สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ที่อยู่ในวัยทำงานทุกท่าน เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนนั้นถึงแม้จะทำงานหนักแค่ไหนก็ตาม เราก็ยังต้องการที่จะเล่นเกมกันอยู่ใช่ไหมครับ พอแก่ตัวมาเงินเติมเกมมันก็มีมากขึ้น แต่เวลาเล่นเกมกลับมีน้อยลงกว่าที่คิดมาก บางครั้งเราเติมเงินเข้าไปแต่ก็ไม่ได้เล่นเลยก็มี แม้ว่ายุคนี้จะเป็นยุคแห่งเกมมือถือที่เราสามารถเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา แต่มันก็ไม่ได้เล่นเยอะมากมายอะไรขนาดนั้น ดังนั้นคนวัยทำงานอย่างเราจึงมีความต้องการบางอย่างจากเกมมือถือ ที่ถ้าหากว่าไม่มีสิ่งเหล่านี้อาจสร้างความรำคาญใจให้กับเราจนตัดสินใจไม่เล่นเกมนั้นเลยก็ได้ครับ เราไปดูกันดีกว่าว่าเราจะคิดเหมือนกันไหม
1. ปุ่ม Auto Play สู้เอง ทำเควสต์เอง
ในช่วงเวลาที่เป็นเกมเมอร์นั้นเราเข้าใจดีว่าเกมเพลย์และระบบ Battle ที่สนุกมันเป็นยังไง แต่เนื่องจากว่าทุกวันนี้มันไม่มีเวลาเล่นแล้วจะให้ทำยังไงได้ การจะให้นั่งก้มหน้ากดมือถือตลอดเวลาในช่วงชีวิตที่เวลาพักผ่อนก็แทบจะไม่มี เลยเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เราได้นั่งเล่นเกมจริง ๆ จัง ๆ ครับ ดังนั้นปุ่ม Auto Play ไม่ว่าจะเป็นการที่ตัวละครของเราต่อสู้กับมอนสเตอร์เอง หรือเดินเควสต์เอง จึงเป็นสิ่งที่คนวัยทำงานอย่างเราต้องการมาก ๆ ถึงขนาดว่าถ้าเกมไหนไม่มี Auto เราก็อาจจะมองข้ามไปเลยก็ได้ เพราะไม่สามารถกดทิ้งไว้ตอนทำงานหรือตอนเดินทางได้ เราเลยต้องการเกมมือถือที่สามารถเล่นไปด้วยและทำอย่างอื่นไปด้วยได้นั่นเองครับ
2. เร่ง Speed x2 หรือมากกว่านั้น
สำหรับเกมที่เป็นแนว RPG ที่จะต้องเข้าไปสู้กับมอนสเตอร์เป็นด่าน ๆ และมีปุ่ม Auto เล่นเองแล้ว สิ่งที่คนวัยทำงานอย่างเราต้องการอีกอย่างหนึ่งก็คือปุ่มเร่งความเร็ว x2 x3 หรือมากกว่านั้นถ้าเป็นไปได้ เนื่องจากเกม RPG เป็นแนวเกมที่มีการคำนวณค่าพลังจากเลเวล สเตตัส อุปกรณ์และสกิลต่าง ๆ เกิดเป็นการโจมตีไปลดค่า HP ของอีกฝ่าย เอาเข้าจริงการต่อสู้หลายครั้งมันรู้ผลอยู่แล้วว่าเราจะชนะหรือแพ้ การต้องรอการต่อสู้ที่รู้ผลอยู่แล้วมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อและเปลืองเวลามาก ๆ ครับ การมีปุ่มเร่งความเร็วถือว่าเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะ
3. ค่าพลังเฉลี่ยเพื่อให้คำนวณง่าย
หากเกมไหนเป็นเกมแนว MMORPG ที่มีฉาก Open World มีดันเจี้ยนให้ลงเยอะแยะ มีไอเทมมากมาย และมีการ PVP กับผู้เล่นด้วยกัน คนวัยทำงานอย่างเราไม่ได้ต้องการใช้ฝีมือในการบังคับตัวละครให้ชนะหรอกครับ สิ่งที่เรานิยมทำก็คือการอัพตัวละครให้ค่าพลังเกินคอนเทนต์ที่จะเล่น จากนั้นเราก็จะเข้าเล่นคอนเทนต์โดยที่รู้ว่าชนะชัวร์ ส่วนมากจะไม่ค่อยมีการลุ้นหรือตั้งใจฝืนเอาให้ผ่าน (ยกเว้นจำเป็นจริง ๆ) ดังนั้นการมีค่าพลังเฉลี่ยมาให้เราคำนวณง่าย ๆ ว่าตอนนี้สามารถลงดันเจี้ยนนี้ได้หรือยัง มันเป็นอะไรที่สะดวกมากครับ
4. SKIP ฉากหรือการคุยกับ NPC
