เกมไลฟ์สไตล์

แนะนำ 9 เครื่องเล่นเกมพกพาที่พร้อมจำหน่าย

ตลาดเครื่องเล่นเกมที่กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง

ถือว่าเป็นช่วงที่เครื่องเล่นเกมพกพากลับมามีกระแสให้พูดถึงกันอีกครั้ง หลังจากที่ครั้งล่าสุดที่มีการพูดถึงกันคงต้องย้อนกลับไปตอนที่ Steam Deck เปิดตัวออกมา ในครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่ามีเครื่องเล่นเกมพกพาใดบ้างที่มีการเปิดตัวออกมาและวางจำหน่ายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วบ้าง แน่นอนว่าด้วยข้อจำกัดของประเทศเราอาจจะไม่สามารถหาซื้อได้ง่ายผ่านในประเทศโดยตรง 

Steam Deck

ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้สำหรับ Steam Deck ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Valve มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 7 นิ้วใช้งานหน่วยประมวลผลภายในของทาง AMD แบบปรับแต่งพิเศษสถาปัตยกรรม Zen 2 พร้อมชิปกราฟิก RDNA 2 ตัวเครื่องทำงานด้วยระบบ SteamOS 3.0 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะเข้าถึงเกมในคลัง Steam ได้ทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถใช้เพื่อความบันเทิงด้านอื่นอย่างการท่องเว็บและแอปพลิเคชัน ตัวเครื่องมาพร้อมกับ trackpad และปุ่มควบคุมมาตรฐานที่ช่วยให้การใช้งานหลากหลายยิ่งขึ้น มีตัวเลือกที่เก็บข้อมูลตั้งแต่ 64GB ไปจนถึง 512GB รองรับการใช้งาน microSD เป็นหนึ่งในเครื่องเล่นเกมพกพาที่น่าสนใจตัวล่าสุดหลังจากการมาของ Nintendo Switch ก็ว่าได้ 

สถานะ: ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย วางจำหน่ายแล้ว

ราคา: $399 – $649 ประมาณ 13,700 – 22,300 บาท

Nintendo Switch

แม้จะเปิดตัวมาได้สักพักใหญ่แล้วแต่หากเราพูดถึงเครื่องเล่นเกมพกพาแล้วไม่กล่าวถึงก็คงจะเป็นเรื่องที่ผิดนัก สำหรับตัวเครื่องในส่วนของสเปคอาจจะไม่ต้องพูดถึงกันมากนักด้วยความสามารถที่มาพร้อมกับการเล่นแบบไฮบริดที่เราสามารถเล่นผ่านตัวเครื่องขนาดหน้าจอ 6.2 นิ้วได้ทุกที่ หรือจะเอาไปวางบนแท่นสำหรับส่งภาพออกไปสู่หน้าจอขนาดใหญ่เสมือนคอนโซลเครื่องหนึ่งก็ยังได้ โดดเด่นด้วย Joy-Con ที่สามารถถอดเข้าออกได้ แบ่งกันสำหรับใช้งาน 2 คนได้ในตัวเดียว หน่วยประมวลผลภายใน NVIDIA Tegra X1 หน่วยความจำ 32GB เพิ่ม microSD ได้ สามารถเล่นเกมได้จาก Nintendo eShop หรือแบบตลับ ขณะที่คู่แข่งในตลาดคอนโซลโดยตรงอย่าง Sony ไม่ได้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมา ทำให้ Nintendo Switch เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาสายคอนโซลแท้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้

สถานะ: มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยโดย Synnex วางจำหน่ายแล้ว

ราคา: 7,090 บาทสำหรับ Nintendo Switch Lite 11,690 บาท สำหรับ Nintendo Switch และ 14,990 บาท สำหรับ Nintendo Switch OLED

Razer Edge

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เกมมิ่งเกียร์ที่โดดเข้ามาร่วมวงเครื่องเล่นเกมพกพาด้วยการส่ง Razer Edge เครื่องเล่นเกมที่มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.8 นิ้วรองรับการแสดงผล 144Hz แน่นอนว่าตัวเครื่องไม่ได้เน้นการเล่นเกมผ่านเครื่องโดยตรงเท่าไหร่นักเนื่องจากทาง Razer ได้ชูจุดเด่นในเรื่องของการเล่นเกมผ่านระบบ cloud ไม่ว่าจะเป็นบริการ Xbox Cloud Gaming หรือ NVIDIA GeForce Now ทำงานอยู่บนระบบ Android ใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon G3x Gen 1 แรม 8GB ที่เก็บข้อมูล 128GB ถือว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ได้รับกระแสตอบรับที่น่าสนใจในต่างประเทศ มีวางจำหน่ายด้วยกันสองรุ่นคือ Wi-Fi และ 5G แต่รุ่น 5G อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะเข้าถึงได้เนื่องจากเป็นการผูกสัญญาเข้ากับผู้ให้บริการเครือข่ายในสหรัฐฯอย่าง Verizon นั่นเอง

