Yu-Gi-Oh! Master Duel เริ่มดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่ต้องเสียเพชรบิ๊ว Deck ใหม่หลายรอบ
หลายคนอาจจะเห็นแล้วว่าช่วงนี้กระแสของเกมการ์ดยูกิเปิดใหม่อย่าง Yu-Gi-Oh! Master Duel กำลังมาแรงมาก และทุกคนเองก็คงจะอยากกลับเข้าไปในเกมเพื่อย้อนวันวานสมัยยังเด็กกันสักหน่อย แต่ในเกมดันมีแต่พวกปีศาจหรือแฟนยูกิของแท้ที่มากไปด้วยเด็คยุคใหม่ร่ายรำกันเทิร์นละ 5-10 นาที พอสู้คนอื่นลำบากเราก็เริ่มอยากจะบิ๊วเด็คใหม่ แต่ทุกการบิ๊วล้วนใช้ทรัพยากรในเกมพอสมควรกว่าจะได้เด็คที่สมบูรณ์ออกมาสักเด็คหนึ่ง ดังนั้นการเริ่มต้นที่ดีจึงเป็นอะไรที่ได้เปรียบมาก เพราะมันจะทำให้คุณทำเด็คดี ๆ ได้ไว ไม่ต้องเสียเวลาฟาร์มนาน และอาจเพิ่มโอกาสชนะได้มากขึ้นครับ ไปชมกันเลย
Step 1 เลือก Starter Deck ที่เข้ากับตัวเองที่สุด
ในช่วงแรกของเกมหลังจากเราผ่าน Tutorial แรกมาได้ เราจะเข้าสู่การเลือก Starter Deck ซึ่งจะมีให้เลือกอยู่ทั้งหมด 3 Deck ได้แก่ Deck Blue-Eyes / Deck Synchro และ Deck Link โดยความแตกต่างของทั้ง 3 Deck นี้จะแบ่งในเรื่องของ Gen ถ้าคุณเป็นผู้เล่นเก่า ไม่ชอบอะไรซับซ้อนก็เลือก Deck Blue-Eyes เพราะมันจะไม่มีอะไรอัญเชิญยาก พลังโจมตีสูง แต่ถ้าคุณเป็นผู้เล่นที่อยู่ใน Gen กลาง ๆ พอจะรู้จักซิงโครบ้าง ก็ให้เลือก Deck Synchro ก็จะคล่องตัวขึ้นมาอีกระดับนึง แต่ถ้าคุณเป็นผู้เล่นเดนตาย เจนศึกมาทุกยุคทุกสมัย การเล่น Deck Link ก็จะมีความคล่องตัวสูงกว่า เล่นมันส์กว่า ยืดหยุ่นกว่า แต่พลังโจมตีอาจจะน้อย
หรือถ้าทั้ง 3 Deck ไม่ได้ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการเลย ก็ให้เลือกจากการ์ดจำเป็นที่คุณอยากได้มากที่สุด คุณอาจจะคิดถึงปลายทางไว้ว่าอยากได้เด็คแบบไหน แล้วค่อยเอาการ์ดที่ได้จากเด็คนี้ไปเสริมก็ยังได้ แต่ยังไงก็ตามคุณเองก็ต้องใช้ Starter Deck นี้เป็นจุดเริ่มต้นในการฟาร์มเพชรมาบิ๊ว Deck ใหม่ในอนาคตอยู่ดี ดังนั้น Starter Deck ควรเป็นเด็คที่คุณเล่นได้เข้ามือสุดดีกว่าครับ
Step 2 ฟาร์มเพชรจาก Solo Mode ให้ได้มากที่สุด
