เกม

8 เกม PC ชื่อดังประจำร้านเกมยุคเล่นผ่าน LAN

ที่ไม่ว่าเข้าร้านไหน ไปเล่นเมื่อไหร่ก็ต้องเจอ

เมื่อย้อนกลับไปช่วงยุค 90′ ขยับมาทาง 2000 ต้นๆ ธุรกิจร้านเกมและอินเทอร์เน็ตคาเฟ่กลายเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย เนื่องจากมีการเติบโตของอุตสาหกรรมเกมทั่วโลกและการขยายตัวของวงการเกมในวงกว้าง ทำให้การเล่นเกมได้รับความนิยมมากขึ้นและมีผู้สนใจเล่นเกมเป็นงานอดิเรกไม่แพ้การเล่นกีฬาหรือเล่นดนตรีเลย

และช่วงเวลานี้เอง เป็นช่วงเวลาที่เกมออนไลน์ยังไม่ได้รับความนิยมในไทยมากนัก แต่สิ่งที่มาทดแทนเกมออนไลน์ในยุคนั้นก็คือระบบ LAN ซึ่งเป็นการเชื่อมคอมพิวเตอร์เครื่องต่างๆ เข้าหากันผ่านสาย LAN โดยเกมที่เล่นในยุคนั้นก็มักจะเป็นเกม Offline ที่สามารถตั้ง Host และให้ผู้เล่นจากเครื่องอื่น Join เกมเข้ามาเล่นด้วยกันแบบ Co-op หรือ Multi-play ซึ่งมันคือเสน่ห์ของการเล่นเกมกับเพื่อนในยุคนั้น เพราะเราต้องนั่งเล่นข้างๆกัน สื่อสารกันได้อย่างชัดเจน และมันสนุกกว่าการคุยกันผ่านโปรแกรมแชทเป็นไหนๆ และในบทความนี้ ขอนำเสนอ “8 เกม PC ประจำร้านเกมยุค LAN ที่ไม่ว่าเข้าร้านไหนก็ต้องเจอ” มาชมกันดีกว่าครับว่าจะตรงกับเกมที่เพื่อนๆเคยเล่นบ้างไหม

1. Battle Realms


หนึ่งในเกมแนว RTS ในยุคนั้นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา โดยตัวเกมจะเป็นเกมแนวสร้างฐาน ผลิตกำลังพล อัพเกรดป้อม และบุกโจมตีอีกฝ่ายซึ่งเกมนี้จะมีธีมออกไปในทางยุคญี่ปุ่นโบราณ มีดาบ ธนู หอก เป็นอาวุธ มีซามูไร โรนิน เป็นตัวละครหลัก แต่ก็ยังมีเผ่าอื่นๆให้เลือกเล่นด้วย เช่น ปีศาจหรือคนเถื่อน ลักษณะการสู้กันก็จะออกแนวจอมยุทธ์หน่อยๆ มีการฟันแทงหลบหลีก ท่วงท่าของตัวละครนี่เรียกได้ว่าครบครัน แถมตัวละครบางตัวยังมีสกิลให้กดใช้ ซึ่งก็ออกแนวกำลังภายในอะไรทำนองนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกม Battle Realms แตกต่างจากเกม RTS เกมอื่นๆ ก็คือเมื่อหลังจบการต่อสู้มักจะมีฉากการตายที่โหดเอาเรื่อง เช่น โดนฟันคอขาด โดนระเบิดตัวแตกกระจุยกระตาย แขนขากระเด็นออกจากร่าง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างโหดมากในสายตาของเด็กวัยรุ่นยุคนั้น แต่ก็คงเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้เกมนี้ฮิตติดชาร์ตเกมเด็ดประจำร้านเกมในไทย

2. Warcraft 3 + Frozen Throne


ก่อนที่จะมาเป็นเกม MOBA สุดดังอย่าง DotA นั้น Warcraft 3 เคยเป็นเกมแนว RTS มาก่อน และได้รับความนิยมในบ้านเรามากอีกด้วยโดยธีมของเกมนี้จะออกแนวเทพนิยายฝรั่ง มีเผ่ามนุษย์ เผ่าอ็อค เผ่าเอลฟ์ เผ่าดาร์กเอลฟ์ เผ่าต้นไม้ เผ่ายักษ์ อะไรพวกนี้ที่กำลังทำสงครามกันอยู่ซึ่งแต่ละเผ่าก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป บางเผ่าอาจมีจำนวนทหารที่มาก บางเผ่ามีนักเวทย์ที่ใช้เวทย์หมู่ได้ บางเผ่ามีมังกร บางเผ่ามีป้อมปราการสุดแข็งแกร่งก็แล้วแต่เราจะเลือกเล่นเลือกใช้ และอีกสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นจุดเด่นก็คือการมีฮีโร่ประจำเผ่า ที่มีสกิลพิเศษค่อนข้างโกงกว่าตัวอื่นๆ และสามารถใช้ฮีโร่เหล่านี้สร้างความได้เปรียบในการรบกับอีกฝ่ายได้

