เกม

Samurai Warriors ย้อนตำนานซามูไรเซงโกคุ

เกมแอ็กชันสไตล์มุโซวในธีมญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ 'สามก๊กมั่วซั่ว'

ผู้เขียน : GantaroZX

KOEI Tecmo ถือเป็นทีมพัฒนาเกมในญี่ปุ่นที่มีฝีมือด้านการทำเกมแอ็กชันดีในระดับต้นๆ อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องการดีไซน์ตัวละครและเกมเพลย์ด้วย ซึ่งหลังจาก Dynasty Warriors หรือ สามก๊กมุโซวที่เราเรียกว่ามั่วซั่วได้วางจำหน่ายไป ทีมงานก็เห็นโอกาสในการผลักดันแฟรนไชส์ใหม่ที่ใช้เกมเพลย์คล้ายคลึงของเดิมแต่เปลี่ยนมาเป็นตำนานสงครามเซงโกคุอันลือลั่น เพื่อเป็นเครื่องมือแห่งการย้อนสู่ประวัติศาสตร์ด้วยเหมือนกัน

แม้ Samurai Warriors จะมีจำนวนภาคเกมน้อยกว่า Dynasty Warriors ทว่าสิ่งที่ยอมรับได้เลยก็คือความเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดของแต่ละภาค อีกทั้งมีการให้ความสำคัญในรายละเอียดเนื้อหาที่อัดแน่นแบบแทบจะไม่เจอช่วงขำขันเลย ส่วนหนึ่งก็อาจเป็นเพราะตัวละครในเกมล้วนเป็นบุคคลที่มีบทในสงครามเหล่านี้จริงๆ จะมีช่วงที่ฮาได้ก็ต้องรอจนถึงภาค 4 ที่เริ่มใส่ฉากพาโรดี้มาแบบยาวๆ เต็มๆ กับเขาเสียที เกริ่นมานานพอสมควรว่าแล้วขอเชิญเพื่อนๆ ย้อนกลับสู่ยุคแห่งความโกลาหลในตำนานซามูไรเซงโกคุกันได้เลย

1. Samurai Warriors

เกมนี้ถือเป็นการเปิดศักราชรูปแบบมุโซวครั้งแรกในรูปแบบญี่ปุ่น ซึ่งทางทีมงานได้ออกแบบเกมให้มีโทนที่มืดหม่น ดังนั้นงานภาพและฉากจะดูแห้งแล้งเต็มไปด้วยความหม่นหมองแม้ว่าจะเป็นการเล่นในรูปแบบเดียวกับ Dynasty Warriors ที่เน้นฟันศัตรูตรงหน้าก็ตาม โดยเกมเพลย์โดยรวมเองก็จะพบว่าช้ากว่าด้วย ทำให้ปุ่มคอมโบกดท่าพิเศษค่อนข้างง่ายครับ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เกมแบบสามก๊กในธีมซามูไรเพราะมีลักษณะการเล่นไม่เหมือนกันคือระบบการอัปตัวละครที่มีผังและค่า Ability Point เพื่อปลดล็อกทักษะตัวละคร เท่านั้นไม่พอสามารถสร้างตัวละครได้เองด้วย

เรื่องราวของเกมภาคนี้โฟกัสในส่วนหลักเป็นยุคสมัยของ โนบุนางะ โอดะ ไดเมียวสุดโหดที่ถูกตีความออกมาเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่หน้าเคร่งขรึมในชุดเกราะสีดำ ตั้งแต่การสังหาร โยชิโมโตะ อิมางาวะ ในดินแดนโอเกฮาซามะ จนถึงขั้นนำน้องสาวของตัวเองไปแต่งงานเพื่อการเมืองแต่กลับทำลายตระกูลของฝั่งเจ้าบ่าวในภายหลังจนเจ้าตัวฮาราคีรีตัวเองในปราสาท เรียกได้ว่าเนื้อหาจะซีเรียสกว่าอีกเกมที่ยังมีเรื่องราวตัวละครสไตล์ขำๆ อยู่บ้าง นอกเหนือจากโหมดเนื้อเรื่องก็จะมีโหมดเน้นแอ็กชันเช่น Survival ที่เป็นมินิเกมการลงดันเจี้ยน ไต่หอคอย เพื่อไปเจอบอสลับเป็นแขกรับเชิญพิเศษคือ ลิโป้ นั่นเองครับ