Solo Mode จะเป็นอีกโหมดหนึ่งที่ทำให้ผู้เล่นอย่างเราสามารถฟาร์มเพชรมาบิ๊ว Deck ใหม่ได้ง่ายขึ้น เพราะ Solo Mode ส่วนใหญ่จะเป็นการให้เราได้เรียน Tutorial หรือให้เรียนรู้ Deck เฉพาะทางใหม่ ๆ ซึ่งรางวัลก็จะมีเพชรเป็นหนึ่งในนั้นด้วย แม้มันจะดูไม่มากเท่าไหร่ในแต่ละด่าน แต่ถ้าขยันหน่อยมันก็ทำให้เรามีเพชรมากพอไปเปิดซองหาการ์ดมาใช้ได้ไม่น้อยเลยล่ะ เพราะใน Mission จะมีส่วนของ Solo Mode อยู่ด้วย ยิ่งเล่นก็จะยิ่งได้เพชรจาก Mission เพิ่มขึ้นไปอีก และในช่วงแรกที่เรายังไม่มีเด็คที่สมบูรณ์ไปลงแรงค์ การสู้กับผู้เล่นด้วยกันด้วย Starter Deck จะเป็นอะไรที่ลำบากมาก เพราะงั้น Solo Mode ก็เปรียบเสมือนเหมืองแร่ที่ใช้ฟาร์มเพชรในช่วงแรกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ อย่างน้อยเล่นในส่วน Duel Strategy ให้ครบก็จะได้อย่างต่ำ 2,400 เพชร และการ์ดสำคัญ ๆ อย่าง Raigeki หรือ Monster Reborn มาใช้ด้วยครับ
Step 3 เล่น Meta Deck หรือ Anti-Meta Deck จะมีโอกาสชนะมากกว่า
ทุกเด็คล้วนมีแนวทางของตัวเอง ถ้าคุณจัดเด็คได้ดี ตามยุคสมัยทัน ดักทางถูก มีการ์ดดี ๆ ใช้ คุณก็อาจจะบิ๊วเด็คของตัวเองขึ้นมาโดยที่ไม่เลียนแบบใครแล้วเล่นให้ชนะได้ แต่ถ้าคุณไม่ได้เจนศึกขนาดนั้น ส่วนตัวแนะนำว่าให้เลือกเล่นจาก Meta Deck ที่นิยมเล่น หรือพวกเด็คระดับ Top Tier จะทำให้คุณมีโอกาสชนะมากขึ้น คุณสามารถเสิร์ชหา Tier Deck 2022 ได้จากในกูเกิ้ล และเลือกเอาเด็คที่ชอบและจัดตามได้เลย หรือไม่ก็จัดเด็คประเภท Anti-Meta หรือ Control Deck ไปเลยจะมีโอกาสชนะมากกว่าการจัดเด็คทั่วไปที่อาจจะตกยุคไปแล้ว เพราะผู้เล่นเก่าหลายคนอาจมีภาพจำว่าเด็คบางเด็คมันโหดมากในยุคนั้น แต่ปัจจุบันอาจสู้พวก Meta หรือ Control ไม่ไหว ถ้าคุณไม่ชำนาญจริง ๆ ยึดติดกับภาพจำเก่า ๆ ก็อาจทำให้โอกาสชนะของคุณลดน้อยลงไปอีกครับ ยกเว้นว่าถ้าคุณมีความสุขที่ได้เล่นเด็คที่ตัวเองชอบ อันนี้ก็ไม่ว่ากันครับ
Step 4 ซื้อ Duel Pass และเลือกเปิดเฉพาะ Secret Pack
เมื่อเรามีเพชรปริมาณที่มากพอแล้ว และมีเป้าหมายชัดเจนแล้วว่าเราจะเลือกบิ๊วเด็คอะไรขึ้นมาเล่น สิ่งแรกที่ควรซื้อเลยก็คือ Duel Pass ซึ่งสามารถใช้เพชรในเกมซื้อได้โดยไม่ต้องเติม เจ้า Duel Pass จะช่วยให้ในการฟาร์มเพชรและ Token ต่าง ๆ ได้หลังจากที่เราทำการดูเอลส์กับผู้เล่น ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะเราก็ยังได้รางวัลเลเวลอัพอยู่ ส่วน Secret Pack จะเป็นแพ็คที่รวบรวมการ์ดหรือเด็คประเภทเดียวกันไว้ในกล่อง ๆ เดียว มันจะทำให้เราโฟกัสได้ว่าอยากเลือกการ์ดใบไหนจากแพ็คอะไร แล้วเปิดเลือกเปิดแพ็คเฉพาะทางจะดีกว่าการเปิดแพ็คใหญ่แล้วสุ่มมั่วจากหมื่น ๆ ใบหลายเท่า