นอกจากนี้  Warcraft 3 ยังเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องใน Story Mode ค่อนข้างหน้าสนใจ ซึ่งถ้าใครไปเล่นเกมคนเดียว ไม่มีเพื่อนเล่น ก็ยังสามารถเล่น Story Mode แบบเพลินๆได้ ซึ่งมันฮิตมากจนต้องออกภาค Frozen Throne ออกมาเพิ่มเลยทีเดียว

3. Diablo 2


สุดยอดแห่งตำนาน MMORPG ยุคบุกเบิกในบ้านเรา ต้องว่าถ้าไม่มี Diablo 2 มาสอนพวกเราก่อน ก็ไม่รู้ว่าเราจะเล่นเกม MMORPG ในยุคออนไลน์เป็นไหมเพราะความเข้าใจส่วใหญ่ล้วนมาจาก Diablo 2 เป็นพื้นฐานความรู้ทั้งนั้น ธีมเกมจะออกแนวยุคแฟนตาซีโบราณ มีปีศาจ มีเวทย์มนต์ มีเทพ มีอสูร โดยโทนของมันจะออกดาร์กๆหน่อย ซึ่งเกมนี้เราจะได้มีตัวละครให้เลือกเล่นตามสายอาชีพ แต่ละอาชีพก็จะมีสกิลและความสามารถแตกต่างกันไป ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้ตามความถนัดหรือความชอบของตัวเอง ผจนภัยไปบนเส้นทางที่มีแต่ปีศาจมากมาย เก็บเลเวล อัพเกรดของสวมใส่ ทำเควสที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง นั่นคือ Diablo 2 นอกจากนี้เกมนี้ยังมีระบบ Co-op ที่ผู้เล่นสามารถช่วยกันผ่านด่านได้อย่างสนุกสนาน ให้ผู้เล่นที่เก่งกว่ามาช่วยผู้เล่นที่อ่อนแอกว่าได้อีกด้วยและถ้าคุณเก่งพอ เกมนี้มีระบบ PVP ที่จะให้ผู้เล่นซัดกันเองได้เมื่อพบหน้า แต่ในเมื่อเกมนี้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายของโลกแห่งความเป็นจริงถ้าคุณตาย ของทั้งหมดที่คุณพกติดตัวมาก็จะดรอปลงพื้นให้ผู้ชนะได้เก็บทันที หากใครคิดจะ PVP ในเกมนี้ก็ต้องมั่นใจในฝีมือและของพอสมควรล่ะ

4. Serious Sam


สำหรับคนที่เคยเล่นเกมนี้ คงไม่มีใครที่จะไม่หลอนเสียง “อ๊าาาาาาาาาาา!” ใช่ไหมล่ะครับ (555) เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนจดจำ Serious Sam ไปจนวันตายโดยเจ้าของเสียงนี้คือมอนสเตอร์ผีหัวขาดที่ถือระเบิดวิ่งมาพลีชีพใส่เราแบบคามิคาเซ่ ซึ่งปรากฎให้เห็นแทบทุกด่าน จนบางคงที่จำชื่อเกมนี้ไม่ได้ ถึงกับต้องเอาเสียงเจ้าผีระเบิดนี่มาพูดคุยกันเลยทีเดียว ซึ่งก็น่าแปลกใจที่ทุกคนกลับเข้าใจตรงกันทันทีว่ามันคือ Serious Sam โดยเกมนี้จะเป็นเกมแนว FPS ผจนภัยยิงภูติผีปีศาจ ไขปริศนา เผชิญหน้ากับความลึกลับ ที่มีจุดเด่นตรงที่ศัตรูนั้นโคตรเยอะ บางตัวก็โคตรใหญ่ และอาวุธที่เราใช้ก็โคตรเวอร์ เรียกได้ว่าเป็นเกมระบายอารมณ์เกมหนึ่งเลยก็ว่าได้ อารมณ์ประมาณว่า “ดาหน้ากันเข้ามาเลยยย!!” แล้วก็สาดกระสุนไม่ยั้ง ศัตรูมันเยอะขนาดว่าไม่จำเป็นต้องมีความแม่นก็สามารถเล่นเกมนี้จบได้ เพราะยิงยังไงก็โดน แถมการเล่นแบบตั้งใจเล็งแล้วยิงทีละนัดนั้นอาจทำให้เราไม่รอดด้วยซ้ำเรียกได้ว่าเป็นอีกเกมสุดมันส์ที่เมื่อ Co-op เล่นกับเพื่อนแล้วเฮฮาปาตี้กันได้สุดๆ