มีเกมมือถือหลายเกมเลยล่ะที่ค่อนข้างจากภูมิใจกับเนื้อเรื่องที่ตัวเองสร้าง หรืออยากนำเสนอความสัมพันธ์ของตัวละคร หรือไม่ก็อยากจะดึงเวลาให้ผู้เล่นเสียเวลาในเกมเยอะ ๆ (555) แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สำหรับคนวัยทำงานแล้วมันอาจจะเปลืองเวลาโดยใช่เหตุมาก และเราต้องการปุ่ม SKIP หรือข้ามฉากที่เป็นคัตซีนหรือฉากที่เราพูดคุยกับ NPC ในกรณีที่ข้ามไม่ได้ บังคับดู หรือฉากคุยยังบังคับให้เรากดคุยเองด้วยแล้ว อาจจะเอาใจออกห่างนิด ๆ ครับ แต่ถ้าใครเป็นสายเสพเนื้อเรื่องก็โอเค
5. ปล่อยบอทในเกมได้
เกมที่เป็นแนว MMORPG ที่เป็นแนวเกมแบบเน้นเก็บเลเวลเป็นหลักนั้น การเล่นมือเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอต่อการพัฒนาตัวละครของเราให้เก่งขึ้น เพราะมันอาจจะช้าไป ไม่ทันใจ หรืออาจจะไม่ทันคนอื่นเขา ซึ่งการที่เกมนั้นมีระบบปล่อยบอทแบบปิดเกมได้จะเป็นอะไรที่สะดวกต่อผู้เล่นวัยทำงานมาก ๆ เพราะเราไม่ต้องเล่น แค่ตั้งค่าทิ้งไว้แล้วไปทำงาน ตัวละครของเราก็ยังพัฒนาต่อได้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เล่นมันก็ตาม ซึ่งมันเป็นการดีที่ผู้เล่นไม่ต้องหาโปรแกรมช่วยเล่นมาทำให้สังคมเกมมันแย่ลง นอกจากผู้เล่นที่ทำตามกฎจะไม่โอเคแล้ว ตัวเกมก็มีสิทธิ์เจ๊งอีกด้วยครับ
6. รางวัล Offline หรือระบบ Idle ก็ได้
หลัง ๆ มาต้องยอมรับว่าผู้เล่นวัยทำงานอย่างเราแฮปปี้กับรางวัล Offline หรือระบบ Idle มาก ๆ โดยทั้งสองอย่างนี้จะอยู่ในคอนเซ็ปต์ของการปิดเกมแต่ยังได้รับไอเทมและ EXP อยู่เหมือนเดิม โดยตัวเกมจะให้เหตุผลว่าคุณไม่ควรเล่นเกมมากจนเกินไป ควรจะแบ่งเวลาพักผ่อนไปทำอย่างอื่นในชีวิตบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าผู้เล่นวัยทำงานที่มีอะไรให้ทำตลอดวันอยู่แล้ว การไม่ได้เล่นเกมแต่ ID ยังสามารถพัฒนาต่อได้ มันเป็นอะไรที่แฮปปี้มาก ๆ ครับ ยิ่งเกมไหนแจกรางวัล Offline เยอะ ๆ ก็จะยิ่งชอบเข้าไปใหญ่
7. ระบบไม่ต้องซับซ้อน ไม่อยากคิดเยอะ
เชื่อว่าผู้เล่นวัยทำงานที่อาจจะต้องแอบเล่นในออฟฟิศ เล่นตอนกินข้าว ตอนกำลังเดินทาง หรือปล่อย Auto ไว้ในช่วงเวลาทำงาน พวกเราไม่มีเวลามาคิดหรือจดจ่อสักเท่าไหร่นัก ไม่ใช่เพราะเราเล่นเกมไม่เก่ง แต่เป็นเพราะสภาพแวดล้อมมันไม่เอื้ออำนวยให้เราทำแบบนั้นได้ คุณไม่สามารถยิงเกม FPS ตอนโหนรถเมล์ได้แม่นเท่าตอนนั่งเล่นที่โต๊ะ หรือคุณไม่สามารถเล่น Card Game ได้เต็มประสิทธิภาพในตอนที่กำลังปั่นงานอยู่ในออฟฟิศ มันทำให้เราต้องการเกมอะไรที่มันเบสิค รู้อยู่แล้ว ไม่ลึกมาก กดไปเรื่อย ๆ ขอแค่ไม่เลิกเล่นมันก็จะเก่งขึ้น เพราะลึก ๆ แล้วเราก็ไม่ได้อยากไปแข่งขันกับใครอยู่แล้ว ถ้าเราอยากเล่นเกมสายแข่งเราจะหาเวลาตั้งใจเล่นของเราเอง แต่ตอนอยู่ที่ออฟฟิศขอเกมพื้น ๆ ที่พอได้กดจิ้ม ๆ ไปให้สนุกก็พอแล้วครับ
และนี่คือ “7 สิ่งที่คนวัยทำงานต้องการจากเกมมือถือ” ตรงกับสิ่งที่เพื่อน ๆ วัยทำงานคิดกันไหมครับ ส่วนตัวนั้นยอมรับว่าพอทำงานเยอะขึ้น มีเวลาเล่นเกมน้อยลง ความอยากเก่งหรืออยากเอาชนะมันก็ลดลงตามไปด้วยครับ จากการเล่นเกมเพื่อได้ที่ 1 กลับกลายเป็นเล่นเกมเพื่อความสบายใจ หลาย ๆ ครั้งเลือกเล่นเกมที่มันน่าเบื่อแต่กลับเลิกเล่นไม่ได้เพราะมันกดเพลินดี แม้มันอาจไม่ถูกใจคอร์เกมเมอร์อย่างเราแต่มันกลับเหมาะสมกับบริบทที่เราเป็นอยู่ ณ ตอนนี้ มันเลยทำให้เราต้องการเกมแบบนั้นมาเล่นในชีวิตประจำวันครับ