2. Samurai Warriors: Xtreme Legends

เมื่อได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้เล่น ดังนั้น KOEI ก็ไม่พลาดที่จะเห็นโอกาสในการต่อยอดความสำเร็จเช่นเดียวกับซีรีส์ Dynasty Warriors ด้วยเกมเวอร์ชัน Xtreme Legends ที่เป็นภาคเสริมลักษณะเดียวกัน โดยสามารถสลับแผ่นเล่นกับภาคหลักเพื่อปลดล็อกคอนเทนต์ทุกอย่างให้ใช้กับตัวละครในภาคต้นฉบับ หรือจะเล่นเดี่ยวๆ เพื่อสนุกกับเนื้อหาพิเศษอย่างเดียวก็ได้ ภาคนี้มีการเพิ่มขุนพลสุดโหดที่เป็นเหมือน ลิโป้ แห่งประเทศญี่ปุ่นนั่นคือ ทาดาคัตสึ ฮอนดะ และ อินะฮิเมะ ลูกสาวผู้ใช้ธนู ที่ภายหลังได้กลายมาเป็นตัวละครหลักของเกมในซีรีส์นี้และปรากฏในเกมทุกภาคจนถึงภาค 5

ที่สำคัญ โยชิโมโตะ อิมางาวะ ก็จะได้รับเนื้อเรื่องพิเศษเป็นของตัวเองเข้ามา โดยจะเรียกว่าเป็นเนื้อหาของตัวละครไม่กี่คนก็ได้ที่มีความใจฟูขึ้นมาบ้าง แต่หลายคนก็ไม่พอใจที่ทางทีมงานตีความตัวละครนี้ออกมาในแนวตลกนั่นคือเป็นไดเมียวที่ชอบเล่นเตะบอลเคมารี (กีฬาโบราณญี่ปุ่น) และเอาตัวรอดจากโนบุนางะเพื่อทำการสืบสานกีฬานี้ แต่จุดเด่นคือ ฮิเดโยชิ โตโยโตมิ ไดเมียวที่อยู่ในป๊อบคัลเจอร์ยุคปัจจุบันนั่นเอง โดยจะมีด่านใหม่คือ นางากูเตะ ที่อยู่ใกล้กับจังหวัดไอจิของปัจจุบัน เมื่อทหารของโนบุนางะ ต้องการโค่นล้ม ฮิเดโยชิ จึงก่อกบฏขึ้นส่วนฟีเจอร์พิเศษที่เพิ่มเข้ามานอกจากนี้จะเป็นมินิเกมโหมด Versus ที่เน้นการเล่นแบบ PvP ผู้เล่นจะสามารถสู้กันตัวต่อตัวในฉากขนาดเล็กคล้ายเกมต่อสู้ได้ หรือโหมด Sumo ที่ให้เราเล่นเป็นตัวละครซูโม่คอยดันพื้นที่กันและกัน

3. Samurai Warriors 2

หลังจากดาร์กกันไปพอสมควร ในที่สุดภาคนี้ก็กลับมามีความสว่างสดใสมากขึ้น แต่เรื่องราวหม่นๆ ก็ยังมีอยู่ เพียงแค่โทนภาพจะมีสีสันกว่าเดิมนั่นเอง ซึ่งภาคนี้มีการขยายเรื่องราวต่อเนื่องจากเหตุการณ์ ณ ฮอนโนจิ ที่เป็นที่ตายสุดท้ายของ โนบุนางะ แต่จะเล่าเรื่องมาจนถึงสงครามเซกิฮางาระ อันเป็นจุดสิ้นสุดของเซงโกคุโดยสมบูรณ์ที่ทำให้ตระกูล โตกุงาวะ ได้ปกครองแผ่นดินญี่ปุ่นอันเป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จหลังจากการต่อสู้กับ มิตสึนาริ อิชะดะ ผู้สืบทอดของ ฮิเดโยชิ และเป็นศักราชใหม่ของยุคเอโดะ โดยตัวละครทั้งหมดจากภาคที่แล้วสามารถนำมาเล่นได้ทุกคน ยกเว้นแค่ ​โยชิโมโตะ อิมางาวะ (เพราะเนื้อเรื่องท่านมีถึงช่วงแรกของเกมจริงๆ!)

