James Gunn เผย ‘Caville ไม่ได้โดนไล่ออกจากบท Superman’
และย้ำชัด ‘หลังจากนี้รับบทฮีโร่คนไหนในจักรวาล ต้องรับบทนั้นไปทุกสื่อ'
ในการสัมภาษณ์ล่าสุดทาง James Gunn หัวเรือใหญ่ของ DCU ได้ออกมาพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของจักรวาลนี้ให้เราได้ติดตามกันจำนวนมาก โดยประเด็นหลัก ๆ ที่ผู้เขียนจะนำมาให้ทุกคนได้ติดตามกันก็คือ “อนาคตของ Caville ในบท Superman และ การรับบทบาทฮีโร่ของเหล่านักแสดงในจักรวาลนี้”
ประเด็นแรกที่จะพูดถึงก่อนเลยก็คือ อนาคตของ Caville ที่ล่าสุด Gunn ได้ออกมาเปิดเผยโปรเจกต์ใหม่ที่เป็นส่วนหนึ่งของเฟสแรกของ DCU ซึ่งมีชื่อของ Superman อยู่ด้วย ซึ่งตอนนั้นเอง Gunn ก็ถูกถามเกี่ยวกับบทบาทของ Caville ว่าเขาจะมีส่วนร่วมเกี่ยวกับ DCU อีกหรือไม่ ซึ่งเขาได้ตอบว่า “ทั้งหมดที่ผมสามารถบอกคุณได้ในตอนนี้คือ Henry และ Ben Affleck ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลนี้” ซึ่งสาเหตุก็เพราะว่าทั้งคู่อยู่ในจักรวาล DCEU (DC Extended Universe) แต่พวกเขาไม่ได้มีข้อตกลงใด ๆ กับสตูดิโอสำหรับโปรเจกต์ต่อไป ฉะนั้นทางเทคนิคแล้ว Cavill ไม่ได้ถูกไล่ออก เขาแค่ไม่ได้รับการว่าจ้างให้เป็น Superman ในภาพยนตร์ Superman ใน DCU เท่านั้น
ในขณะเดียวกัน Gunn ก็ได้ยืนยันข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าพวกเขาวางแผนไว้ว่าหลังจากนี้เหล่านักแสดงรับบทฮีโร่คนไหนในจักรวาล ต้องรับบทนั้นไปทุกสื่อ ยกตัวอย่างเช่น Peacemaker ที่รับบทโดย John Cena ใน Suicide Squad นั่นแปลว่าหลังจากนี้หากมีซีรีส์ภาคแยกของ Peacemaker ผู้แสดงยังคงต้องเป็น John Cena นั่นเอง
“พวกเขาจะต้องมีส่วนร่วมทั้งภาพยนตร์และโทรทัศน์ด้วย เพราะไม่มีการแบ่งแยกสำหรับเรา” Peter Safran ซีอีโอของ DCU กล่าว “นั่นเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งของสิ่งที่เรากำลังทำอยู่” โดยเขาได้อธิบายว่าเหตุผลในการทำเช่นนี้คือ ทำให้ DCU มีความเหนียวแน่นมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ยังทำเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ชมจะไม่สับสนในการชมด้วย และดูเหมือนว่ากฎนี้จะใช้กับวิดีโอเกม และอนิเมชั่นในอนาคตด้วย
ในตอนนี้งานของ Gunn ใน DCU ได้เริ่มขึ้นแล้ว เขายืนยันระหว่างงานแถลงข่าวและในวิดีโอที่แชร์บนโซเชียลมีเดียว่า Superman: Legacy จะเปิดตัว DCU ในเดือนกรกฎาคม 2025 ซึ่งเราก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าใครจะมารับบท Man of Steel ในภาพยนตร์เรื่องนี้