
Dune: Part Two ได้เข้าฉายเป็นที่เรียบร้อยแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ผลงานกำกับของ เดนิส วิลเนิฟ ที่ได้ดัดแปลงมาจากนวนิยายของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ท นั่นเองและสำหรับงานนี้ทาง Hamilton แบรนด์นาฬิกาที่ได้ร่วมงานกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องก็ได้ทำการร่วมมือกับ Dune: Part Two ผลิตนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ 2 เรือนที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Desert Watch ที่ใช้ภายในเรื่องของชนเผ่า Fremen โดยมีด้วยกันสองรุ่นคือ Ventura Edge Dune Limited Edition และ Ventura XXL Bright Dune Limited Edition
VENTURA XXL BRIGHT DUNE LIMITED EDITION
ราคา $1,750 หรือประมาณ 62,720 บาท จำนวนจำกัด 3,000 เรือน


ตัวเรือนเป็นการออกแบบโดยใช้พื้นฐานจากรุ่น Ventura พื้นหน้าปัดเป็นลวดลายสีน้ำเงินที่สื่อถึงดวงตาสีฟ้าของชาว Fremen ส่วนในปุ่มด้านซ้ายเล็ก ๆ สามารถกดได้เพื่อเป็นโหมดแสดงผลสำหรับในที่มืดที่จะทำให้หน้าปัดนั้นเรืองแสงส่องสว่างขึ้นมา ส่วนด้านหลังเป็นสัญลักษณ์และข้อความรุ่นพิเศษนั่นเอง
Ventura Edge Dune Limited Edition
ราคา $2,500 หรือประมาณ 89,602 บาท จำนวนจำกัด 2,000 เรือน


สำหรับเรือนนี้มีการออกแบบหน้าปัดต่างจากรุ่น VENTURA XXL BRIGHT DUNE LIMITED EDITION ไปเล็กน้อยตัวเรือนมีความเหลี่ยมและมีการแบ่งสัดส่วนหน้าปัดที่ดูแปลกตา การแสดงผลเป็นแบบดิจิทัล สามารถกดเพื่อแสดงผลในที่มืดจากปุ่มเม็ดมะยมทางด้านขวามือ ส่วนด้านหลังได้ทำการสลักรูปดาว Arrakis และหมายเลขจำนวนจำกัดของรุ่นไว้อีกด้วย
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ตัวอย่างภาพยนตร์