โหมดที่ถูกเพิ่มเข้ามาและได้รับความนิยมมากก็คือ Sugoroku โดยเป็นมินิเกมพิเศษแบบเกมเศรษฐีที่ต้องทอยลูกเต๋าและทำภารกิจในการยึดพื้นที่ทั่วญี่ปุ่นให้สำเร็จ ซึ่งช่องแต่ละช่องจะมีอีเวนต์ไม่เหมือนกัน เช่นต้องต่อสู้กับศัตรูในตานั้นให้หมด หรือวิ่งเก็บเหรียญ ถือว่าเปลี่ยนอารมณ์จากเกมได้ดีพอสมควร และเกมนี้เป็นภาคแรกที่เพิ่มฟังก์ชันใหม่เข้ามาคือตัวละครโบนัส ที่สามารถนำมาปลดล็อกได้แต่ไม่มีเนื้อเรื่องเฉพาะตัว นั่นคือ Okuni นักพรตยุคโบราณที่เชื่อว่าเป็นผู้ริเริ่มศิลปะการเต้นรำของญี่ปุ่นที่เรียกว่าระบำคาบุกิ และมีตัวละคร มูซาชิ มิยาโมโตะ นักดาบในตำนานที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเพลงดาบมากที่สุดมาสร้างสีสันเป็นเรื่องราวคู่ขนาน

4. Samurai Warriors 2: Empires

อีกหนึ่งเกมภาคเสริมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อเกมเมอร์สายวางแผนโดยเฉพาะ โดยจะมาพร้อมโหมด Empire ที่เป็นหัวใจหลัก มีศึกให้เข้าเล่น 7 ฉาก แต่ละฉากเป้าหมายก็คือการยึดพื้นที่ให้เป็นหนึ่งเดียว แต่สิ่งที่จำเป็นก็คือผู้เล่นต้องรู้จักส่งทหารออกไปต่อสู้หรือใช้คำสั่งด้านกฎหมาย คอยตีเมืองฝ่ายตรงข้าม และดูแลเศรษฐกิจของชาวเมืองในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของเรา ส่วนโหมดสร้างตัวละครก็มีให้เล่นเช่นเดิมเพราะผู้เล่นคงต้องการที่จะมีบทในฐานะไดเมียวผู้ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว ส่วนการลงสนามรบจะมีระบบใช้สกิลหรือกลยุทธ์พิเศษเพื่อพลิกสถานการณ์ ทั้งนี้เกมภาคนี้กลับไม่ได้รับความนิยมมากเท่าฝั่งสามก๊กด้วยปริมาณคอนเทนต์ที่น้อยกว่าอีกฟาก

5. Samurai Warriors 2: Xtreme Legends

พอเป๋ไปได้ไม่นานกับภาคเสริมชุดที่แล้วในที่สุด เกมภาคหลักก็ได้รับคอนเทนต์ Xtreme Legends บ้างเหมือนกัน และรอบนี้เองก็มีการจัดหนักด้วยตัวละครใหม่ทั้งหมด 6 ตัวละคร ส่วนเหล่านักรบเดิมยังปลดล็อกท่าต่อสู้ใหม่ได้ด้วย ซึ่งถ้าเกิดเรานำเซฟเดิมมาเล่นจะช่วยปลดล็อกเลเวลจาก 50 เป็น 70 แทนครับ และอีกหนึ่งโหมดที่เป็นไฮไลต์ก็คือ Mercenary Mode ที่ทำให้เราสามารถเล่นเกมในรูปแบบคล้ายกับ Roguelike รับภารกิจต่างๆ แต่สเตตัสและเลเวลที่อัปในโหมดนี้จะสามารถนำไปเล่นโหมดหลักได้ครับ

เนื้อเรื่องสำคัญที่ถูกเพิ่มเข้ามาในภาคนี้คือ เกาะชิโคกุ ที่เป็นบ้านเกิดของ โมโตชิกะ โชโซคาเบะ ไดเมียวผู้ใช้อาวุธสุดเท่เป็นชามิเซนสไตล์ร็อค, โคจิโร่ ซาซากิ คู่ปรับของ มูซาชิ ที่เราจะได้เล่นในเนื้อเรื่องตามมุมมองของเขา และ โยชิโมโตะ เจ้าเก่าก็ได้กลับมาด้วยพร้อมเนื้อเรื่องเอาฮาแบบเดิมเป๊ะๆ แต่จุดเด่นในแง่เกมเพลย์จริงๆ จะอยู่ในส่วนของระบบ Orb ที่ผู้เล่นมีอิสระในการปรับแต่งเพิร์คของอาวุธ และสกิลก็สามารถเข้าซื้อเองได้แล้ว ดังนั้นสังเกตได้ว่าเราสามารถจัดแจงตัวละครได้มากขึ้น เรียกได้ว่าเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้

