดแบบดับเบิ้ลจัมพ์หรือการพุ่งชนเป็นต้น เรียกได้ว่าเพิ่มกลยุทธ์แปลกๆ ให้เราได้พลิกแพลงกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้เรายังสามารถแปลงร่างเป็นลูกบอลให้เพื่อนปาได้เหมือนกัน ทว่าสถานะการเป็นลูกบอลของเราจะกลายเป็นสาธารณะทันที ต้องระวังไม่ให้คนอื่นจับตัวได้เพราะถ้าหากเป็นลูกบอลประเภทนี้จะสามารถทำ One Hit KO ได้

นอกเหนือจากนั้นแล้ว ผู้เล่นจะสามารถปลดล็อคโหมดการเล่นรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ 3v3 ได้เมื่อถึงเลเวลครบกำหนด อาทิโหมดเก็บเหรียญ หรือการไต่แรงค์เป็นต้น และการที่เกมจะเริ่มในแมทช์จะมีการสุ่มประเภทบอลพิเศษที่อาจเกิดขึ้นมาในฉากยกตัวอย่างก็คือบอล Moon ที่ทำให้เราก็โดดสูงขึ้น หรือ Multi Ball ที่เป็นบอลสามลูกให้เราเก็บพร้อมกัน กอปรเข้ากับอุปสรรคในการเล่นแล้วนี่มันคือสมรภูมิดอดจ์บอลที่ปั่นป่วนที่สุด

【ความสำคัญของทีมเวิร์ค และระบบมัลติเพลเยอร์】

ภายในเกมมีการสนับสนุนระบบ Voice Chat ให้เราได้สั่งการกันสดๆ ระหว่างทีม แต่ถ้าใครไม่สะดวกจะเลือกติดต่อสื่อสารทาง Emote ในเกมก็ได้ โดยจะมีคำสั่งเช่นขอให้ส่งบอลมาให้ หรือเมื่อเราแปลงร่างเป็นลูกบอลแล้วจะตะโกนบอกเพื่อนว่า ‘หยิบเราไปปาสิ!’ ก็ได้เหมือนกัน ด้วยเนื้อแท้ของเกมดอดจ์บอลดั้งเดิมที่ต้องอาศัยทีมเวิร์ค ดังนั้นการประสานงานจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากต้องการเล่นอย่างมีประสิทธิภาพก็อย่าลืมพูดและเข้าหากันบ่อยๆ (ถึงเวลานี้สมรภูมิรบของเราก็จะมีเสียงตะโกนเกิดขึ้น)

Knockout City ยังได้นำเสนอระบบ Crew ที่ให้เราจับกลุ่มกับผู้เล่นสูงสุดถึง 32 คนในการร่วมฝึกซ้อมในพื้นที่ส่วนตัว และไว้จอยห้องหากัน เท่านั้นไม่พอบางภารกิจจะเป็นภารกิจสำหรับคนรวยเพื่อนเท่านั้น ต้องอยู่ในระบบ Crew ก่อนถึงจะทำได้ และอาจปลดล็อคไอเทมพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากการเล่นปกติหรือซื้อในร้านค้านั่นเองครับ ตรงจุดนี้จะให้อารมณ์เหมือนกับแก๊งค์ชนแก๊งค์ แต่ไม่ใช่อันธพาลนะ เป็นนักกีฬาที่แบทเทิลกันต่างหาก!

【แฟชั่นสุดจี๊ดจ๊าด】

ความดีงามของ Knockout City ไม่ได้มีเพียงแค่ระบบการเล่นที่หลากหลายและสมดุล ไอเทมเครื่องแต่งกายในเกมจะไม่มีการบัฟสถานะอะไรทั้งสิ้น ให้เราตกแต่งกันสวยๆ แค่นั้น โดยระบบปรับแต่งตัวละครถือว่ามีความละเอียดพอสมควรเลยครับตั้งแต่สีผิว, สีตา และสีผม แบ่งแยกในส่วนเสื้อผ้าไปอีกตั้งแต่ถุงมือ แว่นตา และคอสตูมเท่ๆ โดยมีขายในร้านค้าให้เราเลือกซื้อด้วยค่าสกุลเงินในเกม (ปลดล็อคจากการเล่นและทำภารกิจเพียวๆ) หรือจะเป็นไอเทมที่มีใน Pass  สำหรับคอนเทนต์เครื่องแต่งกายใหม่ๆ จะมีให้ปลดล็อคในผัง Battle Pass ที่เรียกว่า Street Rank โดยจะมีทั้งเครื่องประดับและไอเทมต่างๆ ที่แน่นอนว่าไม่เพิ่มความสามารถแต่มีไว้เพิ่มความเป๊ะปังเท่านั้น

【กราฟิก ดนตรี และเสียงประกอบ】

กราฟิกของเกมถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบการ์ตูนอนิเมชั่นคล้ายเกมสมัยนิยมปัจจุบันที่ไม่ต้องอาศัยความสมจริง แต่เน้นป่วนๆ มันส์ๆ เอาไว้ก่อน ทำให้โลกของ Knockout City เต็มไปด้วยสีสันหยิบมาเล่นเมื่อไหร่ก็อารมณ์ดี ส่วนเรื่องดนตรีไม่พูดถึงก็ไม่ได้แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องของเด็กวัยรุ่นกวนเมือง แต่น่าสนใจมากๆ ที่เพลงจะออกแนวแจ๊สด้วยเครื่องเป่า มันทำให้สนามรบของเราเป็นเหมือนกับโชว์อะไรสักอย่างที่เราไม่สามารถละสายตาได้และต้องลุ้นตลอดเวลาและยังมีโฆษกคอยพูดให้ความเคลื่อนไหวในฉากตลอด ปิดท้ายที่เสียงประกอบเวลาตัวละครถูกกระแทกและเสียงลูกบอลกระทบมือที่ได้ยินแล้ว ‘เจ็บ’ จริง ไม่เชื่อลองไปปิดเสียงแล้วเล่นจะรู้ว่ามันมีรายละเอียดที่ต้องร้องว่าอื้อหือจริงๆ

【ความคุ้มค่าและบทสรุป】

Knockout City เริ่มต้นการเป็นเกมแนวดอดจ์บอลยุุคใหม่ได้อย่างสวยงามด้วยคอนเทนต์ที่จัดเต็มมาตั้งแต่เริ่มเกมทั้งโหมดการเล่นและฉากเริ่่มต้นถึงห้าสนาม และจะมีเนื้อหาใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีกเพียบในอนาคต เกมมีบทเรียนหรือ Tutorial สำหรับใครที่เป็นสายบีกินเนอร์และอยากมาลองเล่นอย่างละเอียด อีกทั้งยังเปิดให้ทุกคนเล่นแบบฟรีจนถึงเลเวล 25 ด้วย ทั้งนี้ข้อติก็คือระบบ Matchmaking ที่เราอาจจะไม่ต้องกลัวว่าห้องจะว่าง (เพราะรองรับ Cross-platform) แต่ตอนนี้เกมยังจับคู่ผู้เล่นแบบไม่ค่อยสมดุลเท่าไหร่ หากคุณเลเวล 1 อาจจะไปเจอเลเวล 15 ก็ได้ แนะนำว่าลองหาเพื่อนมาจับกลุ่มและช่วยเหลือกันเรียนรู้ไปก่อนจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องเส้นแบ่งผู้เล่นครับ กระนั้นแล้วปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่สวยงามของเกมและน่าจับตามองในฐานะเกมหน้าใหม่