สถานะ: ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย วางจำหน่ายแล้ว

ราคา: $399.99 ประมาณ 13,700 บาท

Logitech G Cloud

อาจจะบอกว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ถูกเปิดตัวออกมาก่อน Razer Edge ก็ว่าได้สำหรับ Logitech G Cloud ตัวเครื่องมาพร้อมกับการชูจุดเด่นตามชื่อรุ่นด้วยการเน้นเล่นเกมผ่านระบบ cloud ทำให้สเปคอาจจะไม่ได้สูงมากนัก มาพร้อมหน้าจอ 7 นิ้ว รองรับการแสดงผล 60Hz แรม 4GB ที่น่าสนใจคือขนาดแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 6000mAh ประกอบกับการเน้นเล่นเกมผ่านบริการ Xbox Cloud Gaming, NVIDIA GeForce Now และ Steam Link ทำให้มั่นใจได้ว่าการใช้งานจะต่อเนื่องและยาวนานกว่าเครื่องรุ่นอื่น อีกทั้งยังสามารถทำการดาวน์โหลดเกมและแอปพลิเคชันผ่าน Play Store ได้อีกด้วยเนื่องจากตัวเครื่องใช้งานระบบ Android

สถานะ: ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย วางจำหน่ายแล้ว

ราคา: $299.99 ประมาณ 10,300 บาท

abxylute

ยังคงเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาที่เน้นการใช้งานผ่านระบบ cloud สำหรับ abxylute เครื่องเล่นเกมจากแบรนด์ที่เราอาจจะไม่คุ้นหูกันมากนัก ตัวเครื่องมาพร้อมกับสเปคที่ดูจะด้อยกว่าทุกรุ่นที่เรายกมาด้านบนแต่ในแง่ของการเล่นเกมผ่านระบบ cloud ต้องบอกว่ามันไม่ได้จำเป็นที่จะต้องมีสเปคที่แรงมากนัก ตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว 1080p ใช้งานชิปเซ็ต MediaTek MT8385 แรม 4GB ที่เก็บข้อมูล 64GB จุดเด่นคือเรื่องของน้ำหนักที่เบากว่า Logitech G Cloud โดยที่น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 410 กรัมเท่านั้น ใช้งานผ่านบริการ NVIDIA GeForce Now, Xbox Cloud Gaming และ Steam Link ได้ในตัว

สถานะ: ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย เปิดให้สั่งซื้อแล้วพร้อมจัดส่งประมาณพฤษภาคมนี้

ราคา: $249 ประมาณ 8,500 บาท

Anbernic RG405M

หากใครที่ได้รับชมคลิปใน TikTok หรือ Facebook Reels แบบผ่าน ๆ น่าจะเคยได้พบช่องที่มีการนำตัวเครื่องของแบรนด์ Anbernic มาบ้าง สำหรับ RG405M เป็นรุ่นสานต่อที่ถูกนำเสนอออกมาโดยที่เน้นไปในเรื่องของการเล่นเกมเก่าผ่านอีมูเลเตอร์มากกว่าที่จะเป็นการเล่นผ่าน cloud ด้วยหน้าจอที่มีขนาดเพียง 4.95 นิ้ว ใช้งานชิปเซ็ต Unisoc Tiger T618 SoC แรม 4GB ที่เก็บข้อมูล 128GB ทำให้มันไม่ได้เหมาะกับการเล่นเกมหนัก ๆ มากนัก แต่เกมที่อยู่ภายใน Play Store สามารถที่จะใช้งานได้ ตัวเครื่องทำงานผ่านระบบ Android 12 สามารถที่จะสตรีมจากเครื่องหลักมาเล่นได้ น้ำหนักเพียง 286 กรัม