6. Samurai Warriors 3

มาถึงการพลิกโฉมครั้งสำคัญของซีรีส์ครั้งแรกที่เปลี่ยนรูปแบบเกมให้ทันสมัยยิ่งขึ้นคล้ายกับ Dynasty Warriors 6 แต่หลักการเล่นยังคงเป็นการกดปุ่มคอมโบเหมือนเดิม ซึ่งสิ่งที่สำคัญคือหมวดที่เปลี่ยนไปเพราะจะแบ่งออกเป็นสายแทนคือสาย Power, Normal และ Speed อีกทั้งจะมีตัวเลขที่ฟิกซ์ไว้เลยว่าชิ้นนี้จะดาเมจได้มากเท่าไร แต่จะมีอาวุธลับชิ้นที่ 4 ให้รอปลดล็อก มีระบบใหม่เรียกว่า Spirit Gauge ที่สามารถเติมเกจเพื่อใช้แคนเซิลท่าโจมตีแล้วเปลี่ยนเป็นการพุ่งตัวไปทำลายเกราะ นอกจากนั้นตัวละครที่มีโหมดเนื้อเรื่องจะจำกัดแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ทุกคนมีความยาวแคมเปญเท่ากันคือ 5 ฉากครับ

ด้วยการยกเครื่องครั้งใหม่เราจะสังเกตได้ว่าเกมมีชีวิตชีวากว่าเดิม อาทิอนิเมชันที่ดีขึ้น การออกแบบตัวละครที่ทันสมัยและเป็นแม่แบบให้ภาคต่อไป เท่านั้นไม่พอในโหมดเนื้อเรื่องจะมีฉากการวางแผนการรบที่ตัวละครจะเข้ามาอธิบายว่าแต่ละด่านนั้นมีแผนที่ต้องเคลื่อนทัพจากจุดไหนไปจุดไหน หรือมีภารกิจรองอะไรที่ช่วยเพิ่ม Perk ให้กับเราระหว่างอยู่ในสนามรบ แต่จุดเด่นสำคัญคือเราจะพบว่าบางฉากสามารถใช้อุปกรณ์เสริมอย่างปืนใหญ่เพื่อยิงประตูเมือง เรียกเหยี่ยวไปสำรวจปราสาทได้ ความตลกอีกอย่างก็คือ โยชิโมโตะ ได้เข้ามาอยู่ในเกมภาคหลักแล้ว ทั้งนี้เขาไม่สามารถเล่นในโหมดเนื้อเรื่องได้แต่อย่างใด

ความคุ้มค่าของภาคนี้คือคอนเทนต์ที่อัดแน่นมาให้เล่นกันเต็มๆ ทั้งโหมด Edit Character เพื่อสร้างอวาตาร์ของตัวเอง หรือ Historical Mode เป็นโหมดที่ให้ตัวละครอวาตาร์ของเราเดินทางไปยังเมืองต่างๆ เพื่อช่วยไดเมียวในการต่อสู้ และท้ายที่สุดเฉพาะเครื่องเล่น Wii เท่านั้นก็คือโหมด Murasame ที่เป็นการรีเมคเกมยุค Famicom ใหม่ในรูปแบบมุโซว หากเล่นจบจะปลดล็อกตัวละคร ทาคามารุ มาให้เราเล่นในโหมดอื่นได้เช่นกันครับ โดยภาคนี้เป็นภาคที่มีการเพิ่มตัวละครเข้ามาค่อนข้างเยอะทีเดียว แต่ก็ตัดตัวละครที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสงครามอย่าง โคจิโร่ ซาซากิ และ มูซาชิ มิยาโมโตะ ออกไปเช่นเดียวกับ กราเซีย สาวน้อยมหัศจรรย์ลูกสาวของ มิตสึฮิเดะ อาเคจิ