โดยในช่วงแรก Secret Pack จะยังไม่โผล่มา การที่เราจะทำให้ Secret Pack โผล่ขึ้นมาได้คือการสุ่มการ์ดจากแพ็คใหญ่ให้ได้การ์ดที่อยู่ในแพ็คเล็กต่าง ๆ เมื่อเรามีการ์ดจากแพ็คเล็กแล้วอย่างน้อย 1 ใบ Secret Pack ของการ์ดใบนั้นก็จะโผล่มาเป็นเวลาจำกัด หรือถ้าเรารู้ว่าสร้างการ์ดใบไหนแล้วจะได้ Secret Pack อะไร ก็ใช้วิธีสร้างการ์ดอย่างน้อย 1 ใบ เพื่อเปิด Secret Pack ก็ยังได้ แต่วิธีนี้ต้องใช้ความจำซักนิดนึงครับ
Step 5 ย่อยการ์ดที่ไม่ได้ใช้มาเป็น Token เพื่อบิ๊ว Deck ที่ต้องการ
วิธีนี้เป็นวิธีที่เซฟที่สุดในการบิ๊ว Deck ใหม่ขึ้นมาสักอย่างให้สมบูรณ์ การ์ดทุกใบที่เราไม่ได้ใช้หรือไม่คิดจะใช้มัน ให้ทำการย่อยการ์ดเหล่านั้นเป็น Token ซึ่ง Token จะแบ่งออกตามความแรร์ของการ์ดที่ย่อย เช่น Normal, Rare, Super Rare และ Ultra Rare ถ้าเราย่อยการ์ด UR เราก็จะได้ UR Token มาสร้างการ์ดระดับ UR มาใช้งานได้ ซึ่งอัตราส่วนจะอยู่ที่ 3:1 ก็คือย่อย 3 ใบ จะได้การ์ดใหม่ในระดับเดียวกัน 1 ใบนั่นเอง เว้นแต่ว่าการ์ดที่ย่อยนั้นจะเป็นการ์ดเงาเหลื่อมหรือฟรอยอัตราส่วนจะอยู่ที่ 2:1 แทน เพราะงั้นช่วงแรกไม่ต้องกลัวการเปิดการ์ดแล้วไม่คุ้ม ถ้าเราไม่ได้เล่นมันจงอย่าเสียดายที่จะย่อยทิ้งเป็น Token แล้วมาเลือกคราฟท์การ์ดใหม่ที่เราจำเป็นต้องใช้จะดีกว่า วิธีนี้จะทำให้เรามีเด็คที่สมบูรณ์ได้รวดเร็วที่สุดในเกมนี้แล้ว เมื่อเด็คเราแน่นพอที่จะไปลงแรงค์กับคนอื่น พอชนะมากขึ้นเพชรก็จะมากขึ้นตามไปด้วย เพราะงั้นมันคือการลงทุนที่คุ้มค่าครับ
และนี่คือ “5 Step เริ่มต้นในการเล่น Yu-Gi-Oh! Master Duel” หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เล่นใหม่ หรือผู้เล่นเก่าที่รีเทิร์นกลับไปเล่นการ์ดยูกิในเกมนี้นะครับ ยุคนี้ต้องยอมรับครับว่าเด็คเมต้าสายรำมันเยอะมากจนเต็มเซิร์ฟจริง ๆ แม้การจัดเด็คเองจะพอสู้ได้บ้าง แต่ทุกคนที่เจอในแรงค์ก็มีแต่ของแข็งทั้งนั้น ยังไงก็แนะนำว่าควรมี Meta Deck หรือ Anti-Meta ไว้ติดตัวสักเด็คนึง เอาไว้ลงแรงค์หาเพชร แล้วทีนี้เราจะบิ๊วเด็คอะไรที่ชอบก็ตามใจเราทีหลังครับ แบบนั้นน่าจะทำให้การเล่นไหลลื่นมากกว่า ไม่งั้นอาจมีโมเมนต์ที่ต้องสมัครไอดีใหม่มาฟาร์มเพชรใหม่ เพราะบิ๊วเด็คไปก็แพ้จนเซ็งเลยล่ะครับ