ในตอนนี้ The Last of Us ตอนที่ 4 ก็ได้ฉายให้เราได้ชมกันอย่างเป็นทางการแล้ว และแน่นอนว่าในซีรีส์แต่ละตอนเราจะได้เห็น Easter Eggs ที่แอบอยู่ให้เราได้ค้นหากันอยู่เสมอ และในบทความนี้ผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะนำข้อมูล Easter Eggs ในซีรีส์ The Last of Us ตอนที่ 4 มาให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ
ผู้เขียนขอย้ำว่าบทความนี้มีสปอยล์เนื้อหาในซีรีส์ The Last of Us ตอนที่ 4 แบบเต็ม ๆ หากใครยังไม่ได้ชมก็ขอให้ออกไปก่อนได้เลยครับ
หนังสือ No Pun Intended: Volume Too
ในตอนต้นของตอนนี้เราจะได้เห็น Joel กำลังเติมน้ำมัน ซึ่ง Ellie ที่อยู่ในบริเวณนั้นได้หยิบหนังสือ No Pun Intented: Volume Too ซึ่งเป็นหนังสือรวมมุกควาย (ตามการพากย์เสียงไทย) โดยหนังสือนี้เป็นของสะสมใน The Last of Us และ The Last of Us: Left Behind ซึ่งเราจะได้เห็น Ellie พยายามเล่นมุกจากหนังสืออีกด้วย
Arby’s
ขณะที่ทั้งคู่ออกเดินทาง พวกเขาก็ผ่าน Arby’s ซึ่งสิ่งนี้จะเชื่อมโยงกลับไปในตอนที่ 3 ที่ Frank ได้บอกกับ Bill ว่าเขาให้อาหารฟรีกับเขาไม่ได้ “เพราะที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหาร Arby’s” ซึ่งเราก็จะได้เห็นป้ายร้านอาหารดังกล่าวในตอนนี้ด้วย
สะพาน Fort Pitt ใน Pittsburgh
นี่คือจุดสังเกตในเกม The Last of Us ที่ทำให้ผู้เล่นรู้ว่า Joel และ Ellie มาถึง Pittsburgh แล้ว โดยภายในซีรีส์นี้เราจะได้เห็นเพียงทั้งคู่ขับรถผ่านสะพานไป นั่นแปลว่าในซีรีส์นี้เราจะไม่ได้เห็นตอน Pittsburgh ภายในเกม
Ellie พบนิตยสารสำหรับผู้ใหญ่ของ Bill
ขณะที่ Joel และ Ellie ขับรถไปตามทางหลวงร้างเป็นครั้งแรก Ellie นั่งอยู่ที่เบาะหลังและพบนิตยสารสำหรับผู้ใหญ่ของ Bill ที่มีชื่อว่า Bearskin เธอดูผ่าน ๆ ก่อน จากนั้นจึงถาม Joel แบบติดตลกว่า “ทำไมหน้ากระดาษมันติดกันเป็นปึก” ซึ่ง Joel ก็ได้แต่เลิ่กลั่ก ก่อนที่ Ellie จะบอกว่าเธอล้อเล่น และโยนหนังสือเล่มนั้นออกไปนอกหน้าต่าง ซึ่งนิตยสารดูเหมือนกับในเกมเป๊ะ ๆ
“Alone and Forsaken” โดย Hank Williams
สำหรับหลาย ๆ คน เรื่องนี้อาจดูเหมือนเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์การเดินทางของ Joel และ Ellie ที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม มันมีความสำคัญมากกว่านั้นมาก Alone and Forsaken โดย Hank Williams เป็นเพลงเดียวกับที่เล่นระหว่างการเดินทางของ Joel และ Ellie ในเกม The Last of Us อีกทั้ง Alone and Forsaken ยังเป็นชื่อของภารกิจที่ Joel และ Ellie ต้องต่อสู้กับนักล่าหลังจากการซุ่มโจมตี ซึ่งถูกนำเสนอในตอนที่ 4 ของซีรีส์ The Last of Us ด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนของซีรีส์นี้มีชื่อว่า Please Hold My Hand ซึ่งอ้างอิงถึงท่อน “Oh Lord, if you hear me, please hold to my hand” จากเพลงของ Williams นั่นเอง
Jeffrey Pierce กลับมาแล้ว
Jeffrey Pierce ปรากฏตัวในซีรีส์ตอนที่ 4 ซึ่งหากใครไม่เคยเล่นเกมมาก่อนอาจจะงงเล็กน้อยว่าเขามีความสำคัญอย่างไร ทำไมถึงเป็น Easter Eggs ซึ่งเขาคนนี้คือคนที่พากย์เสียงเป็น Tommy น้องชายของ Joel ใน The Last of Us และ The Last of Us Part II นั่นเอง
Joel มุดรูกำแพงไม่ได้
มีช่วงเวลาหนึ่งในตอนที่เห็น Ellie ซ่อนตัวอยู่ในห้อง ประตูถูกปิดตายและเธอเข้าไปในห้องผ่านรูเล็ก ๆ บนกำแพง ได้ยินเสียง Joel พูดว่า “Ellie ฉันต้องเข้าไปในนั้น แต่ฉันไม่สามารถผ่านได้” บทสนทนานี้เป็นการย้อนกลับไปยังเกม ซึ่ง Joel และ Ellie ทำงานร่วมกันเพื่อไขปริศนาต่าง ๆ โดย Ellie มักจะได้รับบทในการมุดเข้าซอกเล็ก ๆ เป็นประจำ
Ellie ถูก Joel ดันให้ขึ้นไปที่สูง
คล้ายกับ Easter Eggs ก่อนหน้านี้ที่ Joel จะประสานมือดัน Ellie ขึ้นไปในที่สูง ซึ่งตลอดการผจญภัยภายในเกม The Last of Us เราจะได้เห็นฉากนี้อยู่บ่อยครั้ง
ตัวอักษร “RUN” ที่เป็นเอกลักษณ์
ใครก็ตามที่เคยเล่น The Last of Us จะจำรถไถที่มีคำว่า “RUN” พ่นสีบนคันไถได้ทันที ซึ่งรถคันนี้จะปรากฏในบทของเกม Pittsburgh และไล่ล่า Joel และ Ellie ไปรอบ ๆ เมือง ตัวละครต้องซ่อนตัวและเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกมันฆ่า
ในขณะเดียวกัน The Last of Us ฉบับคนแสดงของ HBO จะได้ Craig Mazin และ Carolyn Strauss ผู้ที่เคยฝากผลงานซีรีส์ Chernobyl มานั่งแท่นผู้อำนวยการผลิตคู่กับ Neil Druckman ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์จาก The Last of Us ส่วนเรื่องราวของ The Last of Us ฉบับคนแสดงจะอิงตามเกมต้นฉบับที่ออกวางจำหน่ายในปี 2013 นั่นคือการผจญภัยของ Joel (รับบทโดย Pedro Pascal) และ Ellie (รับบทโดย Bella Ramsey) ที่ต้องเดินทางข้ามอเมริกาและฝ่าดงผู้ติดเชื้อระบาดที่เกิดขึ้นจากเห็ดชนิดหนึ่ง ซึ่งกลุ่ม Firefly มีความเชื่อว่า Ellie จะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาเชื้อโรคนี้ได้ ทำให้ Joel ต้องพาเด็กสาวเดินทางเพื่อภารกิจสำคัญของมนุษยชาติ