7. Sengoku Musou 3: Moushouden / Sengoku Musou 3: Z

แม้จะเป็นเกมที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าภาคอื่นนัก แต่ภาคนี้ก็มี Xtreme Legends กับเขาเหมือนกัน (ซึ่งก็จำหน่ายเพียงแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้นอยู่ดี) โดยได้เพิ่มเนื้อเรื่องให้ตัวละครที่ไม่มีแคมเปญในภาคหลัก และนำ กราเซีย กลับมาให้ใช้ บวกกับปลดล็อกให้ อายะ โกเซ็น กับ มาซาโนริ ฟุกุชิมะ ที่เคยเป็น NPC พิเศษในภาคหลักมาเล่นได้แล้วพร้อมอาวุธรูปแบบใหม่ที่แต่เดิมพวกเขาสามารถใช้ได้แค่อาวุธทั่วไปตามตัวละครอวาตาร์ ท้ายที่สุดภาคเสริมนี้ได้เพิ่มโหมด Challenge รวบรวมมินิเกมให้เล่น และโหมด Original Career ที่ดัดแปลงจาก Mercenary ในภาค 2: Xtreme Legends พร้อมกับอาวุธและความยากระดับเพิ่มเติมตามสูตร

หมายเหตุ: เกมเวอร์ชัน Z คือการรวบรวมเนื้อหาหลักและเนื้อหาเสริมเข้าด้วยกันในแผ่นเดียว โดยวางจำหน่ายให้กับ PlayStation 3 และ PSPเท่านั้น

8. Sengoku Musou 3: Empires

เกมภาคนี้เปลี่ยนรูปแบบในช่วงวางแผนให้มีความคล้ายคลึงกับ Nobunaga’s Ambition มากขึ้น โดยผู้เล่นจะได้ดูแลในส่วนของเมืองซึ่งจะมีฉากหมู่บ้านชัดเจนให้เลือกสินค้าตกแต่ง เพิ่มอาคารต่างๆ ที่มีฟังก์ชันต่างกัน เช่นเพิ่มทุ่งนา ย่านร้านค้า ศาลเจ้า บ้านเรือน สิ่งเหล่านี้จะบูสต์สถานะของเมืองโดยรวมให้เรา นอกจากนั้นจะมีแอ็กชันท่าทางใหม่เข้ามาคือ Spirit Charge กลางอากาศ และท่าตีแบบตอบโต้กลับเป็นต้น ทั้งนี้เกมไม่มีการแปลภาษาอังกฤษออกมาแต่อย่างใด

9. Samurai Warriors 4

ก้าวใหม่ของเหล่าซามูไรได้มาถึงแล้วกับเกมที่ออกแบบมาเพื่อเครื่องเล่นรุ่นเน็กซ์เจ็น (ในสมัยนั้น) โดยเฉพาะ ซึ่งได้มีการเพิ่มสปีดให้กับเกมเพลย์เพื่อความดุเดือด และ Spirit Charge ได้รีเวิร์คให้ลื่นไหลมากกว่าเดิม นอกจากนั้นได้เพิ่มฟีเจอร์ที่เรียกว่า Rage Attack ที่จะทำให้ผู้เล่นมีเวลาช่วงนึงในการต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ในฉากสโลว์ก่อนปิดท้ายด้วยอัลติเมตที่รุนแรง อย่างไรก็ตามระบบอาวุธก็จะกลับมาเป็นแบบเดิมก่อนภาค 3 แล้ว

ในส่วนของเนื้อเรื่องก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกัน เพราะเกมจะแบ่งออกเป็นสามรูปแบบคือ Regional Stories เนื้อเรื่องที่จะแบ่งออกตามอาณาจักรต่างๆ เช่นตระกูลโอดะ โมริ หรือทาเคดะ ก็จะมีตัวละครในเซ็ตของตัวเอง, Story of Unification เป็นเรื่องราวที่สานต่อจากเนื้อหาชุดแรกและแบ่งตามอาณาจักรเหมือนเดิม สุดท้ายก็คือ Chronicle Mode ที่ให้เราสร้างอวาตาร์และรับเควสต์จากตัวละครในเกมคนอื่นไปเรื่อยๆ คล้ายกับโหมดทหารรับจ้างแต่ก็จะมีเนื้อเรื่องชัดเจนขึ้น ไม่ใช่ภารกิจที่เล่นครั้งเดียวจบอีกต่อไป