5. Half Life


อีกเกม FPS ที่ดีมากเกมหนึ่ง ที่มีเนื้อเรื่องดีและน่าสนใจใช้ได้ โดยธีมเกมจะออกแนว Sci-fi คือ มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ มีสัตว์กลายพันธุ์มีอาวุธปืนที่ไฮเทคล้ำยุค ใน Story Mode เล่นคนเดียวก็สนุกลุ้นระทึก แต่พอมาเล่น Multiplay กับเพื่อนๆก็ยิงกันสนั่น ซึ่งส่วนใหญ่คนไทยจะเล่นเกมนี้ด้วยกันในร้าน โดยจะเล่นในรูปแบบของ Battle Royale Deathmatch ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เจอหน้าใครก็ซัดกันเดี๋ยวนั้น มีระยะเวลากำหนดว่ารอบนี้ใช้เวลากี่นาที และพอหมดเวลาก็จะมานับแต้มกันว่าใครฆ่าได้กี่คน และตายกี่ครั้ง ซึ่งมันฟังดูเหมือนเป็นเกมง่ายๆธรรมดาๆทั่วไปแต่สำหรับ Half Life มันคือความมั่วซั่วอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าคุณจะบวกทันทีที่เจอศัตรูหรือรอฆ่าศัตรูที่กำลังยิงกันอยู่ จะปาระเบิด ยิงจรวด ชาร์จเลเซอร์ปล่อยแมงกุดจี่ หนีไปฐานนิวเคลียร์แล้วปล่อยขีปนาวุธ ยิ่งคนเล่นในแมตช์นั้นเยอะก็จะยิ่งนัวกันมากขึ้น ถือว่าเป็นเสน่ห์หลักของการเล่นเกมนี้กับเพื่อนเลยล่ะ

6. Starcraft


สุดยอดเกม RTS ระดับตำนานที่ได้รับความนิยมมาแล้วทั่วโลก และสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการ E-Sport มาแล้วมากมาย มิหนำซ้ำยังมีภาคต่อออกมาใหม่อย่างไม่ขาดสาย ภายใต้การดูแลของค่ายพ่อมดน้ำแข็งอย่าง Blizzard โดยธีมเกมและจุดเด่นของเกมนี้จะอยู่ที่ความเป็น RTS Sci-fi ที่มีความไฮเทค ล้ำยุคล้ำสมัย เป็นเรื่องราวของสงครามอวกาศของเผ่าต่างๆที่มีอุปกรณ์การรบที่เหนือไปกว่าสิ่งที่มีอยู่บนพื้นโลก แต่ภาพรวมก็ยังคงเป็นเกมแนว RTS ที่ต้องมีการสร้างฐาน ผลิตกำลังรบ ค้นหาทรัพยากร วางกลยุทธ์และรบกับอีกฝ่าย สำหรับเพื่อนๆที่ชอบเล่นเกมแนวนี้แล้วชอบความไฮเทค Starcraft ถือเป็นอีกเกมหนึ่งที่ตอบโจทย์เด็กๆในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี

7. Command & Conquer Red Alert 2 + Yuri’s Revenge


และเกม RTS ที่ฮิตที่สุดในบ้านเราจะเป็นเกมอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากเกมนี้ ด้วยธีมเกมที่เป็นยุคปัจจุบัน เป็นสิ่งที่อยู่บนโลก มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมีสถานที่จริง เหมือนจำลองเอาสงครามต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกมาดัดแปลงใหม่ลงบนเกมๆนี้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้ Command & Conquer Red Alert 2กลายมาเป็นเกม RTS ยอดฮิตประจำบ้านเราทันที โดยจุดเด่นของเกมนี้คือการวางแผนกลยุทธ์ในการรบแบบทหารจริงๆ มีการบุกทางบก ทางน้ำและทางอากาศมียูนิตทั้งคนและยานภาหนะ แต่ละอย่างก็จะมีจุดได้เปรียบเสียเปรียบแตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีอาวุธพิเศษประจำประเทศที่เลือกเล่นคล้ายๆกับเรื่องจริงบนโลกสามารถนำทหารเข้าไปซุ่มบนตึกได้ เอาสปายไปสืบข้อมูลในฐานศัตรูได้ เรียกได้ว่าแทบทุกอย่างในเกมนี้ล้วนทำได้บนโลกแห่งความเป็นจริง อีกทั้งระบบ Multiplay ยังสนุกตื่นเต้น และประทับใจผู้เล่นในยุคนั้นเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกเลยที่เกมนี้จะฝังลึกในใจเด็กยุคนั้นและเป็นเกม RTS อันดับ 1 ในใจคนไทยทุกคน