สถานะ: ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย วางจำหน่ายแล้ว

ราคา: $177.99 ประมาณ 6,100 บาท

AYANEO AIR Plus

เป็นแบรนด์ที่น่าจะกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วสำหรับ AYANEO ตลอดช่วงที่ผ่านมาได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้ผลิตเครื่องเล่นเกมพกพาที่ได้รับมาตรฐานและความไว้วางใจจากผู้ใช้งาน รุ่นที่เรานำมาบอกต่อในครั้งนี้คือ AIR Plus ที่เป็นรุ่นล่าสุดซึ่งมีการเปิดให้เป็นเจ้าของได้แล้วมาพร้อมกับตัวเลือกชิปเซ็ตทั้งจากทาง Intel และ AMD แรมเริ่มต้น 8GB ที่เก็บข้อมูล 128GB ขนาดหน้าจอ 6 นิ้ว ทำงานอยู่บนระบบ Windows ตัวเครื่องมีประสิทธิภาพมากพอที่จะสามารถเล่นเกมผ่านตัวเครื่องได้โดยตรง แบบไม่ต้องพึ่งพาการใช้งานระบบ cloud หรือการสตรีมมาช่วย แต่หากต้องการใช้งานก็สามารถที่จะทำได้เช่นกัน

สถานะ: ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย เปิดให้สั่งซื้อแล้วพร้อมจัดส่งประมาณมิถุนายนนี้

ราคา: $269 – $749 ประมาณ 9,200 – 25,700 บาท

GPD WIN 4

หากไม่มีการพูดถึงแบรนด์ GPD อาจจะโดนมองกันได้ รุ่นล่าสุดที่มีการเปิดตัวและพร้อมวางจำหน่ายแล้วในตอนนี้เป็นรุ่นที่มีชื่อว่า WIN 4 ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 8.4 นิ้ว สเปคอาจจะไม่ได้เป็นรุ่นล่าสุดแต่ถือว่ายังเป็นเรือธงสุดฮิตที่มีการใช้งานกันในเครื่องเล่นเกมพกพาอย่าง Ryzen 7 6800U แรม 16GB ที่เก็บข้อมูล 1TB แม้ว่าจะดูเหมือนมีขนาดที่ใหญ่และหนักแต่ตัวเครื่องยังถือว่ามีขนาดที่เล็กกว่า Steam Deck อยู่พอตัว จุดเด่นที่น่าสนใจอีกเรื่องคือการที่มีคีย์บอร์ดที่ซ่อนเอาไว้ด้านล่างหน้าจอ สามารถที่จะสไลด์จอขึ้นและใช้งานคีย์บอร์ดได้โดยตรง

สถานะ: ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย เปิดให้สั่งซื้อแล้วพร้อมจัดส่งประมาณเมษายนนี้

ราคา: $999 – $1,299 ประมาณ 34,000 – 45,000 บาท

OneXPlayer 2

ปิดท้ายกันด้วย OneXPlayer 2 ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 8.4 นิ้ว พร้อมกับสเปคภายในที่เหมือนกับแบรนด์ก่อนหน้าอย่าง Ryzen 7 6800U ตัวเครื่องมาพร้อมกับแรมเริ่มต้น 16GB พร้อมที่เก็บข้อมูล 512GB พร้อมจุดเด่นอีกเรื่องอย่างการได้ระบบเสียงที่ปรับแต่งจากทาง Harman มาใช้งาน ทำให้ประสบการณ์เล่นเกมดียิ่งขึ้นไปอีกระดับด้วยความที่เป็นรุ่นสานต่อทำให้มันถูกปรับปรุงสิ่งที่เป็นข้อติจากผู้ใช้งานมาเรียบร้อยแล้ว อย่างเช่นเรื่องของการจับที่ถูกทำให้ถนัดมือยิ่งขึ้น

สถานะ: ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย วางจำหน่ายแล้ว

ราคา: $1,149 – $1,499 ประมาณ 39,400 – 51,400 บาท

นี่คือเครื่องเล่นเกมพกพาทั้งหมด 9 รุ่นที่เราได้นำมาให้ทุกคนได้รู้จักกัน ในความเป็นจริงยังมีเครื่องเล่นเกมพกพาอื่น ๆ ที่เปิดตัวออกมาในตลาดและวางจำหน่ายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าจะให้เรายกมาทั้งหมดอาจจะยืดยาวจนเกินไป แต่ถ้าเกิดว่าใครเป็นเจ้าของเครื่องเล่นเกมพกพาเหล่านี้หรือเครื่องรุ่นอื่นอยู่ในมือ และอยากบอกเล่าประสบการณ์การใช้งานก็มาบอกเล่ากันได้เลย

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save