อีกหนึ่งความแปลกใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ ผู้เล่นสามารถควบคุมตัวละครได้สองคนในฉาก ซึ่งจะสามารถเลือกได้ว่าจะให้ใครเป็นตัวหลักและใครเป็นผู้ติดตาม โดยการเปลี่ยนตัวละครสามารถทำได้แบบเรียลไทม์ และระหว่างที่เราไม่ได้ควบคุมอีกคนก็จะมี AI คอยดูแลให้ หรือจะเลือกคำสั่งให้ไปยึดจุดหรือเดินทางไปตามแผนที่ก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นแล้ว โคจิโร่ ซาซากิ, มูซาชิ มิยาโมโตะ รวมไปถึง โกเอม่อน ที่เคยเป็นตัวละครนอกบทบาทจากสงครามก็ได้กลับมาให้เลือกเล่นแล้ว แต่ทั้งสามยังใช้สกินจากเกมภาคเก่าอยู่

10. Samurai Warriors 4-II

ภาคเสริมที่มาพร้อมกับไอเดียเรื่องราวใหม่ๆ ที่แปลกตาไปจากเดิม โดยทีมงานระบุว่าเกมภาค 4-II นี้ก็คือการนำเรื่องราวภาคหลักภาคเดิมมาถ่ายทอดในรูปแบบ ‘อีกด้าน’ นั่นเอง โดยจะพบว่ามีการปรับบาลานซ์เล็กน้อย เช่นเดียวกับเกมเพลย์การควบคุมที่ปรับปรุงให้ลื่นไหลมากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มตัวละครใหม่มาหนึ่งคนคือ นาโอมาสะ อี ลูกชายของคุณแม่ นาโอโทระ จากภาคหลักที่ดูยังไง้ยังไงคุณแม่ก็สาวแซ่บอยู่ดี

เรื่องราวในเกมได้เปลี่ยนจากโหมดเนื้อเรื่องในรูปแบบแบ่งอาณาจักรให้กลายเป็นเนื้อเรื่องประจำตัวละครแทนแล้ว โดยจะมีทั้งหมด 13 คนให้เลือก แต่ละคนจะมีฉากให้เล่นทั้งสิ้น 5 ฉาก เมื่อเคลียร์เนื้อเรื่องจบก็จะสามารถนำตัวละครอื่นมาใช้ได้อย่างอิสระ และเนื่องจากว่าเกมนี้เปลี่ยนแนวทางมาเป็นการบอกเล่าเรื่องราวอีกมุมของเกมเดิม ดังนั้นก็ไม่ได้มีระบบถ่ายโอนเซฟแต่อย่างใด ทุกตัวละครต้องถูกฟาร์มใหม่ทั้งหมด ทำเอาหลายคนถึงกับบ่นยับ

หลายคนอาจจะสงสัยกันว่าทำไมไม่มีเกมรูปแบบ Xtreme Legends อีกต่อไป คำตอบก็คือเมื่อย้อนกลับไปราวปี 2013 – 2014 ได้เกิดข้อพิพาททางกฎหมายขึ้นกับบริษัทเกมอีกแห่งที่ระบุว่าระบบการสลับแผ่นที่เคยใช้งานเพื่อปลดล็อกคอนเทนต์เกมสองชุดร่วมกันถูกละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยี ดังนั้นจึงมีการคาดการณ์ว่าภาคนี้ถูกพัฒนาขึ้นทดแทนและใช้แนวคิดการตีความเนื้อเรื่องใหม่เพื่อเลี่ยงบาลี ทว่าด้วยเหตุผลจริงก็ไม่ใครอาจทราบได้

11. Samurai Warriors 4: Empires

ว่ากันว่าเป็นภาค Empires ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในฝั่งซามูไรเพราะทุกองค์ประกอบได้รับการปรับปรุงใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงระบบอัปเกรดฐานแลละการวางแผนกลยุทธ์ที่ตัวละครทุกคนจะมี Perk มานำเสนอไม่เหมือนกัน นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ความจงรักภักดีที่ส่งผลต่อสถานะของตัวละครในฉากด้วย และในส่วนโหมดเนื้อเรื่องก็จะมีทั้งหมด 6 ฉากให้ใช้พร้อมการปรับแต่งที่มากขึ้นกว่าเดิม ท้ายที่สุดในสนามรบผู้เล่นอาจจะเจอกับอีเวนต์ใหม่อย่าง Nemesis Mission ที่จะต้องตามหาศัตรูคู่อาฆาตให้เจอเพื่อเอาชนะ