8. Counter Strike


สุดท้ายนี้จะเป็นเกมอื่นไปไม่ได้เลย กับเกม FPS อันดับหนึ่งในใจคนไทยตลอดกาล นั่นคือ Counter Strike ด้วยธีมเกมง่ายๆเบสิคๆอย่างตำรวจจับโจรโดยผู้เล่นจะแบ่งฝ่ายกันว่าจะเป็นตำรวจหรือผู้ร้าย ซึ่งแต่ละฝั่งก็จะมีอาวุธแตกต่างกันบ้าง ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นตามความถนัดของแต่ละคนและเลือกด่านที่จะห้ำหั่นกันอย่างบ้าระห่ำ ถึงแม้เกมนี้จะมีระบบอื่นๆนอกจากการยิงกัน เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การวางและกู้ระเบิด C4 แต่ดูเหมือนผู้เล่นบ้านเราจะไม่ค่อยใส่ใจกับจุดนั้น ส่วนมากก็มักจะมาวัดฝีมือกันด้วยการยิงกันซะมากกว่า และความฮิตของเกมนี้นั้นถึงขั้นถูกนำไปพากษ์เสียงภาษาไทยและแปลหน้า Interface ต่างๆเป็นภาษาไทยเลยทีเดียว จนมีคำพูดติดปากภายในเกมติดหูกันออกมาจนถึงทุกวันนี้อยู่มากมายเช่น “เราพร้อมจะลุยกันมานานแล้ว ฮ่าๆ โย่ว!” , “เราจะบุกอัดข้าศึกด้วยทุกสิ่งที่เรามี ทะลวงมันให้ทะลุ อย่างไม่หยุดยั้ง” หรือ “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยโว้ย!” และอื่นๆอีกมากมายที่ยังตราตรึงอยู่ในใจมาจนถึงทุกวันนี้

ครบแล้วนะครับ กับ “8 เกม PC ชื่อดังประจำร้านเกมยุคเล่นผ่าน LAN ที่ไม่ว่าเข้าร้านไหน ไปเล่นเมื่อไหร่ก็ต้องเจอ” ไม่ทราบว่าเพื่อนๆเคยเล่นเกมที่กล่าวมาหรือเปล่าเอ่ยซึ่งถ้าเพื่อนๆ เป็นเด็กร้านเกมในยุคนั้น ก็คงต้องเคยเล่นทุกเกมอยู่แล้วแหละ เพราะไม่ว่าจะเข้าร้านไหนก็ต้องเจอเกมเหล่านี้แน่ๆ ถึงแรกเริ่มจะไม่เคยเล่นเองแต่ไปร้านเกมทุกวัน เห็นคนอื่นเล่นเกมนี้ทุกวัน มันก็ต้องลองกดเข้าไปลองเล่นดูบ้างแหละน่า เพราะการเล่นเกม LAN ในยุคนั้นไม่จำเป็นต้องสมัคร ID อะไรทั้งสิ้น คิดอยากจะเล่นก็เล่นได้เลย ไม่ต้องผ่านระบบการสมัครให้ยุ่งยาก ยิ่งเพราะเป็นระบบ LAN ที่เล่นกันแค่ผู้เล่นในร้าน ก็จะทำให้เด็กร้านเกมในยุคนั้นรู้สึกสนิทสนมกันมากกว่ายุคที่เป็นเกมออนไลน์แล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆของวงการเกมบ้านเราในยุคนั้นที่ยุคปัจจุบันไม่ค่อยมีให้เห็นกันแล้ว

Credit ภาพ

vgnetwork.it
kaidus.com
shacknews.com
thegolfclub.info
twipu.com
thewertzone.blogspot.com
gamepressure.com
podrobnosti.mk.ua

ผู้เขียน : TF_MakinoJou

เรื่องน่าสนใจ
Close
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save