12. Samurai Warriors: Spirit of Sanada

เกมที่นำระบบภาค 4: Empires มาต่อยอดเป็นเรื่องราวของยอดนักรบ ยูคิมุระ ซานาดะ แบบเต็มตัว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์แคมป์ในฉากให้เราวิ่งสำรวจ ซื้อไอเทม พูดคุยกับ NPC ทำกิจกรรมไปตกปลา เพิ่มความสัมพันธ์ของตัวละครได้อย่างอิสระ จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างก็คือการต่อสู้ในฉากขนาดเล็กที่แบ่งเป็นโซนคล้าย Monster Hunter และมีระบบ Day-night Cycle ที่ส่งผลต่อสถานการณ์ในเกมเข้ามาด้วย

13. Samurai Warriors 5

เกมที่ถือเป็นการรีบู๊ตจักรวาล Samurai Warriors โดยสิ้นเชิงเพราะว่าในส่วนของเนื้อเรื่องทำการยกเครื่องใหม่เพื่อโฟกัสที่ตัวละคร โนบุนางะ ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงจุดจบ ณ วัดฮอนโนจิ พร้อมการแตกกิ่งก้านสาขาเนื้อเรื่องในส่วนของ มิตสึฮิเดะ อาเคจิ และไดเมียวคนอื่นๆ ที่เผชิญหน้ากับ โนบุนางะ ตลอดอายุของเขา เท่านั้นไม่พอจะพบว่ากราฟิกเปลี่ยนใหม่เป็นแนวอนิเมะภาพเซลเฉดจากเดิมที่เคยเป็นสามมิติสมจริงด้วย

อีกหนึ่งสิ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือตัวละครทุกคนถูกตีความใหม่เหมือนกันเพราะว่าเราจะเห็นพวกเขาในวัยที่เหมาะสมกับเหตุการณ์แล้ว และแต่ละคนยังเปลี่ยนอาวุธใหม่ด้วย เช่น โนฮิเมะ จะใช้ธนูแทน และ โยชิโมโตะ อิมางาวะ เจ้าสำราญก็เปลี่ยนมาเป็นชายไดเมียวผู้น่าเกรงขาม นอกจากนี้ยังมีตัวละครชาวแอฟริกันคนแรกของซีรีส์ปรากฏตัวขึ้นมาคือ ยาสึเกะ ซึ่งเป็นทหารที่มีชีวิตอยู่จริงๆ ในยุคนั้น

14. Samurai Warriors Chronicles 1 – 2nd – 3

แม้จะเป็นภาคเสริมแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าควรนำเข้ามาอยู่ในเนื้อเรื่องด้วย โดยแน่นอนว่าในเนื้อหาของภาคนี้จะไม่ได้เป็นเรื่องราวตามประวัติศาสตร์แต่ให้ผู้เล่นสร้างตัวละครอวาตาร์มาแทน โดยภาคแรกและภาค 2nd มีการอ้างอิงจากคอนเทนต์ในเกมภาคสามของคอนโซลหลักเข้ามา ผู้เล่นจะได้มีบทบาทในสงครามต่างๆ ทำความรู้จักกับขุนพลทั้งหมดเพื่อสะสมสหายร่วมรบในภารกิจมากกว่า 120 ภารกิจ อีกทั้งรองรับการเปลี่ยนตัวละครเรียลไทม์ได้ถึง 4 คนพร้อมกัน

ในเวลาต่อมาเกมได้พัฒนาภาค 2nd ขึ้น ซึ่งจะเป็นเกมภาค Chronicles เดิมที่เพิ่มตัวละครใหม่เข้ามาสามคน โดยตัวละครเหล่านี้ก็ไปปรากฏตัวเกมภาคสี่บนคอนโซลในภายหลังพร้อมอีเวนต์ความสัมพันธ์ใหม่ๆ และฉากจบใหม่อีกหลายแบบ ท้ายที่สุดก็คือเกมภาค Chronicles 3 ที่อ้างอิงจากภาคสี่ภาคหลัก และเพิ่มด่านปรับปรุงใหม่ รวมไปถึงโหมดมินิเกม และ Castle Town เพื่ออัปเกรด Perk ต่างๆ ให้ตัวละคร

เรียกได้ว่าทุกภาคก็ล้วนมีเสน่ห์เป็นของตัวเองชนิดที่ว่าย้อนกลับไปเล่นก็ล้วนให้ความรู้สึกที่ต่างกันเลยครับ แล้วสำหรับเพื่อนๆ ชื่นชอบภาคไหนกันบ้างว่าแล้วลองมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้นะครับ

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save